อัมพวาสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม ด้วยวิถีชุมชน พื้นที่แห่งนี้ จึงนิยมเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ และมักจะมองข้ามความปลอดภัยของการสวมหมวกกันน็อก ด้วยเหตุนี้ สถานีตำรวจภูธรอัมพวา จึงร่วมกับ เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โรงเรียนเทศบาล 3วัดอัมพวันเจติยาราม โครงการกันน็อกให้น้อง และเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ กรุงเทพมหานครจัดกิจกรรมรณรงค์ภายใต้โครงการ “สวมหมวกนิรภัย รักษาวินัยจราจร” เพื่อให้อัมพวาเป็นต้นแบบสร้างวินัยสวมหมวกกันน็อก มีจิตสำนึกและเคารพกฎจราจรจากนั้น เด็กนักเรียนได้ร่วมเดินขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์รอบตลาดน้ำอัมพวาและกิจกรรม “สวมหมวกให้หนู” มอบหมวกกันน็อก 100 ใบ จากเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ ให้เด็กนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการด้วย
พ.ต.อ.ณัชชัชพงศ์ ศศลักษณานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงครามกล่าวว่าการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ พบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์มากที่สุด เพราะไม่สวมหมวกกันน็อก จึงมีแนวคิดผลักดันให้อัมพวา เป็นตัวอย่างของอำเภอนำร่อง ด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้กับประชาชน โดยโครงการนี้ได้เริ่มประชาสัมพันธ์ตั้งแต่ 1-31 ก.ค.ที่ผ่านมา และ 1 ส.ค.เป็นต้นไป จะจับกุมเปรียบเทียบปรับอย่างจริงจัง ทั้งคนขับและคนซ้อน อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากเครือข่าย และ สสส.รวมถึงหน่วยงานราชการต่างๆ เข้ามาช่วยดำเนินงาน ทำให้พื้นที่สามารถสื่อสารเผยแพร่ข้อมูล ให้ประชาชนเกิดการรับรู้ได้ง่ายขึ้น
นายยุทธนา โพธิวิหค นายอำเภออัมพวากล่าวว่าอำเภออัมพวาจะรณรงค์ให้ข้าราชการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะรถราชการต้องบังคับใช้กฎหมาย 100% ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับโครงการสวมหมวกนิรภัยฯ มีแนวทางจะขยายไปยังพื้นที่อำเภออื่นๆ ได้แก่ อำเภอเมือง และอำเภอบางคนที โดยจะปรับให้เข้ากับสังคมและบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อให้จังหวัดสมุทรสงครามเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากการสวมหมวกกันน็อกขณะขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างยั่งยืน และเร็วๆ นี้ จะนัดผู้บริหารสถานศึกษาทั้งอำเภอหารือเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกัน
นางสาวเครือมาศ ศรีจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตกล่าวว่า ต้องเริ่มกระตุ้นและปลูกฝังสร้างวินัยการสวมหมวกกันน็อกตั้งแต่วัยเด็ก และโครงการนี้ยังช่วยให้เด็กเป็นกระบอกเสียง สื่อไปถึงผู้ปกครองว่าต้องสวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกลสิ่งนี้คือการแสดงให้เห็นว่า ทุกคน ทุกวัย รักความปลอดภัยของตัวเองและเพื่อนร่วมเดินทาง อย่างไรก็ตาม ทางเครือข่ายและ สสส. จะไม่สามารถรณรงค์ให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ 100% หากไม่ริเริ่มจากพื้นที่โดยตรง วันนี้เราโชคดีที่พื้นที่เองมีแนวคิดที่จะริเริ่ม แล้วให้เรามาเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมรณรงค์
ในขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันไวรัสโควิด-19 ให้ประชาชนสวมแมสเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชาชน ก็อย่าได้หย่อนยานในการป้องกันรักษาชีวิตประชาชนบนท้องถนน ต้องช่วยกันรณรงค์สนับสนุนให้ประชาชนเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เหมือน “อัมพวาโมเดล”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี