“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ฉบับนี้ใกล้สิ้นปีไปทุกวินาทีนาที “ไม้หน้าสาม” ขอส่งความปรารถนาดีมายังผู้มีอุปการคุณที่สนับสนุน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ยืนหยัดต่อสู้ด้วย “จรรยาบรรณ - อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ขอให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญความร่มเย็นรุ่งเรืองในปีพุทธศักราช 2563 นี้...

nn ขอพระบารมีแห่ง “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกทั้งปวงแลพระสยามเทวาธิราช จงปกป้องคุ้มครองและรักษาทุกๆ ท่านให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง มีขวัญและกำลังใจ สติปัญญาที่แจ่มใส ในการที่จะเป็นพลังที่เข้มแข็ง มั่นคงต่อประเทศชาติและบ้านเมือง...

nn พร้อมขอสาปแช่งให้กลุ่มชังชาติ กลุ่มที่ปลุกระดมมวลชนออกมาปกป้องผลประโยชน์ส่วนตน - พวกพ้องจงแพ้ภัยพบกับความพินาศย่อยยับด้วยเทอญ...

nn “ไม้หน้าสาม” เวทนา “นารีขี่ม้าขาว - อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ผสมชื่นชมที่รักษาฉายานาม “อีโง่” ได้อย่างเหนียวแน่น หลังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คเพจที่ชื่อ “Yingluck Shinawatra” โอดครวญว่าโดนกระทำกลั่นแกล้งไร้ความยุติธรรม ต้องสูญเสียบ้าน ทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่เธอหามาเองได้ก่อนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ถูกขายทอดตลาดตามคำสั่ง คสช.โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 หรือที่ “ยิ่งลักษณ์” ให้คำจำกัดความว่า “กฎหมายเลือกข้าง” อ่านข้อความอย่างคนที่ไม่เคยติดตามการเมืองเลย คงเกิดความสงสาร แต่ที่ต้องบอกว่า “สมเพช” เพราะนางคงลืมไปว่า “นางรู้เห็นกับโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด” เมื่อครั้งที่นางเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารงานประเทศชาติ นางโพสต์ข้อความราวกับว่า “นางทำบุญสร้างประโยชน์คุณูปการกับประเทศนี้บ้านนี้เมืองนี้อย่างมหาศาล นางคงลืม เกษตรกร 11 ชีวิตที่ต้องฆ่าตัวตาย เพราะโครงการรับจำนำข้าว นางคงลืม “คุณนวลจันทร์ ญาติประทุง” เกษตรกรชาวโพธิ์ประทับช้าง พิจิตร ที่ขึ้นเวที กปปส.ทวงเงินค่าจำนำข้าว และระบายความคับแค้นใจด้วยวรรคทองที่ว่า “คุณยิ่งลักษณ์ คุณมีลูก ฉันก็มีลูก คุณตื่นมาลูกคุณจะกินอะไรมีพร้อมหมด ลูกฉันไม่มีอะไรจะกินเลย” นางถึงกล้าโพสต์ข้อความด้วยความไม่ละอายแก่ใจว่า สิ่งที่ทรัพย์สมบัติ-บ้านถูกขายทอดตลาด, บัญชีธนาคารถูกอายัดคือ สิ่งที่นางได้รับตอบแทนจากการเป็นนายกรัฐมนตรีให้กับประเทศไทย...

nn “ไม้หน้าสาม” ขอชื่นชม “แรมโบ้อีสาน - สุภรณ์อัตถาวงศ์” ที่ยอมเนรคุณพรรคการเมืองและผู้นำพรรคการเมืองที่ก่อทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อชาติออกจดหมายเปิดผนึก เขกกะโหลกให้ “ยิ่งลักษณ์” เกิดสติสามัญสำนึกว่าเหตุที่เป็นเยี่ยงนี้เกิดขึ้นมาจากเหตุใด...

nn “ไม้หน้าสาม” ขอยกวาทกรรมของผู้ว่าการนิคมของอังกฤษ “ท่านเซอร์วิลเลี่ยมส์ ดรัมมอนด์”ในยุคล่าอาณาจักรล่าเมืองขึ้น ที่กล่าวไว้ว่า “คนไม่ยอมใช้เหตุผลเป็นคนดันทุรัง คนไม่สามารถใช้เหตุผลเป็นคนโง่ และคนไม่กล้าใช้เหตุผลเป็นทาส” มาเป็นอุทาหรณ์เตือนสติมาเตือน “ฟูลลิชปู - ยิ่งลักษณ์” จักพยายามส่องกระจกดูบ่อยๆ บ้าง อาจพอจะจัด “ไฟลั่ม” หรือ “สปีชีส์” ให้ตัวเองได้ว่าสมควรสิงสู่อยู่ใน “ความหลากหลายทางชีวภาพ” หรือ “อาณาจักรสัตว์” ใดเพื่อการดำรงชีวิตอยู่ต่อไปวันข้างหน้า จักได้ไตร่ตรองหาเหตุและผลก่อนจะโพสต์ข้อความใดๆให้เป็นที่สมเพชเวทนาในสังคมไทยอีก...

nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม”ขอพื้นที่บอกกล่าวก่อนจะปิดจ๊อบภาระหน้าที่ครั้งนี้ 3 เรื่อง...

nn เรื่องแรก“ไม้หน้าสาม” คงไม่เอ่ยถามหรอกว่าท่านทั้งหลายรู้จัก “แฟลชม็อบ” กันไหมครับ “แฟลชม็อบ-Falsh Mob” ... คือ ... การรวมตัวของกลุ่มคนในสถานที่หนึ่งอย่างฉับพลันเพื่อแสดงสิ่งแปลกตา และดูเหมือนไร้จุดมุ่งหมายในช่วงเวลาสั้น จากนั้นสลายตัว มักจะทำเพื่อจุดประสงค์การบันเทิงการล้อเลียน หรือการแสดงออกทางศิลปะ แฟลชม็อบเกิดขึ้นโดยการนัดกันผ่านการสื่อสารโทรคมนาคม เครือข่ายสังคม หรือการส่งอีเมลต่อๆ กัน” ทว่าที่ “ไม้หน้าสาม” จักกล่าวถึงคือจุดเริ่มต้นของ “แฟลชม็อบ” ว่าต้นตำรับที่ฮือฮามากที่สุดคือ “แฟลชม็อบ” ที่เกิดขึ้นราว 1 ทศวรรษที่แล้ว ณ นครแอนทเวอร์ป ประเทศเบลเยียม เมื่อราวเวลา 08.00 น.เช้าวันที่ 23 มีนาคม 2009 ที่สถานีรถไฟกลางของนครแอนทเวอร์ปด้วยการซ้อมเพียง 2 ครั้ง และนัดแนะกันไม่นาน การตรียมด้านเครื่องเสียงที่มีอยู่ในสถานีนั้นเอง ได้เกิดปรากฏการณ์ที่กลายเป็น“ตำนานของ Flash Mob” มาถึงทุกวันนี้เหตุที่ Flash Mobครั้งนี้ปัง!!สุดขีดอย่างมากเพราะไปหยิบเอาเพลงประกอบสำคัญของภาพยนตร์เรื่อง The Sound of Music มาเปิดเพื่อเป็นการคัดตัวนักแสดงภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว โดยมีผู้มารวมตัวราว200 ชีวิต...

nn เรื่องที่สองในช่วงทิ้งท้าย “ไม้หน้าสาม”อยากบอกเล่าถึงการป้องกันและลดอาการเส้นเลือดตีบ หรืออุดตันในเส้นเลือดได้ ซึ่งเป็นผลการวิจัย โดย “ศาสตราจารย์โนบุยูกิทาคาคูระ” นักวิจัยด้านหลอดเลือดระดับแนวหน้าของญี่ปุ่น เขาแนะนำให้ “วิ่งสลับเท้า” เพื่อป้องกันและลดอาการป่วยดังกล่าว เพราะน่องได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวใจดวงที่สองมันเร่งการไหลเวียนของเลือด ทำให้การไหลเวียนสะดวกขึ้นและช่วยส่งเลือดไปทั่วร่างกาย คนเรามักคิดว่า “หัวใจคืออวัยวะ” ที่คอยสูบฉีดโลหิตที่สำคัญของร่างกาย แต่การขยับของกล้ามเนื้อที่น่องก็มีส่วนสำคัญในการเสริมการไหลเวียนโลหิต การวิ่งสลับเท้าทำให้กล้ามเนื้อต้องขยับตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีเมื่อเลือดไหลมากขึ้น “เซลล์เยื่อหุ้มผนังเส้นเลือดฝอย” ก็ได้รับการกระตุ้น ทำให้เซลล์ยึดเกาะกันแน่นขึ้น ส่งผลให้เซลล์เยื่อหุ้มผนังและเซลล์ปริไซด์เกาะกันแน่นยิ่งขึ้น นี่จึงช่วย “ฟื้นฟูสุขภาพเส้นเลือดฝอยที่ใกล้จะกลายเป็นผี และลดการรั่วซึม” ได้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ท่านสามารถทดลองพิสูจน์ทฤษฎีนี้ได้...

nn เรื่องที่สาม “ไม้หน้าสาม”ขอประชาสัมพันธ์งานสีดำกำหนดสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลศพ “คุณแม่กิมเตียง ปริสุทธิกุล” มารดา อาจารย์ธิติมา -อริชัย บุญเส็ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัยจังหวัดนครปฐม, เอกนิษฐ์ ปริสุทธิกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองงูเหลือม อ.สุนิดา ศิลาโชติ อาจารย์โรงเรียนราชินีบูรณะ นครปฐม และ อาจารย์อังสณา ปรีชาสุนทร อาจารย์โรงเรียนบางเลนวิทยา ระหว่างวันที่ 15-21 ธันวาคม2562 ณ ศาลาจารุโภ วัดพระเนียงแตก อ.เมือง จ.นครปฐมเวลา 20.00 น. และพระราชทานเพลิงศพ วันที่ 22 ธันวาคม2562 เวลา 16.00 น. บุตร-ธิดา-หลานเหลน เจ้าภาพเรียนเชิญท่านผู้มีเกียรติร่วมแสดงความอาลัยและส่งดวงวิญญาณผู้วายชนม์สู่สัมปรายภพโดยทั่วกัน...nn

ไม้หน้าสาม