เหตุการณ์ที่อิหร่านยิงเครื่องบินโบอิ้งโดยสารของประเทศยูเครน ตกในประเทศอิหร่านในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารพลเอก กอซิม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองทัพกุซ ของอิหร่าน ได้เป็นข่าวคราวใหญ่โต และเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการชุมนุมขึ้นในอิหร่านเพื่อขับไล่ผู้นำของอิหร่าน
และเป็นเหตุให้ประธานาธิบดีสหรัฐออกแถลงการณ์สนับสนุนชาวอิหร่านให้เคลื่อนไหวขับไล่ผู้นำอิหร่านด้วย แต่ในที่สุดการเคลื่อนไหวนั้นก็ไม่อาจขยายตัวไปได้ เพราะในที่สุดก็เป็นที่ทราบกันว่าเป็นม็อบจัดตั้ง และมีการจับทูตอังกฤษในที่ชุมนุมจนต้องมีการขอร้องให้อิหร่านปล่อยตัว ซึ่งทำให้อังกฤษเสียหน้าไม่น้อย
ที่สำคัญคือถ้าเป็นชาวชีอะห์แท้จะไม่มีใครกล้าขับไล่ผู้นำสูงสุดชีอะห์โลก คือท่านอิหม่ามคาเมนี เพราะการเข้าสู่ตำแหน่งของท่านก็ดี การดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดชีอะห์โลกก็ดี ไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะวิถีทางการเมือง แต่เป็นวิถีทางศาสนาและเป็นการสืบทอดโดยสายเลือดตามระบบการสืบทอดของมุสลิมนิกายชีอะห์ โดยการได้รับมอบแหวนประจำพระองค์พระศาสดาเป็นสำคัญ ซึ่งขณะนี้ท่านอิหม่ามคาเมนีก็เป็นผู้รับสืบทอดนั้น
ดังนั้นรัฐบาลอิหร่านจึงจับได้ว่าม็อบดังกล่าวมีเงื่อนงำอยู่เบื้องหลัง ทั้งเป็นม็อบขนาดเล็ก น้อยกว่าม็อบเมื่อครั้งที่ต่อต้านการขึ้นราคาสินค้าหลายเท่า
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือหลังจากข้อเท็จจริงปรากฏว่าอิหร่านเป็นผู้ยิงเครื่องบินโบอิ้งของยูเครนตกแล้วก็ได้กล่าวอ้างว่ามีการรบกวนระบบเรดาร์ของอิหร่าน ทำให้เข้าใจผิดว่าเครื่องบินโดยสารนั้นเป็นขีปนาวุธที่วิ่งเข้าทำลายกองบัญชาการกองทัพอิหร่าน ซึ่งในสถานการณ์ศึกสงครามเช่นนั้นไม่ว่าเป็นใครก็ต้องยิงสกัดทั้งสิ้น
ต่างกันตรงที่อิหร่านได้ยอมรับความจริงดังกล่าวอย่างรวดเร็วและเปิดเผย ทำให้ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากชาวโลก เพราะเป็นประเทศไหนก็ต้องทำเช่นนั้น
ที่สำคัญคือมีการเปิดประเด็นต่อเนื่องขึ้น ซึ่งจะโดยการสนับสนุนข้อมูลจากรัสเซียหรือประเทศอื่นใด หรือจากอิหร่านเองก็ไม่แน่ชัดว่าเครื่องบินโดยสารโบอิ้งของยูเครน ลำที่ถูกยิงนั้นมีเส้นทางบินตามที่กำหนดอยู่แล้ว แต่เครื่องบินลำดังกล่าวได้บินออกนอกเส้นทางบิน และบินโฉมหน้าไปยังกองบัญชาการกองทัพอิหร่าน โดยไม่มีการแจ้งเหตุผลและข้อเท็จจริงใดๆ ว่าทำไมจึงบินออกนอกเส้นทางบิน และทำไมจึงบินไปยังกองบัญชาการกองทหารอิหร่านในสถานการณ์เช่นนั้น
จึงเกิดคำถามขึ้นมากมายในหลายประเทศทั่วโลก เหตุใดเครื่องบินโดยสารโบอิ้งของประเทศยูเครนลำดังกล่าวจึงบินออกนอกเส้นทาง สาเหตุเกิดจากถูกบังคับและบังคับโดยอะไร และเมื่อคำถามนี้เกิดขึ้นก็มีการขยายคำถามต่อไปเชื่อมโยงกับเครื่องบินโบอิ้งที่ถูกยิงตกอีกหลายลำ
ลำแรกคือเครื่องบินโบอิ้งของประเทศมาเลเซียที่บินไปยังประเทศยูเครน และออกนอกเส้นทางเข้าไปยังพื้นที่ความมั่นคงของยูเครนและรัสเซีย จึงถูกยิงตกผู้โดยสารตายเรียบทั้งลำ ซึ่งเกิดคำถามเช่นเดียวกันว่าใครบังคับหรือทำให้เครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวบินออกนอกเส้นทาง และโดยไม่มีการแจ้งให้ศูนย์บังคับการบินที่เกี่ยวข้องทราบ และจนบัดนี้ก็ไม่มีคำตอบ
ลำที่สองคือเครื่องบินโบอิ้งของประเทศมาเลเซียเช่นเดียวกัน ที่ขึ้นบินจากประเทศมาเลเซียไปยังประเทศจีน ครั้นไปถึงบริเวณใกล้เกาะไหหลำก็ขาดการติดต่อ ซึ่งตอนแรกมีการเปิดเผยข่าวว่าเครื่องบินตกในย่านนั้น แต่ต่อมาภายหลังได้ตรวจสอบพบว่าเครื่องบินดังกล่าวได้บินกลับในทิศทางเดิมจนกระทั่งผ่านประเทศมาเลเซียเข้าไปยังพื้นที่มหาสมุทรอินเดียตอนใต้สุดและหายไป
บางกระแสข่าวว่าถูกยิงตกบ้าง บางกระแสข่าวว่าตกในทะเลบ้าง และหายสาบสูญไปจนบัดนี้ โดยที่ไม่ปรากฏว่าสาเหตุใด
จึงเกิดคำถามใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกันว่าใครบังคับเครื่องบินโดยสารลำดังกล่าวให้เปลี่ยนเส้นทาง เพราะถ้าหากถูกจี้เครื่องบินก็ยังสามารถติดต่อกับศูนย์ควบคุมการบินได้ไม่มากก็น้อย แต่จู่ๆ ก็เหมือนระบบทั้งหลายดับเงียบหายไปในฉับพลัน จึงเกิดข้อสันนิษฐานว่ามีระบบการบังคับเครื่องบินลำดังกล่าว
ซึ่งมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงต่อมาว่าในเครื่องบินลำดังกล่าวมีนักวิทยาศาสตร์คนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของจีนโดยสารไปด้วย
เหตุการณ์ทำนองนี้ยังเคยเกิดขึ้นกับเครื่องบินของรัสเซีย ที่กองทัพตุรกีสำคัญผิดคิดว่าเป็นขีปนาวุธแล้วยิงถล่มจนเครื่องบินตก เป็นเหตุให้เกิดการผิดใจกันระหว่างตุรกีกับรัสเซียชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ในที่สุดทั้งสองประเทศนี้เมื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันแล้วปรากฏผลอย่างไรไม่มีความชัดเจน
แต่หลังจากนั้นทั้งตุรกีและรัสเซียก็จับไม้จับมือกันร่วมหัวจมท้ายในการร่วมปราบปรามพวกไอซิสในอิรักและซีเรียอย่างเข้มข้น กระทั่งว่ากันว่ากลุ่มนาโตได้สูญเสียตุรกีซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญให้แก่กลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ไปเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น เมื่อนักวิเคราะห์และนักขี้สงสัยทั้งหลายจากหลายประเทศทั่วโลกตั้งข้อสงสัยเชื่อมโยงปะติดปะต่อกับการวิเคราะห์ต่างๆ จึงเพ่งประเด็นข้อสงสัยไปที่เครื่องบินโดยสารโบอิ้งของประเทศยูเครน ถูกอะไรก็ไม่รู้บังคับให้เปลี่ยนเส้นทางมุ่งไปยังกองบัญชาการทหารอิหร่าน ในขณะที่กองทหารอิหร่านก็ถูกรบกวนสัญญาณเรดาร์ให้เข้าใจผิดว่าเครื่องบินดังกล่าวเป็นขีปนาวุธ
การสอบสวนหาความจริงเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องน่าระทึกใจเรื่องหนึ่งของโลก
ขออภัย
ตามบทความเรื่อง การแผ่ขยายของมุสลิมในประเทศไทย ซึ่งได้สรุปข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย โดยสรุปจากข่าวสารต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ศูนย์พิทักษ์ธรรมมีหนังสือมายังสำนักพิมพ์ ขอให้ไตร่ตรองข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำเสนอต่อสาธารณชนต่อไปเพื่อไม่ให้นำไปสู่การสะสมทัศนคติเชิงลบต่อกันนั้น
สำนักพิมพ์ขออภัยที่บทความดังกล่าว ก่อให้เกิดความไม่สบายใจและขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะทำการตรวจสอบไตร่ตรองข้อเท็จจริงต่างๆ ก่อนที่จะนำเสนอบทความต่อไป ทั้งนี้ ด้วยความปรารถนาให้ประเทศไทย ที่ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา อยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจอันดี มีสิทธิและเสรีภาพอย่างสมบูรณ์ ในการนับถือและปฏิบัติตามหลักคำสอนของแต่ละศาสนา ดังที่เป็นอยู่ตลอดมา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี