“ของหายไม่หา
ของเสียไม่ซ่อม
ใช้จ่ายเกินตัว
มีคนชั่วร่วมวง”
ฝากคติพื้นบ้านข้างต้นให้คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบสำคัญในองค์กรของตน ไม่ว่าองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่ระดับประเทศ แม้กระทั่งระดับครอบครัว ก็สามารถนำไปเป็นข้อคิด และข้อพิจารณาในการบริหารจัดการองค์กรของตัว เพื่อประโยชน์ของตัวเองได้ โดยไม่ต้องล่มจมเสียหายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
เพราะแต่ละเรื่องดังกล่าว เป็นประโยชน์กับตนเองทั้งสิ้นในการดำรงอยู่อย่างสุขสบายและปลอดภัยทั้งในวันนี้และวันหน้า
โดยเฉพาะในระดับประเทศด้วยแล้ว ยิ่งมีความสำคัญมากในการบริหารจัดการ เพราะเพียงแค่นำคติพื้นบ้าน 4 ประการ มาปฏิบัติในการทำงานของตนอย่างจริงจังในทิศทางตรงข้ามกับประโยคแต่ละประโยคดังกล่าว คือ
“ของหายต้องหา
ของเสียต้องซ่อม
อย่าใช้จ่ายเกินตัว
อย่ามีคนชั่วร่วมวง”
หรือจะจำง่ายๆว่า “2 ต้อง 2 อย่า”ในการปฏิบัติงานให้กับบ้านเมืองแล้ว ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นย่อมมีกับประชาชนโดยรวมแน่นอน
แต่ที่ผ่านไปของการเข้ามาบริหารจัดการบ้านเมืองโดยการทำรัฐประหารนั้น แค่คติพื้นบ้าน4 อย่างข้างต้น ยังดำรงต่อเนื่องมาโดยตลอดหรือไม่นั้น เห็นจะดูได้จากความเจ็บปวด ความไม่มีความสุขอย่างจริงๆจังๆ หรือพิษภัยสำคัญๆ อันเป็นบ่อเกิดของความเจ็บปวดความไม่มีความสุขอย่างจริงจังของผู้คนทั้งหลายนั้น ได้มีการจัดการให้หมดไปหรือน้อยลงจริงหรือเปล่า
ปัญหาของแผ่นดินในขณะนี้มีมากมายหลายอย่างที่เกิดจากการบริหารจัดการ ยังตกค้างอยู่มากมายหลายอย่างในขณะนี้ รวมทั้งปัญหาใหม่ๆที่เกิดขึ้นอีกจากกลุ่มคนบางคนที่แอบอิงอยู่กับอำนาจ โดยใช้อำนาจนั้นหาประโยชน์เข้าตนอยู่ตลอดเวลาก็มีให้เห็น อยู่ในเวลานี้นั้น ได้ใส่ใจที่จะแก้ไขในเรื่องต่างๆดังกล่าวอย่างไร
ถ้ายังนึกไม่ออกว่าเจ้าพวกวายร้ายเก่าๆเคยทำเคยสร้างความเสียหายกับบ้านเมือง และผู้คนในประเทศไว้อย่างไร และแสนสาหัสแค่ไหนกับประชาชนคนไทยต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้ที่ต้องเร่งหา เร่งเอากลับคืน และอย่าไปใช้วิธีการต่อยอดเพื่อนำมาใช้ในกลุ่มคนบางคนในพวกของตนที่กำลังมีหน้าที่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองในขณะนี้เพื่อหาประโยชน์ต่อไปอีกนั้น ลองอ่านกลอนต่อไปนี้ดูก็แล้วกัน เป็นกลอนที่เคยนำมาลงไว้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อตอนทำรัฐประหารใหม่ๆ เพื่อบอกเส้นทางแห่งความ
เสียหายของบ้านเมืองที่เจ้าพวกวายร้ายทั้งหลายดังกล่าวทำไว้ ดังต่อไปนี้
“n ปัญหาชาติ กลาดเกลื่อน ขณะนี้
เพราะมันสร้าง แต่หนี้ ให้ไทยผอง
ทั้งโกงกิน พุงปลิ้น ลิ่มลำพอง
กร่างคะนอง คอยแต่ป้อง พวกเดียวกัน
n มันไม่สน ผู้คน ที่ก่นด่า
เพราะคิดว่า มีอำนาจ เรื่องของฉัน
ใครจะโกรธ ใครจะโทษ ช่างหัวมัน
เรื่องของกู ก็แล้วกัน อย่าตอแย
n เอาแต่หลอก เอาแต่ลวง พ่วงยาหอม
ให้ชาวบ้าน ได้ดอม ด้วยคำแหล
ทำอย่างนี้ มาตลอด ไม่เปลี่ยนแปร
จนชาวบ้าน ชีวิตแย่ ป้อแป้ลง
n แต่ละวัน พวกมันอิ่ม ชาวบ้านอด
พวกมันซด ทุกอย่าง ไม่เหลือหลง
ชาวบ้านต้อง อดอยาก ยากจนลง
ต้องนั่งปลง ว่าจะหา อะไรกิน
n แต่ละวัน ที่ผ่าน สุดแสนเศร้า
มีแต่โศก มีแต่เศร้า เฝ้าถวิล
ข้าวของแพง ขึ้นราคา อยู่อาจิณ
ต้องซื้อกิน แทบหมดเนื้อ และหมดตัว
n ทุกระบบ ราชการ ถูกแซงแทรก
ถูกควบคุม เบียดแทรก แยกรายหัว
เอาแต่พวก เข้าอยู่ทั่ว ไม่หวั่นไหว
กระเด็นไป นั่งตบยุง ล้วนคนดี”
ผู้มีอำนาจทั้งหลายช่วยนำไปใช้ประกอบการพิจารณาการทำงานของตนด้วย อย่าให้ทั้งหลายทั้งปวงที่ผ่านมาแล้วหวนกลับมาเหมือนเดิมอีกโดยเฉพาะชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั้งหลายในบ้านเมืองที่กำลังเผชิญอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของบ้านเมืองที่กำลังเป็นปัญหาอย่างหนักอยู่ในขณะนี้
รับฟังเสียงบ่นเสียงว่าที่กำลังดังขึ้นทุกวันด้วย เพราะขณะนี้คลื่นลมมันจัด อย่าสนใจเรื่องโพลล์ (จัดตั้ง) ให้มากนัก
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี