l 1. คนสม่ำเสมอ เคารพตน คิดถึงผู้อื่น ส่วนรวมแผ่นดินเกิด ไม่เอาเปรียบใคร มีน้ำใจ เวลาให้เพื่อนมิตรมีน้ำจิต เชื่อใจ จริงใจ รำลึกถึง ให้กำลังใจกันเสมอ การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย พอเพียง ประหยัดมัธยัสถ์ การให้ การเข้าใจคนอื่น ใจสัตย์ซื่อมือสะอาด ไม่โกงกิน เคารพคนดี รักประเพณีวัฒนธรรมสถาบันฯ
l 2. คนรุ่นนี้ มีโอกาสพิเศษ ทั้งดีร้าย สุขทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง โอกาส อุปสรรค ฯลฯ
ผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยคาดคิด จะได้พบได้เห็น ในชีวิต ๗๐ ปี ของผู้เฒ่า ทั้งโลกโรค ภัยธรรมชาติ รวมทั้ง อุดมคติ อคติ อวิชชาการมีสติปัญญาฯ ที่เข้ามาในแต่ละช่วงของชีวิต
ชีวิต นี่คือละคร : เรื่องจริง ที่คาดคิด และคาดไม่ถึง รวมทั้งเรื่องไม่รู้ที่มากมาย
เพราะความผันแปร เปลี่ยนแปลงทุกบททุกตอน : ต่อตัวเราและผู้อื่นฯ ช่วงแรกๆ มาช้าๆ เนิบนาบ แต่เริ่มมาเร็ว และแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันขณะการซึมซับ รับสร้างภูมิต้านทาน ที่สะสม สรุปบทเรียน จึงแบกรับได้
l 3. เรารู้ เพียงบางส่วน บางตอน บางบท บางฉาก ฯลฯ ไม่มีเรื่องใด ที่เราจะรู้หมด
๑. ทั้ง คน องค์กร ที่อยู่คนละฟากฝั่ง
๒. คน องค์กร ที่เป็นเพื่อนมิตร แนวร่วมที่เราร่วมเดินทางสายยาวที่เราน่าจะรู้มากกว่า แต่หลายเรื่องหลายตัวละคร เรารู้น้อยมากเพราะ ทั้งนิสัยส่วนตัวช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป วัยละอ่อนบริสุทธิ์ ช่วงเติบโตและแก่วัย สถานการณ์ ที่เราต้องร่วมทางเดินเดียวกัน และช่วงแยกทางเดิน เพราะต่างคิด
๓. ทั้งในจุดเริ่มต้น ระหว่างทาง และปลายทาง ทั้งที่จบไปแล้ว และยังไม่จบ
๔. บางเรื่อง เรามารับรู้ หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป และอีกไม่น้อย เป็นความดำมืด และจากไป แม้ว่าเราจะอยู่ในฐานะผู้นำ หรือผู้ตาม หรือร่วมแสดงละคร ที่เรารัก และมันมาเอง
l 4. เพราะความจริง เราเป็นพลังเล็กๆ
ในท่ามกลางพลังหลากหลายฝ่ายที่มีกำลังเข้มแข็งเป็นจริงมากกว่า และเราไม่ได้รู้มาก (แม้ว่าจะมากกว่า
คนไม่น้อย ในฐานะผู้นำ) มีเรื่องราวที่ไม่รู้ ไม่รู้จักจริง อีกมากมาย ทั้งคนคุ้นเคย และคนแปลกหน้า
l 5. เพราะเหตุปัจจัย ที่สำคัญ คือ
เราและคนในยุคสมัยต่างๆ ไม่เคยมีการสรุปบทเรียนที่เป็นจริงของแต่ละเหตุการณ์ เราจึงไม่รู้ความจริงแท้ จึงไม่สามารถแก้วิกฤติ “บางอย่างที่สำคัญ” ได้เป็นเพียงการรู้ จากส่วนที่เราเข้าร่วมส่วนที่เกี่ยวข้องที่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมดของเหตุการณ์ และแต่ละ “ตัวละคร” ทั้งสองฝ่ายไม่พูดความจริงทั้งหมด โดยเฉพาะข้ออ่อน ข้อจำกัดของตน
6. ทำให้เราได้สรุปบทเรียนที่เป็นจริงในชีวิต ได้หลายเรื่อง
๑. ชีวิต ความคิด วิถีชีวิต : ถูกกำหนดจาก
๑.๑ พื้นฐานเริ่มต้นของชีวิต
ชาติกำเนิด ฐานะ ความเป็นอยู่ สภาพแวดล้อม การเลี้ยงดูสอนสั่งฯ จะสร้าง “ความคิด จิตสำนึก คติ อคติฯ” ที่จะหล่อเลี้ยง และแสดงบทบาทในชีวิต
๑.๒ บทบาททางความคิด แบบอย่าง ของพ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร ที่สนิทคุ้นเคย ซึ่งแน่ละมีทั้งดีมาก ดีน้อยฯ จะฝังในจิต และแสดงออกในแต่ละช่วงของชีวิต
๑.๓ บทบาทผู้นำทางความคิดของยุคสมัยของเรา และของโลก ที่เปลี่ยนไป
๑.๔ เส้นทางเดินที่ลำบากยากเข็ญ มีอุปสรรคมาก ย่อมสร้างความเป็นมิตรแท้ได้มากกว่า
๒. การพัฒนา การฝึกจิตใจของตน ผ่านการสรุปบทเรียนประจำ ต่อเนื่อง มีส่วนอย่างมากที่จะนำมาใช้ในการกำหนด ชีวทรรศน์ โลกทรรศน์ ของตนในทางที่ดีฯ จนเป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของตัวตนของเรา
๓. “อัตตา หิ อัตตโน นาโถ โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อัตตนา หิ สุทันเตนะ นาถัง ลภติ ทุลลภังฯ”
ตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ใครอื่นจะมาเป็นที่พึ่งได้ ผู้ที่ฝึกตนได้ดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งที่หาได้ยาก
๔. ความเป็นครอบครัวเดียวกัน ภรรยาสามี พ่อแม่ลูก พี่น้อง จะมีความรัก ความเข้าใจ จริงใจกัน มากกว่าบุคคลอื่น
๕. “มิตรภาพ เพื่อน ความจริงใจ เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง แต่การที่จะรักษามันไว้ให้อยู่กับเราได้นานมันยากยิ่งกว่า”
ความเป็นมิตรแท้ ขึ้นกับตัวเรา (เป็นหลัก) และการพัฒนาความรักความเข้าใจกันของเพื่อนความคุ้นเคย สัมพันธ์ การใช้ชีวิต การมีเวลาให้แก่กัน :มีความสำคัญ ในการพัฒนาฯ
๖. การผ่านชีวิต ทั้งสุขทุกข์ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน สร้างความแข็งแกร่งมั่นคงกว่าหลายคนที่ถูกหวย มีโชควาสนา จากการอิง พึ่งพา คนมีอำนาจ คนโกงกิน โกหกหลอกลวงจะแสดงธาตุแท้ของตนออกมาให้เห็นประจักษ์ แม้จะปิดบังซ่อนเร้นความชั่วไว้ในเสื้อหรูที่ปกกาย
๗. การทำงาน การเคลื่อนไหวกายใจ ไปในทางที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น เป็นการปฏิบัติธรรม
๘. การให้ การเสียสละ “เวลา เงินทองวัตถุความคิด ใจ” : ให้แก่ผู้อื่น และส่วนรวม โดยเฉพาะ การอภัยให้ผู้อื่น (แม้ต่อคนที่ทำไม่ดีต่อเรา) ทำให้ใจตนเป็นสุข
๙. ใครทำบุญ กรรม อะไรไว้ ย่อมได้รับผลตอบแทนเช่นนั้น แต่ในชีวิตจริงที่เห็น “คนไม่ดีคนชั่ว ไม่น้อย มีชีวิตที่สุขสบาย คนนับหน้าถือตาฯ“ทั้งนี้ มันเป็นการสะท้อนถึง” สังคมยังมีความเหลื่อมล้ำ คนยังขาดคุณภาพฯ
๑๐. “คนอื่น” ที่เห็นง่าย มักเป็นเป้าให้กล่าวหา มากกว่า “ตัวกู” ที่ไม่เห็น หรือเห็นยากกว่า
l โลกมนุษย์ ยังมีอะไรอีกมาก ที่เราไม่รู้ไม่เห็น : ทั้ง ความคิด โลก โรคภัย อนาคตที่ไม่คาดคิด
ข้อสำคัญที่สุด คือ การเรียนรู้และเข้าใจ“ตัวเอง” จากการพัฒนาตนตลอดไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี