วันอังคาร ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
.jpg)
มีการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาหน่วยสนับสนุน “CCT MONITOR” ภายใต้โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ที่ โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อบูรณาการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ช่วยเหลือนักเรียนยากจน นักเรียนพิการหรือด้อยโอกาส ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายกวินทร์เกียรติ นนธ์พละ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ย้ำว่า ความยากจนเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เด็กต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา เป็นความโชคดีที่มีหน่วยงาน กสศ. เกิดขึ้นเป็นเพื่อนร่วมดำเนินงานของ สพฐ. เข้ามาช่วยเติมเต็ม และยังทำงานเสมือนการถมบ่อให้พื้นดินเสมอกันการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นภารกิจที่ต้องการผู้รับผิดชอบโดยเฉพาะเพราะเป็นงานที่ใหญ่และยาก เนื่องจากเด็กยากจนด้อยโอกาส ไม่ได้อยู่แค่ในชนบท แม้แต่ในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานครก็ยังมีเด็กกลุ่มนี้อยู่ แต่การค้นหาก็ยากลำบาก
ดังนั้นหาก สพฐ. ทำเองทุกเรื่องก็น่าจะไม่ครอบคลุม เพราะแค่ภารกิจหลักด้านการจัดการศึกษาอย่างเดียวก็หนักแล้ว การร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นเพื่อนร่วมทางพัฒนาเด็กยากจนด้อยโอกาสในทุกมิติ ทั้งการเรียนและคุณภาพชีวิต สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม ครอบคลุมถึงเด็กพิเศษ เด็กพิการ ได้มีโอกาสเท่าเทียมกับเด็กที่มีความพร้อมทางสังคมและเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพ พร้อมที่จะเติบโตไปดูแลบ้านเมืองในอนาคต
โครงการนี้นับว่าประสบความสำเร็จในการปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา แต่นักเรียนกลุ่มนี้ก็ยังมีความเสี่ยงด้านอื่นๆ เช่น สุขภาพ การเรียนรู้ พฤติกรรม เป็นต้น อาจเป็นปัจจัยทำให้นักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษาจึงต้องบูรณาการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. ครอบคลุมนักเรียนพิการหรือด้อยโอกาส ที่สอดคล้องกับการพัฒนาตามศักยภาพเป็นรายบุคคลต่อไป
ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า สพฐ. เป็นหน่วยงานต้นสังกัดที่จัดการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เด็กนักเรียนตั้งแต่อนุบาล-มัธยมปลาย ร้อยละ 70-80อยู่ในการดูแลของ สพฐ. ซึ่งโรงเรียนในสังกัด สพฐ. ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร เราจำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกับ สพฐ. อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะสามารถอุดช่องโหว่ทางการศึกษาของครอบครัวที่ยังเข้าไม่ถึง ให้ได้รับการเติมเต็ม
ซึ่งการลงนามบันทึกความร่วมมือฉบับนี้จะทำให้ กสศ. มีโอกาสขยายผลการช่วยเหลือเข้าไปถึงโรงเรียนในสังกัด สพฐ. เพิ่มขึ้นในส่วนของโรงเรียนสังกัดสำนักบริหารการศึกษาพิเศษ สพฐ. เช่น โรงเรียนเด็กด้อยโอกาสประเภทพิการ หรือกำพร้าพ่อแม่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ศึกษาสงเคราะห์ ที่เป็นโรงเรียนกินนอน โรงเรียนคนพิการ รวมถึงศูนย์การศึกษาพิเศษ ที่อยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เพิ่มอีกประมาณ 1-2 แสนคน
กสศ.ขอขอบคุณความทุ่มเทตั้งใจของครูทั่วประเทศมากกว่า 400,000 คน ใน 225 เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศที่ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน คัดกรองนักเรียนเข้ามา รวมถึงเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศที่ช่วยกระตุ้นให้สถานศึกษาต่างๆ ให้ความร่วมมือในการกรอกข้อมูลเข้ามามากขึ้น
คุณครู และผู้บริหารสถานศึกษาเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญที่จะทำให้โครงการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษแบบมีเงื่อนไข หรือทุนเสมอภาคไปถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริงและประสบความสำเร็จ
“ที่สำคัญยังเป็นการช่วยเหลือเด็กนักเรียนยากจนด้อยโอกาสไม่ให้นักเรียนเสียสิทธิ์การรับทุนอีกด้วย ถือเป็นพลังสำคัญของการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา” ดร.ไกรยส กล่าว
และย้ำว่าภารกิจดังกล่าว ได้มาจากข้อคิดเห็นของพื้นที่และครูที่ทำงานร่วมกันกับ กสศ. มาตลอด 2 ปี เบื้องต้นได้นำร่องใช้ใน 8 เขตพื้นที่การศึกษา10 จังหวัด จากนั้นจะมีการนำข้อคิดเห็นมาปรับปรุงและพัฒนา ก่อนที่จะขยายผลไปใช้ในสถานศึกษาทั่วประเทศต่อไปในอนาคต

'บิ๊กเล็ก' ลั่น สบายใจ หลัง 'ฮุน เซน' ท้าปิดด่าน 100 ปี ยันไม่ปล่อย 18 เชลยศึก
'พล.อ.ทรงวิทย์' บวชอุทิศส่วนกุศล ให้กับทหารที่เสียชีวิต
'สีหศักดิ์'เชื่อญี่ปุ่นฟันกฎหมาย หลังโซเชียลจี้ถอดพาสปอร์ต แจ็กแปปโฮ
เปิดคำพิพากษาฉบับเต็ม! ศาลฎีการะบุชัด 'ทักษิณ'เป็นตัวการให้ลูกถือหุ้นชินฯ ต้องจ่ายภาษี 1.7 หมื่นล้าน
จ่อ3หมื่นล้าน! MotoGPวงรอบใหม่มูลค่ามหาศาล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี