คนมีอาชีพหมอก็คือคน เพราะฉะนั้นอย่าเชื่อว่าเมื่อเป็นหมอแล้วจะต้องดีวิเศษวิโสไปเสียทั้งหมด ขอย้ำว่าหมอนั้นมีทั้งดีและเลว ซึ่งก็นับเป็นเรื่องปกติธรรมดาของคน เพราะคนเรานั้นมีทั้งดีและเลว
ปรากฏการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลศูนย์จังหวัดขอนแก่นคือเครื่องยืนยันว่าหมอนั้นมีทั้งดีและเลว ส่วนจะดีหรือเลวมากแค่ไหน ก็ต้องติดตามดูเบื้องหน้าเบื้องหลังของกรณีนี้ลึกซึ้งถึงแก่นแท้
ก่อนอื่นผมขอนำเอาข้อความของหมอเชิดชู อริยศรีวัฒนา ประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.) มาให้คุณได้อ่านก่อน (เชื่อว่าหลายคนคงได้อ่านข้อความนี้จากเฟซบุ๊คของหมอเชิดชูมาก่อนแล้ว)
คำถามถึงปลัดกระทรวงสาธารณสุขผ่านวิญญูชนทั่วไปว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกแห่งหรือไม่ ในการที่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สั่งให้ผู้อำนวยการ รพ.ชุมชนทุกแห่งต้องไปต้อนรับผู้อำนวยการ รพ. จังหวัดที่ถูกย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ทุกคน เหมือนราย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ รายนี้แต่น่าสงสัยว่าคำสั่งที่ปลัดกระทรวงสั่งย้ายผู้อำนวยการของ รพ.ขอนแก่น ให้เข้าไปทำงานประจำกระทรวง จากเหตุผลจากการมีแค่บัตรสนเท่ห์ใบเดียวก็สั่งโยกย้ายออกจากตำแหน่ง โดยไม่บอกว่ากรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงรายงานว่าอย่างไร มีมูลน่าสงสัยหรือน่าเชื่อถือตามที่ถูกกล่าวหาในบัตรสนเท่ห์ หรือไม่ ก่อนจะตั้งกรรมการสอบสวนวินัย ต้องรอผลกรรมการสอบสวนวินัยว่าการถูกกล่าวหานั้นเป็นความจริงหรือไม่
อนึ่ง เป็นที่น่าสงสัยเหลือเกิน ขอถามปลัดกระทรวงอย่างตรงไปตรงมา ขอให้กล้าออกมาตอบแบบลูกผู้ชายอกสามศอก อย่าไปยอมตกอยู่ใต้อิทธิพลใดๆ ว่า เหตุการณ์ในการสั่งย้ายผู้อำนวยการรพ.ขอนแก่นเคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้ว แต่ปลัดไม่กล้าฝืนมติบุคลากรรพ.ขอนแก่นที่ออกมาประท้วง และยอมถอยตามมติของบุคลากรรพ.ขอนแก่น ยอมคืนตำแหน่งให้ ผอ.ชาญชัย แต่คราวนี้อยากทราบจริงๆ ว่า ทำไมต้องทำคำสั่งย้ายผู้อำนวยการ รพ.ขอนแก่นคนเดิม แล้วย้ายผู้อำนวยการจาก รพ.พระปกเกล้าคนเดิม กลับมาขอนแก่นแบบเดิม หรืออาจเพราะจะเกษียณอายุราชการแล้วจึงต้องทิ้งทวนทำตามความต้องการของใครบางคนหรือเปล่า มิฉะนั้นจะถูกเปิดเผยอะไรบางอย่างใช่หรือไม่ รอฟังคำตอบอยู่
ขอแนะนำ ผอ.ชาญชัยว่าอย่ายอมก้มหัวหรือยอมจำนนต่อ “อธรรม” แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่รักความเป็นธรรมจะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้ท่านต่อสู้ตามครรลองของกฎหมายเพื่อผดุงความเป็นธรรมให้คงอยู่ในกระทรวงสาธารณสุขให้ได้ ขอถามข้าราชการแพทย์ในกระทรวงสาธารณสุขว่า พวกเราจะนิ่งเฉย ไม่ยินดียินร้ายต่อการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมของปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ สุขุม กาญจนพิมาย หรือเราจะร่วมใจกันต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม และเรียกร้องให้เกิดระบบธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดินในกระทรวงสาธารณสุข คำถามสุดท้าย ขอถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูลว่า ถ้าท่านอยากจะมีความชอบธรรมในการบริหารงานสูงสุดของกระทรวง และอยากจะเติบโตในการทำงานการเมืองระดับชาติ การที่ท่านให้สัมภาษณ์ว่าไม่ล้วงลูกเรื่องนี้ ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
แพทย์หญิง เชิดชู อริยศรีวัฒนา ประธานสหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขแห่งประเทศไทย (สผพท.)
อันที่จริงต้องบอกว่าศึกภายในกระทรวงสาธารณสุขระหว่างหมอๆ ด้วยกันนั้นมีมาทุกยุค บางยุคเล่นกันแรงจนไม่คิดว่าคนมีการศึกษาชั้นสูงจะทำสิ่งต่ำๆ ได้ถึงเพียงนั้น แต่มันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่คนวงในประจักษ์เป็นอย่างดี ซึ่งก็เป็นการยืนยันได้ชัดเจนว่าคนที่จบแพทยศาสตรบัณฑิตนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีเสมอไป เพียงแค่เรียนเก่ง ความจำดีก็เรียนจบได้
จริงๆ แล้วเรื่องราวในโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นนั้นยิ่งสาวยิ่งลึก เพราะก่อนที่หมอชาญชัย จันทร์วรกุลชัย จะไปรับตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ต่อจากหมอคนหนึ่งที่เคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีสาธารณสุข ยุคคสช. ได้พบว่ามีข้อไม่น่าจะปกติคือมีเรื่องเงินยืม และเงินสวัสดิการของโรงพยาบาล จำนวน 10 ล้าน ซึ่งในเรื่องนี้เมื่อสืบๆ ลงไปก็พบว่ามีเมียของหมอคนหนึ่งรับจ้างปลูกต้นไม้ในโรงพยาบาล แล้วดันเอาเงินของโรงพยาบาลไปใช้ก่อน เมื่อมีการทวงเงินคืนให้โรงพยาบาล จึงทำให้หมอชาญชัยถูกหมายหัว แล้วถูกเด้งไปเมืองจันทบุรีมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายคนที่ไปแทนหมอชาญชัยก็อยู่ได้เพียงไม่กี่วันก็ต้องระเห็จกลับไป เพราะประชาคมสาธารณสุขโรงพยาบาลขอนแก่นต่อต้านหนัก เนื่องจากไม่สามารถรับพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจได้ ดังนั้น รัฐมนตรีสาธารณสุขในยุคก่อนคือ หมอปิยะสกล สกลสัตยาทร จึงสั่งให้ทบทวนเรื่องนี้ แล้วหมอชาญชัยก็กลับไปอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่นดังเดิม ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลขอนแก่นมีความสุข ทำงานได้ดีต่อไป แต่แล้วจู่ๆ เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้ ก็มีคำสั่งเรื่องโยกย้ายโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาอีก ประชาคมการแพทย์ในโรงพยาบาลขอนแก่นจึงรับไม่ได้ แล้วออกมา SAVE หมอชาญชัย จนกลายเป็นข่าวไปทั่วประเทศ
มีเรื่องเล่ามากมายว่า หมอคนหนึ่งที่อยู่ที่เมืองจันท์ทำเรื่องขอไปช่วยราชการที่โรงพยาบาลชุมแพ ทุกวันศุกร์ แล้วจะกลับเมืองจันท์ในวันจันทร์ จึงอาศัยคำสั่งจากบางคนเพื่อให้เรื่องผ่าน แล้วมีคนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมหมอรายดังกล่าวใช้รถยนต์ราชการ เบิกจ่ายเงินในการเดินทางไปกลับได้ มีคำถามว่าทำได้อย่างไร รวมทั้งยังมีเรื่องโจษขานในประเด็นรถพยาบาล และเรื่องหนี้สินของโรงพยาบาลชุมชนด้วย เรื่องนี้บรรดาหมอๆ จำนวนไม่น้อยต่างรู้ดี
ประชาคมสาธารณสุขบางกลุ่มบอกว่า ไม่เคยมียุคไหนเลยที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะสร้างความเจ็บช้ำให้ข้าราชการและผู้ใต้บังคับบัญชาได้เท่ายุคของปลัดคนนี้ หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมทำได้ถึงเพียงนี้ หลายคนวิพากษ์ว่าปลัดดีแต่แต่งตั้งโยกย้ายคนของตนเองโดยไม่ได้ดูความถูกต้องชอบธรรม กรณีหนึ่งที่คนในสาธารณสุขพูดถึงมากที่สุดคือ เรื่องหมอวิพรรณ สังคหะพงศ์ จากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล ไปเป็นผู้ช่วยปลัดกระทรวง แล้วเพียงปีเดียวก็ดันขึ้นเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง โดยให้หมอวิพรรณเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 7 กำกับดูแลโรงพยาบาลขอนแก่น นอกจากนี้ยังมีเรื่องแต่งตั้งหมอยงยศ ธรรมวุฒิ จากตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคนในสาธารณสุขวิจารณ์กันขรมว่าข้ามหัวผู้อาวุโสหลายคน แต่ที่สำคัญคือไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นตำแหน่งวิชาการกระโดดข้ามไปเป็นรองปลัดกระทรวง โดยไม่ผ่านการเป็นผู้ตรวจราชการ หรือตำแหน่งบริหารระดับสูงมาก่อน ส่วนหมอยงยศเป็นใคร คนในกระทรวงสาธารณสุขรู้ดี และรู้ดีว่ามีโยงใยอย่างไรกับกลุ่มแพทย์ชนบทบางจำพวก คนที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดรู้ดีด้วยว่าหลังจากตั้งหมอยงยศเป็นรองปลัดฯ แล้ว ปลัดสุขุมกาญจนพิมาย ก็ตั้งให้หมอยงยศเป็นประธานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตในกระทรวง โดยมีคดีใหญ่ให้พิจารณาคือบัตรสนเท่ห์ของรพ.ขอนแก่น เพียงแค่นี้ก็ทำให้คนที่รู้เกมเข้าใจลึกซึ้งแล้วว่าใครวางแผนชั่วอะไรไว้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าลือกันดังลั่นสนั่นเมืองในสถาบันโรคทรวงอกด้วย หมอสุขุมเกี่ยวพันกับสถาบันนี้แค่ไหน คนสาธารณสุขรู้ดีมาก อย่าลืมว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจนกลายเป็นคำถามใหญ่ในสถาบันนี้คือหน้ากากอนามัยชนิด N95 หายไปจากที่นี้มากมาย (คนในบอกว่าหายไปเป็นพันชิ้น) หายไปไหน หายไปอย่างไร มีคนบางคนเล่าให้ฟังว่าได้รับแจกหน้ากากชนิดนี้ เพราะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นหลักสูตรอภิสิทธิ์ชนหลักสูตรหนึ่งกับบิ๊กสาธารณสุขคนหนึ่ง ประหลาดใจไหมที่หน้ากากซึ่งหมอต้องการมากในยุคโควิด-19 ระบาดหนัก แต่มันกลับหายไปจากสถาบันโรคทรวงอกแบบมีเงื่อนงำ
คนสาธารณสุขรู้ดีอีกว่าบิ๊กสาธารณสุขรายนั้นมีเรื่องแค้นฝังใจกับหมอสุวรรณี ตั้งวีระพรพงศ์ ผอ.ใหม่ที่รับตำแหน่ง ผอ.สถาบันโรคทรวงอกต่อจากหมอสุขุม เรื่องนี้คนสาธารณสุขบอกว่าไม่คิดว่าจะเล่นกันแรงถึงเพียงนี้ เพราะสุดท้ายแล้วหมอสุวรรณีถูกเล่นงานหนักมาก เรียกได้ว่าแทบจะหมดความเป็นคนไปเลย
วันนี้คนอ่านคอลัมน์นี้อาจจะรู้สึกคันใจมาก และอาจตั้งคำถามว่าทำไมไม่เขียนอะไรให้ตรงๆ จะจะแจ้งๆ เหมือนวันก่อนๆ ก็ต้องขอเรียนว่า เรื่องเละๆ เทะๆ ภายในกระทรวงสาธารณสุขที่นำมาเล่าให้ฟัง เพื่อชวนคุณๆ คิดไปด้วยกันในวันนี้มีความสลับซับซ้อนและยุ่งเหยิงมาก คนวงในเท่านั้นที่รู้ดี และรู้ลึก ส่วนคนวงนอกอย่างเราๆ ท่านๆ ที่เป็นผู้อยู่ห่างจากแวดวงหมอก็อาจจะเกาหัว เพราะคาดไม่ถึงว่าหมอบางคนมีพฤติกรรมสามานย์มากถึงเพียงนั้น
แต่ขอย้ำนะครับ หมอก็คือคน เพราะฉะนั้นไม่มีใครรับรองได้ว่าหมอต้องเป็นคนดีทุกคน คุณเคยดูละครซีรี่ส์อเมริกันเรื่อง Gray’s Anatomy ไหมครับ ถ้าคุณเป็นแฟนseries นี้ รับรองคุณจะเข้าใจได้ว่าหมอก็คือคนคนหนึ่ง ซึ่งมีทั้งดีและเลว เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่หลงบูชาว่าหมอคือคนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอให้กลับไปทบทวนความคิดโดยด่วนครับ ขอย้ำว่าหมอดีๆ ก็ยังมีอีกมาก ส่วนหมอเลวๆ ก็มีมิใช่น้อย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี