กระแสข่าวเรื่องอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถยนต์ชนตำรวจเสียชีวิต ทำให้สังคมไทยกลับมาวิพากษ์วิจารณ์บุคคลในกระบวนการยุติธรรมของไทยอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เชื่อได้ว่าการวิพากษ์วิจารณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น แล้วสุดท้ายก็จะเงียบหายไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นในสังคมไทย
อันที่จริงแล้ว เมื่อมีข่าวเรื่องอัยการสั่งไม่ฟ้องบอส สังคมไทยก็น่าจะใช้โอกาสนี้พิจารณาช่องว่างช่องโหว่ที่เกิดในกระบวนการยุติธรรมอันนำไปสู่ความไม่ยุติธรรมในสังคมไทย เพื่อขจัดให้ความอยุติธรรมหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย ขอย้ำว่าคนไทยทุกคนที่ติดตามเรื่องราวในกระบวนการยุติธรรมต่างเห็นตรงกันมานานแล้วว่า ระบบงานสอบสวน และการสั่งคดีของอัยการมีส่วนสัมพันธ์กับความยุติธรรมในสังคมไทย และปัญหาที่เกิดมาจากกระบวนการข้างต้นนี้ทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาของผู้คนต่อกระบวนการยุติธรรมเสมอ
เมื่อพูดถึงกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยก็จะต้องไล่ไปดูที่สายพานของกระบวนการยุติธรรม โดยเริ่มตั้งแต่ตำรวจ อัยการ ศาล และต้องไม่ละเลยการพูดถึงกรมราชทัณฑ์ด้วย
เมื่อพูดถึงการสอบสวนทวนความก่อนเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องนั้น หลายคนก็ตั้งคำถามว่าทำไมจึงปล่อยให้เกิดการ
ต่างคนต่างทำ ทั้งๆ ที่การสอบสวนและการฟ้องร้องจะต้องเป็นกระบวนการเดียวกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ แล้วที่สำคัญคือบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมต้องมีความกล้าหาญทางจริยธรรมต้องยึดมั่นในหลักสุจริตยุติธรรมอย่างเคร่งครัด ต้องไม่ตกอยู่ใต้อำนาจเงิน อำนาจรัฐ และอำนาจอิทธิพลเถื่อนใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนหน่วยงานที่ทำหน้าที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานก็ต้องไม่ผูกขาดการทำหน้าที่นี้โดยปราศจากการตรวจสอบถ่วงดุล นั่นคือต้องไม่ปล่อยให้ตำรวจผูกขาดการทำงานด้านนี้โดยปราศจากการตรวจสอบถ่วงดุลจากหน่วยงานอื่น
คนไทยทราบดีว่า คนจน คนไร้อำนาจรัฐ คนไร้เส้นสายไร้อำนาจต่อรองนั้น เมื่อถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดใดๆ ก็ตาม ก็มักจะถูกจับเข้าคุกโดยทันที แม้พยานหลักฐานการทำความผิดยังไม่ชัดเจนก็ตาม แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ต้องติดคุกไปแล้ว ครั้นภายหลังเมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องก็กลายเป็นว่าคนผู้นั้นต้องติดคุกฟรี โดยไม่สามารถเรียกร้องค่าชดเชยความเสียหายได้ การขังบุคคลก่อน แล้วสั่งไม่ฟ้องในภายหลัง ถือได้ว่าเป็นการไร้ความยุติธรรมอย่างที่สุด และนับได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด
เราต้องไม่ลืมความจริงว่า กระบวนการสำคัญของความยุติธรรมเริ่มมาจากตำรวจ ตำรวจคือผู้มีอำนาจสอบสวนแล้วส่งฟ้อง ระบบนี้นับได้ว่าล้าหลังสุดขีด เพราะให้อำนาจเด็ดขาดกับคนเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นหากตำรวจชั่วช้าสามานย์แล้ว
ก็เท่ากับว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยนั้นปราศจากความยุติธรรมโดยทันที
กระบวนการยุติธรรมที่ได้มาตรฐานคือการให้ความยุติธรรมอย่างเสมอภาค และเสมอหน้ากับคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนรวยล้นฟ้าหรือคนยากจน คนมีอำนาจรัฐล้นประเทศกับคนตัวเล็กตัวน้อยที่ปราศจากอำนาจและอิทธิพลใดๆ แล้วที่สำคัญคือความมหัศจรรย์ของกระบวนการพิพากษาในประเทศไทยที่ทำให้หลายคนตกตะลึงมาแล้วจนนับไม่ถ้วนคือ ศาลชั้นต้นพิพากษาไปทางหนึ่ง แต่ศาลอุทธรณ์กลับพิพากษาไปอีกทางหนึ่ง
ในขณะนี้สาธารณชนกำลังจับตาดูเรื่องราวคดีของบอส-วรยุทธ อยู่วิทยา แต่ส่วนมากจะจับตามองแบบผิวเผินแล้ววิพากษ์วิจารณ์โดยไม่ได้ลงในรายละเอียดของกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าต้องการให้กระบวนการยุติธรรมของไทยพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม ทุกฝ่ายต้องเอาจริงเอาจังกับการปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมของไทยทุกขั้นตอน ไม่ใช่วิจารณ์แบบ
ไฟไหม้ฟาง วิจารณ์ด้วยความคะนองปาก หรือวิจารณ์ด้วยความสะใจ แต่ต้องวิจารณ์แล้วนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมโดยแท้จริง มิฉะนั้นแล้ว กรณีของบอสก็จะเป็นแค่เพียงไฟไหม้ฟางแล้วก็ดับมอดลงไปโดยไม่มีการพัฒนากระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นรูปธรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี