วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า สื่อ อุดมการณ์มั่นคงตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอเริ่มด้วยการแสดงความยินดีกับ “อำมาตย์เสนาบดี”รัฐมนตรีใหม่ในคณะรัฐบาล “ลุงตู่ทหารแก่ 2/2” โดยเฉพาะ “ท่านสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล และอดีตประธานกรรมการบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน), อดีตนายกสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “คนร่วมข้อง” ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็น “รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน”...nn ยามนี้เห็นใจ “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่รัฐนาวาเรือเหล็ก...เรือแป๊ะถูกมรสุมกระหน่ำซ้ำเติมเป็นระลอก ไม่ใช่แค่มรสุมการเมืองเท่านั้น มรสุมสังคมก็ไม่วายเว้น อย่างที่บอก “มีอำนาจบารมีพวกพ้องอย่างเดียวไม่ได้มีประโยชน์ไปทุกอย่าง ต้องมีความตั้งใจดี และทัศนคติที่ดีด้วย จักก้าวข้ามปัญหาไปได้”...
nn และถึงเวลาแล้วที่ “สตช.และผบ.ตร.ยุค 5 จี” ต้องเลิกเป็น “อีแอบ” ปราบปรามอบายมุข โดยเฉพาะบ่อนพนันแบบต่างตอบแทน ไฟเขียวขาใหญ่นายโต เรียกรับส่วยหมื่นล้าน ยอมรับสภาพที่ดำรงอยู่ “ศึกษาและเสนอวิถี” เปิดกาสิโนเสรีแทนจะดีกว่าหรือไม่ อย่างน้อยที่ผ่านมาก็มีอดีตผบ.ตร. “นายพลไซด์ไลน์–บิ๊กอ๊อด-พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” เคยขันอาสาเป็นหัวเรือขับเคลื่อนกาสิโนเสริมสร้างรายได้ให้ประเทศมาแล้ว...
nn ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว สังคมไทยให้ความใส่ใจกับกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดคดีไม่ฟ้อง “บอส–วรายุทธ อยู่วิทยา” ทายาทเรดบูลธุรกิจแสนล้านที่ขับรถหรูชนรถจยย.ของ “ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ” จนถึงแก่ชีวิตเมื่อปี 2555 แต่จนวินาทีนี้ยังไม่มีใครเห็นหน้าได้ยินเสียงหรือทราบตรรกกะของ “เนตร นาคสุข” รองอัยการสูงสุดที่เป็นผู้ลงนามในคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดดังกล่าวทั้งที่ท่านคือกุญแจสำคัญ...
nn แม้ก่อนหน้านี้อธิบดีอัยการจะออกมาการันตีว่า “เนตร นาคสุข” กระทำการไปตามกฎระเบียบกติกากฎหมายทุกประการแต่ไม่ได้ตอกย้ำว่ากระทำการโดยไตร่ตรองรอบคอบหรือไม่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเปล่า ท้ายที่สุดแล้วคณะกรรมการสนง.อัยการสูงสุด โดย “อรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ” เห็นว่าประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวนี้ จำเป็นที่ “อัยการสูงสุด” ควรหยิบยกมาพิจารณาทบทวน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ และมีผลต่อความเชื่อถือศรัทธาที่ประชาชน มีต่อองค์กรอัยการ ฟันเปรี้ยงลงไปว่า “เนตร นาคสุข” สั่งไม่ฟ้องมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เคยมีความเห็น“สั่งฟ้องบอส” มาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงความเห็นของพนักงานอัยการที่สั่งฟ้องได้ “ไม้หน้าสาม” สนใจกับวรรคทองที่ “จรัญ ภักดีธนากุล อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม” แสดงไว้ว่าถ้อยแถลงของคณะกรรมการที่สำนักงานอัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาเพื่อพิจารณาหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เปรียบเสมือน การใช้ช่องทางธรรมชาติหรือที่เรียกกันติดปากว่า “ช่องหมา(สุนัข)ลอด” นั่นแหละ เป็นทางออก...
nn กลับมาที่ “วิชา มหาคุณ” ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ “ลุงตู่ทหารแก่” ตั้งขึ้น ยังยืนยันว่าจากหารืออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้เกี่ยวกับเรื่อง“หมายจับบอส” ได้ถอนไปหรือยัง เพราะมีข่าวว่า หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง ตำรวจก็ได้ไปขอถอนหมายจับโชคดีที่ “รสนา โตสิตระกูล” อดีต สว. และมวลชนภาคประชาชนยื่นคำร้องต่อศาลเบรกเพิ่งถอนหมายจับ ซึ่งศาลก็เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงขอสอบสวนก่อน สรุปว่าประชาชนสบายใจได้ “หมายจับบอสยังคงอยู่”เหอะ...เหอะ...เหอะ!!...
nn ส่งเสริมภูมิปัญญาไทยด้วยสมุนไพรตามบัญชาลุงตู่ทหารแก่ กลับกลายเป็นว่า “หมอหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มุ่งหมายเอาแต่ “กัญชา” เป็นภูมิปัญญาบรรพชน เป็นยอดยาวิเศษที่สุดในการรักษาผู้ป่วย โดยเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดปลดล็อกกัญชาเป็นยาเข้าตำรับรักษาผู้ป่วยโดยไม่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งเป็นส่วนผสมยาค้าขายได้อย่างเสรี เมื่อสมมุติฐานในการส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยมีตรรกแค่นี้ อนาคตแพทย์แผนไทยก็จบเห่สิ้นหวัง ก่อนหน้านี้มีผลงานวิจัยทีมงานของอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่าสารพฤกษเคมีที่มีอยู่ใน “พืชสมุนไพรพลูคาว” ซึ่งเป็นพืชล้มลุก รากแตกออกมาตามข้อ มีกลิ่นคาวทั้งต้นและใบเป็นพืชใบเดี่ยวออกเรียงสลับรูปหัวใจด้านบนของใบเป็นสีเขียวเข้มด้านล่างใบเป็นสีม่วง เป็นสมุนไพรทั้งต้น (โดยต้นใช้แก้ปอดอักเสบ ดอกใช้ขับทารกที่ตายในท้อง ฯลฯ) เคยสำเหนียกบ้างหรือไม่รวมทั้งตำรับยาดีสามารถรักษาโรคร้ายได้ เช่น เบาหวาน ความดัน อย่างตำรับยาของ “หมอเณร-ชัยรัตน์ นนทชัย” ปราชญ์ชาวบ้านและราชาสมุนไพรไทยแห่งห้วยกระเจา ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ก็อย่าได้หวังผุดเกิดเลย รังแต่จะล้มหายตายจากไปตามกาลเวลาหากหน่วยงานราชการยังถือทิฐิปิดกั้นภูมิปัญญาบรรพบุรุษเยี่ยงนี้ การรักษาโรคเบาหวานที่มีอาการแผลเน่าให้หายให้ทุเลาโดยไม่ต้องตัดขาเป็น “ผู้พิการไร้สมรรถภาพ” รัฐบาลไม่ต้องนำเงินมาอุดหนุนผู้พิการหัวละ 800 บาทต่อเดือนเรื่องอย่างนี้นักเรียนเกรดเอ ไอคิวสูงเข้าไปเป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขเห็นแล้วคิดไม่ได้ หรือแกล้งไม่คิดในเรื่องเช่นนี้ จะนำพาบ้านเมืองนี้ไปได้อย่างไร เห็นโอกาส “กู้วิกฤติเศรษฐกิจชาติหลังพิษภัยโควิด-19”จางลง บ้านเมืองนี้ก็วังเวงเสียนี่ โอกาส “จีดีพีบวก 5 ในปี 2564” ดูเป็นความฝันที่ไกลความจริงมิใช่น้อย...
nn ทิ้งท้ายวันนี้ “ไม้หน้าสาม” ชวนไปดูพรรคการเมืองนักการเมืองสายพันธุ์ใหม่ที่ “เลือกตั้งซ่อม” จะสักกี่ครั้งก็แพ้ร่ำไป ล่าสุด “การเลือกตั้งซ่อมสส.สมุทรปราการ เขต 5” แทนนาย “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” อดีตสส.จากพรรคพลังประชารัฐที่ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เลือกตั้งใหม่ ปรากฏว่าชาวบ้านยังเชื่อมั่นในรัฐบาล เทคะแนนเลือก “นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก” กลับเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรในนามพรรคพลังประชารัฐอย่างท่วมทัน 46,747 คะแนน ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านรวมกันสามพรรคได้คะแนนเพียง 42,030 คะแนน...
nnนักเคลื่อนไหวและจัดกิจกรรมทางการเมืองทั้งหลายโปรดอ่านบรรทัดนี้ในทวิตเตอร์ของ “มิ้นท์–สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา สส.เขต 3 จังหวัดนครปฐม พรรคก้าวไกล” ที่ชื่อ “Mint Suttawan III” ได้ทวิตข้อความไว้ว่า “สส.พรรคก้าวไกลพร้อมประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมืองทุกคนค่ะ แต่ที่อยากบอกก็คือครูบาอาจารย์และผู้บริหารสถาบันการศึกษา ควรปกป้องลูกศิษย์ของตนเอง สนับสนุนให้พวกเขาใช้เสรีภาพแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ปิดกั้น ไม่ขัดขวาง และพร้อมช่วยเหลือพวกเขาเสมอ” สรุปว่าพรรคก้าวไกลจะช่วยประกันตัวหรือช่วยกระตุ้นให้ผู้บริหารสถาบันการศึกษานั้นๆ รับผิดชอบลูกศิษย์ล่ะครับ
ไม้หน้าสาม

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี