 วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568
                วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568
             
							สัปดาห์ที่แล้วมีการประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ครั้งที่ 3/2563 ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะผู้อำนวยการกองเป็นประธานการประชุม ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
กองอำนวยการน้ำแห่งชาตินี้ เป็นที่รวมหน่วยงานส่วนราชการเกือบทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาน้ำไว้ด้วยกันเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ที่อาจเกิดขึ้นอย่างรัดกุมรอบด้าน รวมทั้งเตรียมแผนบริหารจัดการน้ำสำหรับแก้ปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืนควบคู่ไปด้วยกัน
ช่วงนี้ประเทศไทยมีฝนตกในทุกภูมิภาค และจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดก็มีพายุ “นูรี” ช่วยเติมฝนเติมน้ำในหลายพื้นที่
พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้ร่วมติดตามความก้าวหน้าการปฏิบัติงานตาม 8 มาตรการ รองรับสถานการณ์ฤดูฝนปี 2563 โดยขณะนี้หน่วยงานผู้รับผิดชอบได้ดำเนินงานรุดหน้าไปแล้วในหลายส่วน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีการประเมินสถานการณ์ในช่วงฤดูฝนปีนี้ว่าหลายพื้นที่อาจมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมฉับพลัน
ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานเร่งรัดดำเนินการ ดังนี้
1) ให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการจัดทำแผนและมาตรการรับน้ำเข้าพื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำและพื้นที่ลุ่มต่ำ 12 ทุ่ง ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพื่อรองรับน้ำหลาก ให้แล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2563 สำหรับทุ่งรับน้ำใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ ลำน้ำยัง จ.ร้อยเอ็ดและบางพลวง จ.ปราจีนบุรี ให้จัดเตรียมพื้นที่ให้แล้วเสร็จในปีต่อไป
2) ให้กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เร่งจัดทำเกณฑ์การบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำและเกณฑ์ระบายน้ำในส่วนที่เหลือ ให้แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2563
3) ให้กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร และจังหวัดในเขตปริมณฑล จัดทำเกณฑ์การระบายน้ำ การควบคุมระดับน้ำ การสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน13 แห่ง ให้ชัดเจน และกำหนดพื้นที่เฝ้าระวังและแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร
4) ให้กรมชลประทาน กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า การรถไฟแห่งประเทศไทย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ปรับแผนงานปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ ปี 2563 ให้แล้วเสร็จก่อนฤดูน้ำหลาก พร้อมจัดทำแผนงานส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จ ในปี 2565
5) ให้กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เร่งรัดการกำจัดผักตบชวาในแม่น้ำสายหลักให้แล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2563 ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถรองรับสถานการณ์ได้ทันเวลาและลดผลกระทบที่อาจเกิดต่อทรัพย์สิน ชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชน ให้ได้มากที่สุด
ครับทั้งหมดคือการเตรียมรับมือน้ำท่วมน้ำแล้ง รวมไปทั้งน้ำรอระบายท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มักประสบปัญหาการระบายน้ำไม่ทัน ก็ได้มีการบูรณาการและขับเคลื่อนขุดลอกคู คลอง สองฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต และคลองเชื่อมถนนวิภาวดีรังสิตลงคลองเปรมประชากรตั้งแต่เขตดอนเมืองถึงเขตดินแดง และอีกหลายๆ คลองเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว
ก็อุ่นใจได้ระดับหนึ่งว่าปีนี้น้ำจะไม่ท่วมกทม.

 ‘กองทัพไทย’เดินหน้าสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา คาดจุดแรก‘จันทบุรี’หลักเขต 52-54
										‘กองทัพไทย’เดินหน้าสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา คาดจุดแรก‘จันทบุรี’หลักเขต 52-54
									 ตร.กาฬสินธุ์ บุกทลายร้านขาย 'บุหรี่ไฟฟ้า' ออนไลน์ ยึดของกลางกว่า 2,800 ชิ้น
										ตร.กาฬสินธุ์ บุกทลายร้านขาย 'บุหรี่ไฟฟ้า' ออนไลน์ ยึดของกลางกว่า 2,800 ชิ้น
									 พลิกปูม'จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์' ก่อนขึ้นสู่เก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
										พลิกปูม'จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์' ก่อนขึ้นสู่เก้าอี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
									 ด่วน!มติเพื่อไทย เลือก'จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์'นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่
										ด่วน!มติเพื่อไทย เลือก'จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์'นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่
									 ‘ประเสริฐ‘ชี้หัวหน้าพรรคใหม่ ต้องเชื่อมต่อคนหลายรุ่นได้-เข้ากับภารกิจเลือกตั้งครั้งหน้า
										‘ประเสริฐ‘ชี้หัวหน้าพรรคใหม่ ต้องเชื่อมต่อคนหลายรุ่นได้-เข้ากับภารกิจเลือกตั้งครั้งหน้า
									
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี