วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมัยที่ 2 ที่เผชิญปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดในวันที่ 7 เมษายน 2563 เพื่อประคองภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้ทรุดหนักเพราะภาวะวิกฤติมีผลประโยชน์ที่จะให้ประชาชนทั้ง 67.5 ล้านคนได้รับดังนี้
มีมติขยายการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานอิสระ เดือนละ 5,000 บาท ที่ลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ออกไปเป็น 6 เดือน จากเดิมให้แค่ 3 เดือน โดยจะจ่ายไปถึงเดือนกันยายน จากเดิมจ่ายถึงมิถุนายน ส่วนคนที่จะได้รับเงินนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ใครผ่าน ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ซึ่งกลุ่มนี้ได้แก่กลุ่มอาชีพอิสระประมาณไม่เกิน 9 ล้านคนได้แก่
ไกด์หรือมัคคุเทศก์,คนขับรถรับจ้างสาธารณะหรือแท็กซี่,คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง,คนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลพ่อค้าและแม่ค้าของเร่,พ่อค้าและแม่ค้าจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป,ช่างตัดผม,ช่างเสริมสวย,ช่างแต่งหน้า,พนักงานนวดแผนไทย,พนักงานนวดในสถานบริการ,พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารขนาดเล็ก,พนักงานประจำสถานบริการหรือร้านอาหารที่มีผู้บริการลูกค้า เช่น สาวนั่งขายเครื่องดื่มฯลฯ ส่วนนี้จะใช้เงินประมาณ 135,000 ล้านบาท
มีมติให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าครัวเรือนละ 90 หน่วย โดยไม่ต้องเสียเงินค่าใช้ไฟฟ้าเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้จะได้ลดภาระค่าไฟฟ้าเดือนละประมาณ 200 บาท โดยรัฐบาลตั้งงบประมาณจ่ายให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแก่ประชาชนแทนในวงเงินประมาณ 5,000 ถึง 6,000 ล้านบาท
มาตรการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจระยะที่ 3 วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน รวมกับ พ.ร.บ.โอนงบประมาณวงเงินรวม 1 ล้านล้านบาท แบ่งวงเงิน 2 กอง คือ ดูแลสาธารณสุขและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 6 แสนล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 4 แสนล้านบาทและอีก 9 แสนล้านบาท เป็นเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย ออกเป็น พ.ร.ก.2 ฉบับ แบ่งเป็น พ.ร.ก.ซอฟต์โลน 5 แสนล้านบาท และ พ.ร.ก.เพื่อไปช่วยซื้อตราสารหนี้เอกชน 4 แสนล้านบาท
มีคำถามว่ารัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยจะเอาเงินมาจากที่ใดนั้น รัฐบาลจะได้ 1 ล้านล้านบาทจากงบประมาณปี 2563 ที่มีอยู่ 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเท่ากับร้อยละ 31.25 ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นมีวงเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ 7.5 ล้านล้านบาท วงเงิน 900,000 ล้านบาทเท่ากับร้อยละ 12 โดยภาพรวมวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทจะเพียงพอสำหรับการประคองภาวะเศรษฐกิจในปี 2563 หรือไม่คำตอบก็คือน่าจะพอและไม่น่ามีปัญหาอะไรแน่นอน

'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62
มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน
สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา
แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี