ประเทศลิเบียเป็นประเทศอาหรับที่เคยเป็นพันธมิตรแน่นแฟ้นกับกลุ่มสันนิบาตอาหรับมาช้านาน เป็นประเทศที่มีความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง ชาวลิเบียมีความร่มเย็นเป็นสุขและมีเกียรติภูมิศักดิ์ศรีระหว่างประเทศมาช้านาน

แต่ในห้วงเวลาหนึ่งลิเบียมีพฤติกรรมขัดหูขัดตาของชาติมหาอำนาจโดยเฉพาะคือ สหรัฐและอังกฤษ เนื่องจากผู้นำลิเบียคือนายพลกัดดาฟี่ จัดเป็นผู้นำประเภทหัวดื้อไม่ยอมค้อมหัวให้กับมหาอำนาจ จะต้องการสิ่งใดของลิเบียนายพลกัดดาฟี่ก็ไม่เออออห่อหมกด้วย มิหนำซ้ำยังออกอาการกร่างและท้าทายชาติมหาอำนาจเป็นประจำ จนเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อฟังเป็นแน่แท้แล้ว

หลังจากนั้นแผนโค่นนายพลกัดดาฟี่ก็เกิดขึ้นมีการสร้างกระแสข่าวไปทั่วโลก โดยใช้แนวรบสื่อกล่าวหาว่าร้ายนายพลกัดดาฟี่ด้วยประการต่างๆ เช่น เป็นเผด็จการบ้าง เป็นทรราชบ้าง เป็นผู้ที่มีความเหี้ยมโหดอำมหิตฆ่าชาวลิเบียอย่างไม่เลือกหน้าบ้าง ทำให้นายพลกัดดาฟี่ในสายตาของผู้ที่อยู่ใต้อิทธิพลสื่อของมหาอำนาจมองนายพลกัดดาฟี่ว่าเป็นมารร้ายหรือซาตานของโลก สมควรที่จะต้องถูกกำจัดออกไปโดยเร็ว

ทำกันถึงขนาดนั้นแล้วแทนที่ชาวลิเบียจะเห็นดีเห็นงามไปกับกระแสสื่อตะวันตก ชาวลิเบียกลับมีน้ำใจรักภักดีต่อนายพลกัดดาฟี่อย่างหนักแน่นทั่วประเทศ ในขณะที่ลิเบียมีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ มีทองคำสำรองจำนวนมาก ในขณะที่มีทรัพยากรน้ำมันล้นหลามในประเทศ ยั่วยวนชวนน้ำลายไหลยิ่งนัก

ในที่สุดก็มีการโค่นนายพลกัดดาฟี่ออกจากอำนาจและสังหารอย่างโหดร้ายทารุณ นายพลกัดดาฟี่ถูกสังหารอย่างอำมหิตจนซากศพก็ไม่มีความเป็นปกติเหลืออยู่ ช่างน่าอเนจอนาถนัก

ชะตากรรมร้ายตกแก่นายพลกัดดาฟี่ก็เพราะตั้งอยู่ในความประมาท ไม่คาดคิดว่าชาติมหาอำนาจซึ่งเบื้องหน้าเป็นสุภาพบุรุษ เป็นนักสิทธิมนุษยชน เป็นนักประชาธิปไตย จึงวางใจว่าเรื่องสุดโหดและเลวร้ายจะไม่เกิดขึ้นแก่ตน และเพราะตั้งอยู่ในความประมาทเช่นนี้นายพลกัดดาฟี่จึงถูกสังหารอย่างอเนจอนาถ

ความจริงนายพลกัดดาฟี่ไม่ใช่คนแรกที่เผชิญชะตากรรมเช่นนั้น อดีตผู้นำเผด็จการทั้งหลายของโลกที่ยอมตัวเป็นลิ่วล้อบริวารของชาติมหาอำนาจ เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ไม่สามารถสนองความต้องการตามใจของชาติมหาอำนาจได้ก็จะถูกถีบออกจากตำแหน่ง มีอนาคตเพียงสามทาง คือตายโหง หรือต้องลี้ภัยไปตายในต่างประเทศ หรือไม่ก็ติดคุกติดตะรางภายใต้อำนาจใหม่ ซึ่งบทเรียนแบบนี้มีมากมายนับไม่ถ้วน

เป็นแต่ว่าคนเราเมื่อกาลวินาศมาถึงก็จะมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไปเพราะตั้งอยู่ในความประมาท ความจริงในขณะนั้นถ้านายพลกัดดาฟี่ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท เร่งหาพันธมิตรที่วางใจได้มาคานอำนาจหรือให้การช่วยเหลือสนับสนุน เช่น ถ้าหากมีการสร้างมิตรไมตรีกับรัสเซีย จีน ให้แน่นแฟ้น ชะตากรรมของนายพลกัดดาฟี่ก็คงไม่เป็นเช่นนั้น

ดังตัวอย่างของนายอัสซาดผู้นำของซีเรียในปัจจุบันรู้ชะตากรรมที่มหาอำนาจไม่พอใจเป็นอย่างดี จึงหันไปคบหากับรัสเซีย จีน และอิหร่าน เชิญเข้ามาคานอำนาจและอุ้มชูช่วยเหลือ ดังนั้น จึงไม่เพียงแต่กอบกู้ประเทศซีเรียกลับคืนมาได้บรรดาทรัพยากรและสมบัติชาติทั้งหลายก็ยังรักษาไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญคือนายอัสซาดยังคงมีอำนาจเป็นใหญ่อยู่ในซีเรียจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

หลังจากนายพลกัดดาฟี่เสียชีวิตแล้วลิเบียก็กลายเป็นรัฐที่ล้มเหลว เงินสำรองและทองคำระหว่างประเทศ ตลอดจนสมบัติอันล้ำค่าของประเทศมากมายนักไม่ถ้วนก็ถูกต่างชาติปล้นชิงไปไม่ต่างกับสภาพกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่สอง ถูกปล้นสะดมทรัพย์สมบัติไปอย่างไร ลิเบียก็เป็นอย่างนั้น

เพื่อการยึดครองลิเบียไปตลอดกาล จึงมีการสร้างกลุ่มผู้ก่อการร้ายขึ้นในลิเบีย และมีการโยกย้ายกลุ่มผู้ก่อการร้ายจากหลายที่ทั้งในตะวันออกกลางและแอฟริกาเข้าไปไว้ที่ลิเบีย จากนั้นก็โหมประโคมข่าวว่าผู้ก่อการร้ายกำลังจะเข้ายึดครองลิเบีย

เมื่อตั้งการ์ดสูงอย่างนั้นแล้วก็อ้างเป็นเหตุยกกองทัพเข้าไปปักหลักอยู่ในลิเบียและตั้งหุ่นเชิดขึ้นมาปกครอง แต่ในที่สุดก็เกิดขบวนการต่อต้านอำนาจรัฐบาลหุ่นนั้น และก่อตั้งอำนาจรัฐประชาชนขึ้น จึงทำให้ลิเบียกลายเป็นประเทศที่มีสองรัฐบาล

คือรัฐบาลหุ่นของมหาอำนาจที่พร้อมปล่อยหรือขายทรัพย์สมบัติของชาติให้แก่ชาติมหาอำนาจหรือชาติใดๆ ก็ตามเข้ามาปล้นสะดมทรัพยากรน้ำมัน ขอเพียงได้มีการจ่ายค่าตอบแทนและอุ้มชูให้มีอำนาจต่อไป

กับรัฐบาลของประชาชนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการปลดแอกลิเบีย เพื่อสถาปนาความรุ่งเรืองมั่งคั่งกลับคืนสู่ลิเบียอีกครั้งหนึ่ง
รัฐบาลนี้ได้รับการสนับสนุนทั้งจากรัสเซีย อิหร่าน และจีน รวมทั้งซีเรียและอิรักด้วย

ตุรกีซึ่งเป็นมหาอำนาจหนึ่งในตะวันออกกลางจึงเห็นเป็นโอกาสที่จะแสวงหาประโยชน์จึงได้ส่งกองทัพเข้าไปยึดพื้นที่บางส่วนของลิเบีย โดยเฉพาะพื้นที่ที่อุดมไปด้วยน้ำมัน ในขณะที่การก้าวเข้ามาของตุรกีนั้นได้ทำให้ไม้เบื่อไม้เมาของตุรกีคือ กรีก ไซปรัส และอียิปต์ ทุ่มเทกันสนับสนุนกับขั้วอำนาจหนึ่งคือรัฐบาลของประชาชนลิเบีย

โดยเฉพาะอียิปต์นั้นได้เคลื่อนแสนยานุภาพพร้อมทั้งเตรียมจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากจากรัสเซียเพื่อเข้าช่วยลิเบียอีกแรงหนึ่ง ดังนั้นไฟสงครามจึงกำลังลุกลามขึ้นในลิเบียต่อจากไฟสงครามที่กำลังลุกโชนโชติช่วงอยู่แถบชายแดนซีเรียกับตุรกีและในหลายพื้นที่ของอิรัก

ดังนั้นสภาพของตะวันออกกลางในขณะนี้ไฟสงครามจึงลุกลามขยายตัวจากซีเรีย อิรัก เยเมน เข้าสู่ลิเบียอีกชาติหนึ่งแล้ว โดยมีหลายประเทศเข้าเป็นคู่สงครามทั้งทางตรงและทางอ้อม

ซึ่งไฟสงครามขนาดนี้อาจขยายตัวกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สามเมื่อใดก็ได้!