คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมัยที่ 2 ที่เผชิญปัญหาโรคไวรัสโควิด-19 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุดในวันที่ 7 เมษายน 2563 เพื่อประคองภาวะเศรษฐกิจของประเทศไม่ให้ทรุดหนักเพราะภาวะวิกฤติมีผลประโยชน์ที่จะให้ประชาชนทั้ง 67.5 ล้านคนได้รับดังนี้
มีมติขยายการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานอิสระ เดือนละ 5,000 บาท ที่ลงทะเบียนผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ออกไปเป็น 6 เดือน จากเดิมให้แค่ 3 เดือน โดยจะจ่ายไปถึงเดือนกันยายน จากเดิมจ่ายถึงมิถุนายน ส่วนคนที่จะได้รับเงินนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ใครผ่าน ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดไว้ซึ่งกลุ่มนี้ได้แก่กลุ่มอาชีพอิสระประมาณไม่เกิน 9 ล้านคนได้แก่
ไกด์หรือมัคคุเทศก์,คนขับรถรับจ้างสาธารณะหรือแท็กซี่,คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง,คนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลพ่อค้าและแม่ค้าของเร่,พ่อค้าและแม่ค้าจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป,ช่างตัดผม,ช่างเสริมสวย,ช่างแต่งหน้า,พนักงานนวดแผนไทย,พนักงานนวดในสถานบริการ,พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารขนาดเล็ก,พนักงานประจำสถานบริการหรือร้านอาหารที่มีผู้บริการลูกค้า เช่น สาวนั่งขายเครื่องดื่มฯลฯ ส่วนนี้จะใช้เงินประมาณ 135,000 ล้านบาท
มีมติให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าครัวเรือนละ 90 หน่วย โดยไม่ต้องเสียเงินค่าใช้ไฟฟ้าเวลา 3 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้จะได้ลดภาระค่าไฟฟ้าเดือนละประมาณ 200 บาท โดยรัฐบาลตั้งงบประมาณจ่ายให้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแก่ประชาชนแทนในวงเงินประมาณ 5,000 ถึง 6,000 ล้านบาท
มาตรการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจระยะที่ 3 วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน รวมกับ พ.ร.บ.โอนงบประมาณวงเงินรวม 1 ล้านล้านบาท แบ่งวงเงิน 2 กอง คือ ดูแลสาธารณสุขและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 6 แสนล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 4 แสนล้านบาทและอีก 9 แสนล้านบาท เป็นเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย ออกเป็น พ.ร.ก.2 ฉบับ แบ่งเป็น พ.ร.ก.ซอฟต์โลน 5 แสนล้านบาท และ พ.ร.ก.เพื่อไปช่วยซื้อตราสารหนี้เอกชน 4 แสนล้านบาท
มีคำถามว่ารัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยจะเอาเงินมาจากที่ใดนั้น รัฐบาลจะได้ 1 ล้านล้านบาทจากงบประมาณปี 2563 ที่มีอยู่ 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเท่ากับร้อยละ 31.25 ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นมีวงเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ 7.5 ล้านล้านบาท วงเงิน 900,000 ล้านบาทเท่ากับร้อยละ 12 โดยภาพรวมวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทจะเพียงพอสำหรับการประคองภาวะเศรษฐกิจในปี 2563 หรือไม่คำตอบก็คือน่าจะพอและไม่น่ามีปัญหาอะไรแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี