“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ปรบมือรัวๆให้ “ทีมไทยแลนด์”ที่มีวินัยสามัคคีต้านภัย “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” กระทั่งไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมาเป็น 28 วัน หรือ สองเท่าของระยะเชื้อฟักตัว แล้ว จากนี้ขอแค่คนไทย “การ์ดต้องไม่ตก” เท่านั้น เพราะหากพลาดพลั้งเผลออาจจะเหมือนสภาพของ “จีน – เกาหลีใต้ –ญี่ปุ่น” แม้กระทั่ง “ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับการยกย่องว่ายับยั้งและป้องกันการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” ได้ดีเป็นอันดับหนึ่งของโลก” ซึ่งประเทศที่เอ่ยนามมาเหล่านี้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จน “เกิดอาการการ์ดตก” ทำให้การ “แพร่ระบาดระลอกสอง” เกิดขึ้น...
nnเมื่อการ์ดไม่ตกก็วกมาที่การเมืองแบบ “ New Politic Normal” หรือ “การเมืองสายพันธุ์ใหม่” อย่างที่ “ไม้หน้าสาม”บรรยายไว้ในคอลัมน์ “บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า สื่อ “อุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา”กับการเมืองที่เคลื่อนไหวเข้มข้นอย่างเอาเป็นเอาตายทีละพรรคหลังรัฐสภาอนุมัติให้รัฐบาลและหน่วยงานของรัฐสามารถกู้เงินกว่า 1.9 ล้านล้านบาท เพื่อกู้วิกฤติเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” ประดาเสือหิวเสือโหยที่ซุ่มฟอกตัวอยู่นานในพรรคพลังประชารัฐก็ออกอาการเผลอตัวจนหางโผล่เดินตวัดหางส่ายไปมาปฏิบัติการทั้ง ลอบกัด ยุยงปลุกปั่น เสี้ยมให้แตกแยก เพียงเพื่อหวัง “เสวยสุขตำแหน่งอำมาตย์เสนาบดีบนเก้าอี้รัฐมนตรี” เพียรพยายามทำทุกสิ่งอย่างให้ได้มาซึ่ง “อำนาจ” ก่อนที่จะก้าวเข้าไปแสวงหา “ผลประโยชน์” หลังจากกระทำความชอบจนได้รับความชอบไว้วางใจให้คนกลุ่มนี้มาเล่นเกม “เก้าอี้ดนตรี-สมบัติผลัดกันชม” เป็น “รัดถะมนตี” ได้...
nn “ระบบอัปยศมาเฟียสนามม้า” ตั้งทีมที่ปรึกษาหน้าห้องรัดถะมนตีแสวงหาประโยชน์ คัดกรองงาน เรียกรับ พ่อค้าประชาชนหน้าไหนอยากไปปรึกษาพึ่งบุญบารมีเสนาบดี ก็ต้อง “ตีตั๋ว”จากพวกทีมหน้าห้องหน้าหอรมต. เรียกว่าเรียกรับกันตั้งแต่ต้นน้ำ ไอ้ที่สำรอกบอกกล่าวว่าต้องการหล่อหลอมพรรคจากเม็ดดินเม็ดทรายให้มีความแข็งแกร่งก็ยิ่งต้องพึงระมัดระวัง พรรคอดีตที่เน่าเหม็นก็คือใบเสร็จที่ประชาชนเขาพากันส่ายหน้าระอากับพฤติกรรมเสนาบดีก๊วนนี้...
nn กลเกมพปชร.น่าจะยุติทุเลาเบาบางลง เมื่อ “อุตตม สาวนายน” และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์”หัวหน้าและเลขาธิการ รักษาการพปชร. เบื่อเสียงสำรอก “สัมภเวสีการเมือง” แสดงความเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองท่ามกลางฝูงอีแร้งลงจิกกัด แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นการถลกหนังตัวเองให้ฝูงนกแร้งเหล่านี้รุมทึ้งก็ตามที โดยเตรียมจัดปาหี่ประชุมใหญ่ยกเครื่องพปชร. 27 มิถุนายนนี้ โดยกองทัพเชลียร์แห่งชาติจะยกขันหมากไปเทียบเชิญ“เฒ่าชราขี้โรค – ลุงป้อม - พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ คนแก่ขี้ลืมที่ยืมนาฬิกาเพื่อนใส่มาจนเจ้าของตายไปแล้วยังไม่คืน” นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค ในวันอังคารนี้ นี่คือตัวอย่างที่ดีทางการเมือง แต่พวกสัมภเวสีการเมืองไม่มองว่าเป็นสปิริต กลับมองว่านี่คือภารกิจที่กระทุ้งกระแทกจนเป็นความสำเร็จของเกมการเมืองที่ต่ำตมของตนเองเท่านั้น หมากเกมนี้หมุนเวียนอยู่ “บนกงล้อประวัติศาสตร์การเมืองแบบไทยๆ” ที่ฟอนเฟะเน่าเหม็น “ไต้ก๋งเรือแป๊ะนามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา - ลุงตู่” ที่เบื้องแรกพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ หนักแน่นว่า เป็นเรื่องของพรรค การปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ก็คอยมาลุ้นดูกันว่า พวก “นักการเมืองสันดานอีกา- สัมภเวสี – กระสือกระหังแลเดรัจฉานการเมืองที่หิวโหย” เหล่านี้จะได้เข้าสู่อำนาจกอบโกยผลประโยชน์กันหรือไม่อย่างไร??? ถ้ายอมตามเกมเสือโหยเสือหิวการเมือง สิ่งที่ “ไต้ก๋งเรือแป๊ะ” สะสมมาตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีที่เรียกกันว่า “ศรัทธา” ก็สูญเปล่า...
nn มีหลายฝ่ายประมาณการว่า การต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-ไนน์ทีน เราสูญเสียเม็ดเงินงบประมาณแผ่นดินไปจำนวนมหาศาล เศรษฐกิจพินาศป่นปี้ เพื่อรักษาชีวิตผู้คน สุดท้ายรัฐบาลเอาชนะได้อย่างสวยหรูมีคนตายในประเทศไทยจากโรคระบาดแค่ 58 รายเท่านั้น หากเทียบกับการตายของอุบัติเหตุปีละ 2 หมื่นกว่าคน หรือโรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคหลอดเลือดหัวใจที่แต่ละปีมีคนไทยเจ็บป่วยและล้มตายจำนวนมากมาย ทำให้เกิดคำถามว่า เราเอาชนะโควิด-ไนน์ทีนได้แล้วจริงหรือไม่??? และอีก 5 เดือนนับจากนี้ ผลพวงจากการทำสงครามต่อต้านยับยั้งการแพร่ระบาด “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-ไนน์ทีน” จะเกิดอะไรขึ้นหากมีการระบาดในประเทศไทยระลอกสองอย่างในต่างประเทศที่เป็นข่าวให้พึงสังวรในขณะนี้จะมีคนตายอีกหรือไม่และเท่าไหร่ จะมีคนตกงานเครียดป่วยซึมเศร้าฆ่าตัวตายให้นักการเมืองฝ่ายค้านนำสถิติมายัดเยียดให้เป็นผลงานรัฐบาลนี้อีกหรือไม่อย่างไร...
nn ตลาดเงินตลาดทุนพัง เศรษฐี ยาจก ตกอยู่ในเรือลำเดียวกัน คือ “เรือแห่งความสิ้นหวังไร้ร้าง” กิจการห้างร้าน โรงแรมรีสอร์ท ทยอยปิดตัว สถาบันการเงินขาดสภาพคล่องเพราะพิษ NPL หนี้เน่าหนี้เสียมิอาจประมาณการได้ การเมืองเสือโหยเสือหิวยังเล่นเกมต่างตอบแทน ฉกฉวยปล้มสะดมเงินภาษีพี่น้องประชาชนจากเงินฟื้นฟูหลังวิกฤติโควิด-ไนน์ทีน ก้อนโต ท่ามกลางกระแสเสียงที่ว่า มีสส.จำนวนมากต่างมีส่วนร่วมเข้าไปเติมแต้มโครงการเยียวยาต่างๆ “ไม้หน้าสาม”สะกิดตรงนี้ด้วยความเคารพ “พี่ตู่ – อู๊ดด้า – จุรินทร์ลักษณวิศิษฎ์ เสนาบดีพาณิชย์”ตรวจข้อมูลให้มากมีนโยบายให้ “สำนักงานพาณิชย์จังหวัด” ช่วยรับซื้อผลไม้ที่ล้นตลาดโดยใช้เงินคชก.มาดำเนินการ โชคดีที่ไม่มีหน่วยงานไหนปฏิบัติตามหนังสือคำสั่งนี้ แต่น่าสนใจตรงที่มีการกำหนดสเปกแบบเย้ยฟ้าท้าดินว่า จะต้องรับซื้อผลไม้เฉพาะเจาะจงเป็นรายจังหวัด อาทิ สุราษฎร์ธานี จันทบุรี ระยอง ตราด เป็นต้น อย่างนี้มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่? เพราะพลิกดูรายชื่อท่านผู้ทรงเกียรติแล้วมีคนชายคา “พระแม่ธรณีบีบมวยผม” อยู่ไม่น้อยเลย จะใช่ “สมการแห่งผลประโยชน์” ที่เบ่งบานพาเหรดกันชักหัวคิวหรือไม่ถ้าอย่างนั้นบ้านเมืองนี้จะอยู่กันอย่างไร “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการฯที่ได้ชื่อว่าเป็นคนจริงกัดไม่ปล่อย จะรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงสส.เขี้ยวลากดินเหล่านี้หรือไม่???หรือเป็นได้แค่ “หุ่นไล่กา”ที่สร้างมาจากหญ้าฟางเท่านั้น เอวังด้วยประการฉะนี้การเมืองน้ำเน่า...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ไม่ได้ตำหนิติติงเพียงอย่างเดียว ที่ดีแนวคิดก็ขอชื่นชม อย่าง “พี่ตู่ – อู๊ดด้า – จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เสนาบดีพาณิชย์” ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวไทยกรณี สั่งระดมสมองจัดทำ “ยุทธศาสตร์ข้าวไทย” โดยมุ่งเน้น “การตลาดนำการผลิตสอดรับแนวเกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” และจะมุ่งเน้นทำการผลิตข้าวเพื่อสนองความต้องการของตลาด คือ ผลิตข้าว 7 ชนิด 1. ข้าวหอมมะลิ 2. ข้าวหอมไทย 3. ข้าวพื้นนุ่ม 4. ข้าวพื้นแข็ง 5. ข้าวนึ่ง 6. ข้าวเหนียว และ 7. ข้าวคุณภาพพิเศษที่มีตลาดเฉพาะ ฉบับหน้า “ไม้หน้าสาม” จะอัญเชิญพระราชดำริ “สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ” ที่ทรงแนะนำให้เกษตรกรชาวไร่ชาวนาเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้เพาะปลูก เพื่อลดต้นทุนการผลิต...nn ครบ 16 ปีการเสียชีวิตของ “เจริญ วัดอักษร” แกนนำการต่อต้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก คดียังไม่ถึงที่สุด “ตี๋ทอน – ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ” ไม่คิดเคลื่อนไหวให้เป็นประโยชน์เรียกร้องความยุติธรรมให้ “เจริญ วัดอักษร”บ้างหรือ ฤๅมุขนี้ไร้ผลประโยชน์ “นิ่งเสียตำลึงทอง”จะดีกว่าล่ะ
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี