มีเรื่องน่าแปลกใจ เมื่อปรากฏข่าวการทุจริตในแวดวงสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ
เปิดเผยโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจเอง
โดยสมาคมฯ ออกเอกสารข่าวแจ้งสมาชิกว่า
“ตามที่คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจได้ว่าจ้างบริษัท เอ็นแอนด์เค จำกัด จัดทำงบการเงินย้อนหลัง 2 ปี รวมทั้งปีปัจจุบัน (2560-2562 ที่ยังไม่มีการปิดงบฯ)ทั้งนี้ เพื่อนำไปยื่นภาษีต่อกรมสรรพากร และกรมการปกครอง โดยบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562
ต่อมา บริษัท เอ็นแอนด์เคฯ ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบบัญชีเบื้องต้นมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ตรวจพบอดีตรองผู้จัดการฯ กระทำการทุจริต ยักยอก ลักทรัพย์ของสมาคมฯเพิ่มเติมอีกประมาณ 13 ล้านบาท
จากเดิมที่สมาคมฯเคยร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 17 ล้านบาท
รวมความเสียหายปัจจุบัน จำนวนประมาณ 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ ยอดความเสียหายที่ตรวจพบเพิ่มเติมเป็นยอดประมาณ 30 ล้านบาท ตามที่กล่าวข้างต้นนั้น ทางบริษัท เอ็นแอนด์เคฯ ได้ตรวจพบ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1.กลุ่มเติมตัวเลขด้านหน้า ใบเบิกเงินกับธนาคารจำนวน 42 ครั้ง เป็นวงเงิน 24,696,140 บาท
2.กลุ่มเบิกซ้ำเบิกเกิน จำนวน 2,387,779 บาท
ตัวอย่างการเบิกซ้ำ การเบิกเงินค่าออแกไนซ์งานสัมมนาใหญ่ ได้บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนเต็มไปแล้ว จำนวน 500,000 บาท มีการเบิกเงินค่ามัดจำวนมาเบิกค่าใช้จ่ายซ้ำอีกรอบ เป็นจำนวนเงิน 165,650 บาท ฯลฯ
ตัวอย่างการเบิกเกิน ค่า ภ.ง.ด.55 ปี 2559 เบิกเงินจำนวน 448,534.48 บาท มีการตรวจพบใบเสร็จ ภ.ง.ด.55 ยอด 5785.11 บาท ฯลฯ
3.กลุ่ม ยอดยกมาจาการเบิกเงินไว้แล้วปีก่อน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเงินเดือน โอที ประกันสังคม จำนวน 1,557,586.90 บาท
จากการตรวจพบการกระทำความผิดเพิ่มเติมตามที่กล่าวข้างต้นนั้น คณะกรรมการสมาคมฯ มิอาจเพิกเฉยได้ จึงดำเนินการเชิญ อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ พร้อมด้วยบริษัทบัญชีและที่ปรึกษากฎหมาย เข้าหารือและขอคำแนะนำ โดยในที่ประชุมมีมติให้ฟ้องร้อง กล่าวโทษ ร้องทุกข์ เพิ่มเติมต่อไป
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับอดีตรองผู้จัดการ ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีพร้อมส่งตัวผู้ต้องหาไปให้อัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป”
1. ขอชื่นชมสมาคมที่ไม่เพิกเฉย ไม่ปกป้องคนกระทำผิด
และยังเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะด้วย
2. วิธีการโกงในกรณีนี้ ช่างน่าอนาถใจ
แทบไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าทำถึงเพียงนี้
ทำถึงขนาดใช้วิธีเติมตัวเลขด้านหน้า
มันช่างทำกันได้ลงคอหนอ
3. ผู้กระทำการทุจริต เป็นถึงระดับ “อดีตรองผู้จัดการ”
น่าสนใจว่า เป็นนักข่าว หรือสื่อมวลชนสังกัดหน่วยงานไหน สำนักไหน ด้วยหรือไม่?
หรือมีใครในแวดวงสื่อมวลชนที่ร่วมรู้เห็น สนับสนุน ด้วยหรือไม่?
ถ้ามี สมควรให้ต้นสังกัดจัดการเสียให้เด็ดขาดด้วย
4. เหตุการณ์นี้ ควรดำเนินการ ติดตามเรื่องให้ถึงที่สุด เป็นแบบอย่าง
ทำให้สังคมเห็นว่า คนในแวดวงสื่อ ไม่ปกป้องเรื่องทุจริตฉาวโฉ่ในวงการเดียวกันเอง
จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของสื่อมวลชนในสายตาสาธารณชนได้ด้วย
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี