“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า สื่อ อุดมการณ์มั่นคงตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอเริ่มด้วยการแสดงความยินดีกับ “อำมาตย์เสนาบดี”รัฐมนตรีใหม่ในคณะรัฐบาล “ลุงตู่ทหารแก่ 2/2” โดยเฉพาะ “ท่านสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล และอดีตประธานกรรมการบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน), อดีตนายกสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย “คนร่วมข้อง” ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็น “รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน”...nn ยามนี้เห็นใจ “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่รัฐนาวาเรือเหล็ก...เรือแป๊ะถูกมรสุมกระหน่ำซ้ำเติมเป็นระลอก ไม่ใช่แค่มรสุมการเมืองเท่านั้น มรสุมสังคมก็ไม่วายเว้น อย่างที่บอก “มีอำนาจบารมีพวกพ้องอย่างเดียวไม่ได้มีประโยชน์ไปทุกอย่าง ต้องมีความตั้งใจดี และทัศนคติที่ดีด้วย จักก้าวข้ามปัญหาไปได้”...
nn และถึงเวลาแล้วที่ “สตช.และผบ.ตร.ยุค 5 จี” ต้องเลิกเป็น “อีแอบ” ปราบปรามอบายมุข โดยเฉพาะบ่อนพนันแบบต่างตอบแทน ไฟเขียวขาใหญ่นายโต เรียกรับส่วยหมื่นล้าน ยอมรับสภาพที่ดำรงอยู่ “ศึกษาและเสนอวิถี” เปิดกาสิโนเสรีแทนจะดีกว่าหรือไม่ อย่างน้อยที่ผ่านมาก็มีอดีตผบ.ตร. “นายพลไซด์ไลน์–บิ๊กอ๊อด-พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” เคยขันอาสาเป็นหัวเรือขับเคลื่อนกาสิโนเสริมสร้างรายได้ให้ประเทศมาแล้ว...
nn ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว สังคมไทยให้ความใส่ใจกับกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดคดีไม่ฟ้อง “บอส–วรายุทธ อยู่วิทยา” ทายาทเรดบูลธุรกิจแสนล้านที่ขับรถหรูชนรถจยย.ของ “ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ” จนถึงแก่ชีวิตเมื่อปี 2555 แต่จนวินาทีนี้ยังไม่มีใครเห็นหน้าได้ยินเสียงหรือทราบตรรกกะของ “เนตร นาคสุข” รองอัยการสูงสุดที่เป็นผู้ลงนามในคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดดังกล่าวทั้งที่ท่านคือกุญแจสำคัญ...
nn แม้ก่อนหน้านี้อธิบดีอัยการจะออกมาการันตีว่า “เนตร นาคสุข” กระทำการไปตามกฎระเบียบกติกากฎหมายทุกประการแต่ไม่ได้ตอกย้ำว่ากระทำการโดยไตร่ตรองรอบคอบหรือไม่ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเปล่า ท้ายที่สุดแล้วคณะกรรมการสนง.อัยการสูงสุด โดย “อรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ” เห็นว่าประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวนี้ จำเป็นที่ “อัยการสูงสุด” ควรหยิบยกมาพิจารณาทบทวน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ และมีผลต่อความเชื่อถือศรัทธาที่ประชาชน มีต่อองค์กรอัยการ ฟันเปรี้ยงลงไปว่า “เนตร นาคสุข” สั่งไม่ฟ้องมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เคยมีความเห็น“สั่งฟ้องบอส” มาก่อนหน้านี้แล้ว จึงไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงความเห็นของพนักงานอัยการที่สั่งฟ้องได้ “ไม้หน้าสาม” สนใจกับวรรคทองที่ “จรัญ ภักดีธนากุล อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม” แสดงไว้ว่าถ้อยแถลงของคณะกรรมการที่สำนักงานอัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาเพื่อพิจารณาหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เปรียบเสมือน การใช้ช่องทางธรรมชาติหรือที่เรียกกันติดปากว่า “ช่องหมา(สุนัข)ลอด” นั่นแหละ เป็นทางออก...
nn กลับมาที่ “วิชา มหาคุณ” ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ “ลุงตู่ทหารแก่” ตั้งขึ้น ยังยืนยันว่าจากหารืออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้เกี่ยวกับเรื่อง“หมายจับบอส” ได้ถอนไปหรือยัง เพราะมีข่าวว่า หลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง ตำรวจก็ได้ไปขอถอนหมายจับโชคดีที่ “รสนา โตสิตระกูล” อดีต สว. และมวลชนภาคประชาชนยื่นคำร้องต่อศาลเบรกเพิ่งถอนหมายจับ ซึ่งศาลก็เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงขอสอบสวนก่อน สรุปว่าประชาชนสบายใจได้ “หมายจับบอสยังคงอยู่”เหอะ...เหอะ...เหอะ!!...
nn ส่งเสริมภูมิปัญญาไทยด้วยสมุนไพรตามบัญชาลุงตู่ทหารแก่ กลับกลายเป็นว่า “หมอหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มุ่งหมายเอาแต่ “กัญชา” เป็นภูมิปัญญาบรรพชน เป็นยอดยาวิเศษที่สุดในการรักษาผู้ป่วย โดยเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดปลดล็อกกัญชาเป็นยาเข้าตำรับรักษาผู้ป่วยโดยไม่ผิดกฎหมาย พร้อมทั้งเป็นส่วนผสมยาค้าขายได้อย่างเสรี เมื่อสมมุติฐานในการส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยมีตรรกแค่นี้ อนาคตแพทย์แผนไทยก็จบเห่สิ้นหวัง ก่อนหน้านี้มีผลงานวิจัยทีมงานของอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่าสารพฤกษเคมีที่มีอยู่ใน “พืชสมุนไพรพลูคาว” ซึ่งเป็นพืชล้มลุก รากแตกออกมาตามข้อ มีกลิ่นคาวทั้งต้นและใบเป็นพืชใบเดี่ยวออกเรียงสลับรูปหัวใจด้านบนของใบเป็นสีเขียวเข้มด้านล่างใบเป็นสีม่วง เป็นสมุนไพรทั้งต้น (โดยต้นใช้แก้ปอดอักเสบ ดอกใช้ขับทารกที่ตายในท้อง ฯลฯ) เคยสำเหนียกบ้างหรือไม่รวมทั้งตำรับยาดีสามารถรักษาโรคร้ายได้ เช่น เบาหวาน ความดัน อย่างตำรับยาของ “หมอเณร-ชัยรัตน์ นนทชัย” ปราชญ์ชาวบ้านและราชาสมุนไพรไทยแห่งห้วยกระเจา ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ก็อย่าได้หวังผุดเกิดเลย รังแต่จะล้มหายตายจากไปตามกาลเวลาหากหน่วยงานราชการยังถือทิฐิปิดกั้นภูมิปัญญาบรรพบุรุษเยี่ยงนี้ การรักษาโรคเบาหวานที่มีอาการแผลเน่าให้หายให้ทุเลาโดยไม่ต้องตัดขาเป็น “ผู้พิการไร้สมรรถภาพ” รัฐบาลไม่ต้องนำเงินมาอุดหนุนผู้พิการหัวละ 800 บาทต่อเดือนเรื่องอย่างนี้นักเรียนเกรดเอ ไอคิวสูงเข้าไปเป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขเห็นแล้วคิดไม่ได้ หรือแกล้งไม่คิดในเรื่องเช่นนี้ จะนำพาบ้านเมืองนี้ไปได้อย่างไร เห็นโอกาส “กู้วิกฤติเศรษฐกิจชาติหลังพิษภัยโควิด-19”จางลง บ้านเมืองนี้ก็วังเวงเสียนี่ โอกาส “จีดีพีบวก 5 ในปี 2564” ดูเป็นความฝันที่ไกลความจริงมิใช่น้อย...
nn ทิ้งท้ายวันนี้ “ไม้หน้าสาม” ชวนไปดูพรรคการเมืองนักการเมืองสายพันธุ์ใหม่ที่ “เลือกตั้งซ่อม” จะสักกี่ครั้งก็แพ้ร่ำไป ล่าสุด “การเลือกตั้งซ่อมสส.สมุทรปราการ เขต 5” แทนนาย “กรุงศรีวิไล สุทินเผือก” อดีตสส.จากพรรคพลังประชารัฐที่ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษาให้เลือกตั้งใหม่ ปรากฏว่าชาวบ้านยังเชื่อมั่นในรัฐบาล เทคะแนนเลือก “นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก” กลับเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรในนามพรรคพลังประชารัฐอย่างท่วมทัน 46,747 คะแนน ในขณะที่พรรคฝ่ายค้านรวมกันสามพรรคได้คะแนนเพียง 42,030 คะแนน...
nnนักเคลื่อนไหวและจัดกิจกรรมทางการเมืองทั้งหลายโปรดอ่านบรรทัดนี้ในทวิตเตอร์ของ “มิ้นท์–สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา สส.เขต 3 จังหวัดนครปฐม พรรคก้าวไกล” ที่ชื่อ “Mint Suttawan III” ได้ทวิตข้อความไว้ว่า “สส.พรรคก้าวไกลพร้อมประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมืองทุกคนค่ะ แต่ที่อยากบอกก็คือครูบาอาจารย์และผู้บริหารสถาบันการศึกษา ควรปกป้องลูกศิษย์ของตนเอง สนับสนุนให้พวกเขาใช้เสรีภาพแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ปิดกั้น ไม่ขัดขวาง และพร้อมช่วยเหลือพวกเขาเสมอ” สรุปว่าพรรคก้าวไกลจะช่วยประกันตัวหรือช่วยกระตุ้นให้ผู้บริหารสถาบันการศึกษานั้นๆ รับผิดชอบลูกศิษย์ล่ะครับ
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี