เป็นความจริงว่าเศรษฐกิจไทยต้องพึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยวมากอย่างมีนัยสำคัญ ดังพบว่ารายได้จากการท่องเที่ยวของไทยมีมูลค่าสูงถึงร้อยละ 17ของGDP ทั้งนี้มีตัวเลขเชิงประจักษ์ที่ผู้ติดสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทยทราบเป็นอย่างดีคือมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยในแต่ละปีเป็นจำนวนมากเป็นอันดับหนึ่งในบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
แต่ในยามนี้เมื่อกำลังมีเหตุเกี่ยวเนื่องกับโรคระบาดเกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่นของจีน ที่หลายคนเรียกว่า ไวรัสอู่ฮั่น ก็ทำให้เกิดความหวาดวิตกตามมาว่า รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยจะได้รับผลกระทบด้านลบอย่างหนัก แล้วถ้าความหวาดวิตกนี้กลายเป็นความจริงขึ้นมา ก็มีคำถามตามมาว่ารัฐบาลไทยจะหารายได้จากแหล่งใดเข้ามาจุนเจือประเทศ เพราะที่ผ่านมาหลายปีนั้น รัฐบาลไทยอาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักมาโดยตลอด ซึ่งเคยมีผู้ตั้งคำถามไว้เสมอๆ ว่า หากไทยต้องพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวในอัตราที่สูงมากจนน่าเป็นห่วงเช่นนี้ แล้วถ้าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา ไม่ว่าจะภายในประเทศไทย หรือในต่างประเทศจนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เข้ามาเที่ยวไทยอีกต่อไป รายได้ของประเทศไทยจะดิ่งเหวอย่างไม่ต้องสงสัย
ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่คนไทยจำนวนไม่น้อย รวมถึงรัฐบาลไทยเองด้วย อาจไม่ค่อยให้ความสนใจมากนักคือจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย ถามว่าทำไมจึงต้องสนใจประเด็นนี้ ก็อยากเรียนให้คุณผู้อ่านตั้งเป็นคำถามไว้ในใจว่า ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 70 ล้านคนแต่ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 40 ล้านคนต่อปี นั้นแสดงว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราพึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยวมากเกินไปใช่หรือไม่ต้องขอย้ำว่าการที่พูดเช่นนี้ มิได้ต้องการขับไล่นักท่องเที่ยวต่างชาติไปจากประเทศไทย แต่เพียงแค่ต้องการให้ตระหนักว่า เราจำเป็นต้องคัดสรรนักท่องเที่ยวให้มากกว่าที่เราปล่อยให้เกิดขึ้นในทุกวันนี้
คำถามคือการมีนักท่องเที่ยวมากมายมหาศาลแล้วทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจริงหรือ หรือว่าเรามีแต่หัวของนักท่องเที่ยว แต่รายได้อันเกิดจากนักท่องเที่ยวมิได้มากขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากเรามีนักท่องเที่ยวจำพวกเดินเที่ยวทั้งวัน แต่ไม่ซื้อของไม่จับจ่ายใช้สอย หรือที่หลายคนเสียดสีว่า มีนักท่องเที่ยวล้นประเทศ แต่ก็เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวไร้คุณภาพ เที่ยวทั้งวันแต่ซื้อน้ำดื่มขวดลิตรเพียงขวดเดียว นักท่องเที่ยวแบบนี้หลายคนเรียกว่า “ตัวก่อขยะ” มากกว่า
มีคนบางกลุ่มบอกว่า การมีนักท่องเที่ยวมากๆแต่ไม่ก่อให้เกิดรายได้กับประเทศอย่างที่ควรจะเป็นก็คือการนำขยะเข้ามาทิ้งในบ้านของเรา คนเหล่านั้นเข้ามาเพื่อขี้รดตดใส่บ้านเมืองของเรา ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่ประการใด
ดังนั้นขอให้รัฐบาลไทยจงเลิกบ้าบอ ไร้สติกับการนับจำนวนหัวนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แล้ว ขอถามจริงๆ เถอะว่ามันมีประโยชน์อะไรกับการมีนักท่องเที่ยวมากมายจนล้นแผ่นดิน แล้วนักท่องเที่ยวเข้ามาสร้างขยะ เข้ามาใช้ทรัพยากรของประเทศไทย แต่กลับไม่ได้สร้างรายได้ที่เหมาะสมให้กับประเทศไทย
รัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ไม่ควรเพ้อฝันไปกับตัวเลขนักท่องเที่ยว แต่ควรจะต้องให้ความสำคัญกับรายได้อันเกิดจากการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี