วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บทบรรณาธิการ
บทบรรณาธิการ

บทบรรณาธิการ

วันศุกร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
ทางรอดเศรษฐกิจไทย

ดูทั้งหมด

  •  

สำหรับการส่งออกอัตราแลกเปลี่ยนก็เหมือนปืนใหญ่ในกองทัพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยก็เปรียบเหมือนแม่ทัพถ้ายังไม่เชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาลให้รุกเพื่อเพิ่ม GDP ให้ได้ 3-6%แต่กลับตั้งเป้าถอย GDP ลงเหลือ -8% โดยปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้ประกอบการเดือดร้อนอย่างหนักประชาชนตกยากไร้รายได้ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเมืองไปไม่ได้ คนตกงานไปค้ายาจนนักโทษมีถึง 400,000 คนเหมือนหนึ่งรัฐบาลสั่งรุกเข้าไปยึดพื้นที่คืนจากข้าศึกซึ่งกำลังทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน แต่แม่ทัพกลับเพิกเฉยอ้างแต่สัญญาลดกำลังอาวุธ ซึ่งฝั่งตรงข้ามไม่ปฏิบัติตาม โดยสั่งให้ทหารใช้ปืนใหญ่ยิงได้ไม่เกิน 10 กม.ตามที่ตกลง แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับใช้ปืนใหญ่วิถีทำการ 15 กม.แล้วทหารไทยจะไปสู้ใครได้แล้วไม่สงสารคนไทยในเขตยึดครองของข้าศึกที่ได้รับความเดือดรัอนอย่างแสนสาหัสหรือว่าท่านไม่ใช่คนไทย

ในทางธุรกิจ การค้าขาย เงินเป็นเสมือนหนึ่งกองทัพของประเทศ การทำการค้าก็ต้องอาศัยเงินเหมือนกับการรบของประเทศก็ต้องอาศัยทหาร หรือกองทัพ การรบกับอุปสรรคต่างๆ ของประเทศก็ต้องอาศัยเงิน นโยบายการเงิน ที่ถูกต้อง ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยคนคุมนโยบายการเงิน สำหรับประเทศไทยก็คือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ถ้าต้องการรบชนะทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออก เราก็ต้องอาศัยเงินซึ่งมีศักยภาพสูง นั่นคือเงินที่มีอัตราแลกเปลี่ยนต่ำ เงินบาทต้องไม่แข็งเกินไป ถ้าเงินบาทแข็งเกินไปก็เหมือนกองทัพ ที่อ่อนแอ ไม่สามารถไปรบกับใครได้ทั้งสิ้น


สำหรับประเทศไทยผู้ดูแลนโยบายการเงินก็คือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ถ้าท่านต้องการให้รบชนะคืออยากได้ GDP โต 5 เปอร์เซ็นต์ หรือ 6 เปอร์เซ็นต์ ท่านต้องมีกองทัพหรือการเงินที่แข็งแรง คือเงินบาทต้องอ่อนลงอีก 10% เพื่อเพิ่มศักยภาพกองทัพในการรบ ตามปกติวิสัยทฤษฎีการค้าเสรี เราไม่ควรไปยุ่งกับอัตราแลกเปลี่ยน แต่ในเมื่อธนาคารชาติของประเทศรอบข้างคู่แข่งของเรา เข้ามายุ่งกับการทำให้เงินของเขาอ่อน เราก็ต้องทำให้เงินบาทเราอ่อนมาใกล้เคียงกับเขาเพื่อที่จะสู้เขาได้เหมือนหนึ่ง กองทัพถ้าเขาเพิ่มจรวดเพิ่มเรือบิน เรือรบ รถถัง แล้วถ้าเราไม่เพิ่มกองกำลังรบของเรา เราจะไปสู้กับศัตรูได้หรือ อาณาจักรของเราก็จะถูกหดหายไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดอย่าหวังเลยว่า GDP จะได้แม้แต่ -8% ก็จะไม่ได้ แต่ถ้าเรายอมให้เงินบาทอ่อนลง 10% กล่าวคือจาก 31 บาทต่อดอลลาร์ เป็น 35 บาทต่อดอลลาร์ เราก็สามารถเพิ่มศักยภาพของกองทัพการเงินให้สู้กับต่างชาติได้ เราสามารถเพิ่ม GDP ให้โตขึ้น อย่างน้อย 5 เปอร์เซ็นต์ได้แน่นอน

เมื่อ GDP โตขึ้นอีก 5% ก็จะทำให้โรงงานต่างๆ ในประเทศสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้และก็มีประสิทธิภาพและมีกำไรมากขึ้น การว่าจ้างแรงงานก็เต็ม 100% คนว่างงานซึ่งต้องไปประกอบอาชีพผิดกฎหมายก็น้อยลง (ขณะนี้คนติดคุกคดียาเสพติดมีอยู่ถึงสี่แสนคน แต่ตัวเลขของรัฐบาลกลับบอกว่ามีคนตกงานแค่ 0.5%) ก็จะเป็นการลดภาระของรัฐบาลทำให้ลดการสูญเสียเงินภาษีซึ่งเก็บจากประชาชน นอกจากนี้ ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของคนงานก็จะมากขึ้นรัฐบาลไม่ต้องไปชดเชยอะไรทั้งสิ้น เมื่อโรงงานต่างๆ มีกำไรทุกคนก็สนใจที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น ก็เพิ่ม Investments มากขึ้น

นอกจากคนไทยจะลงทุนแล้วต่างชาติพอเห็นมีกำไรต่างชาติคนจะวิ่งมาลงทุนมากขึ้นอีก ค่าแรงของคนงานก็จะเพิ่มขึ้น ตามที่รัฐบาลต้องการให้เห็นความอยู่ดีกินดีของประชาชน เมื่อทุกคนมีกำไร มีรายได้เพิ่มขึ้นรัฐบาลก็สามารถเก็บภาษีอากรได้มากขึ้น ทำให้งบการลงทุนของรัฐบาล งบค่าใช้จ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้น ทำให้เสถียรภาพทางการคลังทางการเมืองของรัฐบาลดีขึ้น และเสถียรภาพทางการเงินของประเทศก็ดีขึ้นและที่สำคัญประชาชนทั้งประเทศก็จะอยู่ดีกินดีด้วย แต่ตรงนี้มีข้อเสียอยู่นิดเดียวคือ ขณะนี้เราได้เกินดุลการค้าอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อเดือน ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องออกมาประกัน เงินดอลลาร์ในอัตรา 35 บาท ทำให้ต้องออกบัตรเพิ่มขึ้นอีก 10% ก็คือ 3,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือเท่ากับ ประมาณ 40,000 ล้านบาทต่อปี เทียบกับเงินหมุนเวียน M1 Money Supply ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2 ล้านล้านบาท ทำให้เงินหมุนเวียนมีมากขึ้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี มีผลทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

ทั้งนี้ จะมีผลทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อการอยู่ดีกินดีของประชาชน เพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลจะได้ให้ GDP โตขึ้นถึง 5 เปอร์เซ็นต์รัฐบาลจำเป็นต้องให้แม่ทัพการเงินคือผู้ว่าการฯ ผู้ดูแลนโยบายการเงินหรือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องลดค่าเงินบาทลง 10% มิฉะนั้น รัฐบาลจะไม่มีหวังที่จะได้รบชนะ และรัฐบาลจะไม่สามารถที่จะทำ GDP ให้โตอีก 5% ได้ โดยอาศัยนโยบายการคลังจากกระทรวงการคลังอย่างเดียว เพราะถ้าในการค้ารัฐมนตรีคลังเทียบเท่ากับรัฐมนตรีกลาโหมในการรบนั้นเอง ถ้าไม่สามารถให้แม่ทัพเสริมกองทัพให้แข็งแรงได้ก็ไม่มีวันที่จะรบชนะ โดยถ้าแม่ทัพ ที่คุมกองทัพหรือ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยผู้คุมนโยบายการเงินไม่ให้ความร่วมมือเพิ่มศักยภาพของกองทหารก็อย่าหวังชนะการรบนี้เลย

นอกจากนี้ รัฐบาลควรผ่อนผันการเดินทางเข้ามาทำธุรกิจและการทัศนาจรของชาวต่างประเทศภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดโดยให้ทานยาฆ่าเชื้อไวรัส corona virus ที่ทาง TPI ใช้อยู่อย่างได้ผล (BIOKNOX ) โดยพนักงานใช้ดื่มฆ่าเชื้อไวรัสและใช้ Gel ล้างมือ พร้อมใส่ Mask ป้องกันจนกระทั่งบัดนี้พนักงานและสมาชิกในครอบครัวเป็นแสนคนก็ไม่มีใครติดไวรัสCOVID-19 สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟ สนามบินคลองส่งน้ำ โรงไฟฟ้า ประปา โรงพยาบาล ไม่ควรชะลอการสร้าง เพราะจะสร้างงานและกระจายเงินให้ประชาชนเพิ่ม GDP ได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ นโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทยควรสั่งสถาบันการเงินผ่อนปรนการจัดลำดับหนี้การเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไปจนกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเหมือนเดิมและพักการชำระดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการและคนยากจนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการฉุกเฉินระงับการประกอบธุรกิจและการเดินทางของรัฐบาลเพราะเป็นเหตุสุดวิสัย โดยอำนาจรัฐและรัฐบาลอาจชดใช้ดอกเบี้ยให้ธนาคารพาณิชย์เท่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ประมาณ 0.1%-0.4% ต่อปีเพื่อให้เกิดเสถียรภาพทางการเงินและการคลังของประเทศทำให้ทุกคนสามารถฟื้นกลับมาประกอบอาชีพได้ตามปกติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
07:05 น. แนวหน้าวิเคราะห์ : ถอดบทเรียน'น้ำท่วมหาดใหญ่-ภาคใต้' ประสิทธิภาพการรับมือปัญหาในอนาคตของรัฐบาล-ท้องถิ่น
06:00 น. รมว.สธ.โต้บิ๊กโจ๊ก ตายไม่ถึงหลักพัน มีใบมรณบัตรยัน ดับน้ำท่วม140ศพ
06:00 น. ครม.ทุ่มงบ530ล้านฟื้นฟูหาดใหญ่ เยียวยาศพละ2ล. ได้เฉพาะพื้นที่ฉุกเฉิน‘สงขลา’
06:00 น. กระทบจีดีพี0.1% ‘คลัง’ประเมินเซ่นน้ำท่วมใต้ มั่นใจไตรมาส4ยังโตได้อีก0.6
06:00 น. ‘เพื่อไทย’ส่อไม่ยื่นซักฟอกรบ. หวันแก้รธน.ล่ม หนุนยุบสภาตามเดิม31ม.ค.69
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 30 พ.ย.-6 ธ.ค.68
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568
มาแล้ว กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 28 พ.ย.-4 ธ.ค.68
ถึงบางอ้อ นักเขียนซีไรต์ เล่าเรื่องราว เขต 8 หาดใหญ่
เคลียร์ชัดอีกครั้ง ​ก็อต อิทธิพัทธ์ ชี้แจงสาเหตุเลิก ริชชี่ ปิดฉากรัก6ปี
ดูทั้งหมด
จบแล้วแต่ยังไม่จบ : ทำไมการสิ้นสุด QT ไม่ได้ทำให้สภาพคล่องกลับมาทันที
‘นายกแป้น’กับน้ำท่วมหาดใหญ่
เมื่อองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันทั้งภูมิภาคมาร่วมวงคุยกันจริงจัง
ฟื้นฟูและเยียวยา
ตรรกะสักแต่จะด่าหาแสง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ข้อความจาก'ชาวหาดใหญ่' เรื่องราวดีๆสร้างกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

ผู้กำกับพิธีเปิดซีเกมส์โพสต์เศร้า! เตรียมงาน7เดือนก่อนโดนเทหลังเปลี่ยนรัฐบาล

รู้จักทีม'USAR'ของกองทัพเรือ 'หน่วยกู้ซ่อม ค้นหาช่วยเหลือ'

ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์ 'เฉิน จื้อ-ก๊ก อาน'และเครือข่าย'เบน สมิธ'นับหมื่นล้าน

นมเรืองแสง! 'อ.เจษฎา'แชร์ซิลิโคนเรืองแสงสุดล้ำ ติดไฟLEDควบคุมด้วยสมาร์ทโฟน

'อภิสิทธิ์'ชี้'อุตสาหกรรมใต้'อ่วมหนัก จ่อเสนอมาตรการเจาะลึกพื้นที่ให้ฟื้นได้เร็วขึ้น

  • Breaking News
  • แนวหน้าวิเคราะห์ : ถอดบทเรียน\'น้ำท่วมหาดใหญ่-ภาคใต้\' ประสิทธิภาพการรับมือปัญหาในอนาคตของรัฐบาล-ท้องถิ่น แนวหน้าวิเคราะห์ : ถอดบทเรียน'น้ำท่วมหาดใหญ่-ภาคใต้' ประสิทธิภาพการรับมือปัญหาในอนาคตของรัฐบาล-ท้องถิ่น
  • รมว.สธ.โต้บิ๊กโจ๊ก ตายไม่ถึงหลักพัน มีใบมรณบัตรยัน ดับน้ำท่วม140ศพ รมว.สธ.โต้บิ๊กโจ๊ก ตายไม่ถึงหลักพัน มีใบมรณบัตรยัน ดับน้ำท่วม140ศพ
  • ครม.ทุ่มงบ530ล้านฟื้นฟูหาดใหญ่ เยียวยาศพละ2ล. ได้เฉพาะพื้นที่ฉุกเฉิน‘สงขลา’ ครม.ทุ่มงบ530ล้านฟื้นฟูหาดใหญ่ เยียวยาศพละ2ล. ได้เฉพาะพื้นที่ฉุกเฉิน‘สงขลา’
  • กระทบจีดีพี0.1% ‘คลัง’ประเมินเซ่นน้ำท่วมใต้ มั่นใจไตรมาส4ยังโตได้อีก0.6 กระทบจีดีพี0.1% ‘คลัง’ประเมินเซ่นน้ำท่วมใต้ มั่นใจไตรมาส4ยังโตได้อีก0.6
  • ‘เพื่อไทย’ส่อไม่ยื่นซักฟอกรบ. หวันแก้รธน.ล่ม หนุนยุบสภาตามเดิม31ม.ค.69 ‘เพื่อไทย’ส่อไม่ยื่นซักฟอกรบ. หวันแก้รธน.ล่ม หนุนยุบสภาตามเดิม31ม.ค.69
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ยุบหรือไม่ยุบสภาฯ

ยุบหรือไม่ยุบสภาฯ

3 ธ.ค. 2568

กติกาที่ควรปรับปรุงใหม่

กติกาที่ควรปรับปรุงใหม่

2 ธ.ค. 2568

บททดสอบภาวะผู้นำ

บททดสอบภาวะผู้นำ

1 ธ.ค. 2568

นักการเมืองไปช่วยชาวบ้าน หรือไปแย่งคะแนนเลือกตั้ง

นักการเมืองไปช่วยชาวบ้าน หรือไปแย่งคะแนนเลือกตั้ง

30 พ.ย. 2568

นายกรัฐมนตรีมีไว้เพื่อ....

นายกรัฐมนตรีมีไว้เพื่อ....

29 พ.ย. 2568

หาดใหญ่จะไม่เหมือนเดิม

หาดใหญ่จะไม่เหมือนเดิม

28 พ.ย. 2568

บทบรรณาธิการ : สามัคคีทุกฝ่าย สู้ภัยพิบัติ

บทบรรณาธิการ : สามัคคีทุกฝ่าย สู้ภัยพิบัติ

27 พ.ย. 2568

บ้านเมืองวิบัติ วินาศ วิกฤต วิปโยค แต่นักการเมืองยังสุขสบาย

บ้านเมืองวิบัติ วินาศ วิกฤต วิปโยค แต่นักการเมืองยังสุขสบาย

26 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved