วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / บทบรรณาธิการ
บทบรรณาธิการ

บทบรรณาธิการ

วันศุกร์ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
ทางรอดเศรษฐกิจไทย

ดูทั้งหมด

  •  

สำหรับการส่งออกอัตราแลกเปลี่ยนก็เหมือนปืนใหญ่ในกองทัพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยก็เปรียบเหมือนแม่ทัพถ้ายังไม่เชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาลให้รุกเพื่อเพิ่ม GDP ให้ได้ 3-6%แต่กลับตั้งเป้าถอย GDP ลงเหลือ -8% โดยปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้ประกอบการเดือดร้อนอย่างหนักประชาชนตกยากไร้รายได้ เสถียรภาพเศรษฐกิจการเมืองไปไม่ได้ คนตกงานไปค้ายาจนนักโทษมีถึง 400,000 คนเหมือนหนึ่งรัฐบาลสั่งรุกเข้าไปยึดพื้นที่คืนจากข้าศึกซึ่งกำลังทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน แต่แม่ทัพกลับเพิกเฉยอ้างแต่สัญญาลดกำลังอาวุธ ซึ่งฝั่งตรงข้ามไม่ปฏิบัติตาม โดยสั่งให้ทหารใช้ปืนใหญ่ยิงได้ไม่เกิน 10 กม.ตามที่ตกลง แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับใช้ปืนใหญ่วิถีทำการ 15 กม.แล้วทหารไทยจะไปสู้ใครได้แล้วไม่สงสารคนไทยในเขตยึดครองของข้าศึกที่ได้รับความเดือดรัอนอย่างแสนสาหัสหรือว่าท่านไม่ใช่คนไทย

ในทางธุรกิจ การค้าขาย เงินเป็นเสมือนหนึ่งกองทัพของประเทศ การทำการค้าก็ต้องอาศัยเงินเหมือนกับการรบของประเทศก็ต้องอาศัยทหาร หรือกองทัพ การรบกับอุปสรรคต่างๆ ของประเทศก็ต้องอาศัยเงิน นโยบายการเงิน ที่ถูกต้อง ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยคนคุมนโยบายการเงิน สำหรับประเทศไทยก็คือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ถ้าต้องการรบชนะทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออก เราก็ต้องอาศัยเงินซึ่งมีศักยภาพสูง นั่นคือเงินที่มีอัตราแลกเปลี่ยนต่ำ เงินบาทต้องไม่แข็งเกินไป ถ้าเงินบาทแข็งเกินไปก็เหมือนกองทัพ ที่อ่อนแอ ไม่สามารถไปรบกับใครได้ทั้งสิ้น


สำหรับประเทศไทยผู้ดูแลนโยบายการเงินก็คือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ถ้าท่านต้องการให้รบชนะคืออยากได้ GDP โต 5 เปอร์เซ็นต์ หรือ 6 เปอร์เซ็นต์ ท่านต้องมีกองทัพหรือการเงินที่แข็งแรง คือเงินบาทต้องอ่อนลงอีก 10% เพื่อเพิ่มศักยภาพกองทัพในการรบ ตามปกติวิสัยทฤษฎีการค้าเสรี เราไม่ควรไปยุ่งกับอัตราแลกเปลี่ยน แต่ในเมื่อธนาคารชาติของประเทศรอบข้างคู่แข่งของเรา เข้ามายุ่งกับการทำให้เงินของเขาอ่อน เราก็ต้องทำให้เงินบาทเราอ่อนมาใกล้เคียงกับเขาเพื่อที่จะสู้เขาได้เหมือนหนึ่ง กองทัพถ้าเขาเพิ่มจรวดเพิ่มเรือบิน เรือรบ รถถัง แล้วถ้าเราไม่เพิ่มกองกำลังรบของเรา เราจะไปสู้กับศัตรูได้หรือ อาณาจักรของเราก็จะถูกหดหายไปเรื่อยๆ ท้ายที่สุดอย่าหวังเลยว่า GDP จะได้แม้แต่ -8% ก็จะไม่ได้ แต่ถ้าเรายอมให้เงินบาทอ่อนลง 10% กล่าวคือจาก 31 บาทต่อดอลลาร์ เป็น 35 บาทต่อดอลลาร์ เราก็สามารถเพิ่มศักยภาพของกองทัพการเงินให้สู้กับต่างชาติได้ เราสามารถเพิ่ม GDP ให้โตขึ้น อย่างน้อย 5 เปอร์เซ็นต์ได้แน่นอน

เมื่อ GDP โตขึ้นอีก 5% ก็จะทำให้โรงงานต่างๆ ในประเทศสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้และก็มีประสิทธิภาพและมีกำไรมากขึ้น การว่าจ้างแรงงานก็เต็ม 100% คนว่างงานซึ่งต้องไปประกอบอาชีพผิดกฎหมายก็น้อยลง (ขณะนี้คนติดคุกคดียาเสพติดมีอยู่ถึงสี่แสนคน แต่ตัวเลขของรัฐบาลกลับบอกว่ามีคนตกงานแค่ 0.5%) ก็จะเป็นการลดภาระของรัฐบาลทำให้ลดการสูญเสียเงินภาษีซึ่งเก็บจากประชาชน นอกจากนี้ ความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของคนงานก็จะมากขึ้นรัฐบาลไม่ต้องไปชดเชยอะไรทั้งสิ้น เมื่อโรงงานต่างๆ มีกำไรทุกคนก็สนใจที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น ก็เพิ่ม Investments มากขึ้น

นอกจากคนไทยจะลงทุนแล้วต่างชาติพอเห็นมีกำไรต่างชาติคนจะวิ่งมาลงทุนมากขึ้นอีก ค่าแรงของคนงานก็จะเพิ่มขึ้น ตามที่รัฐบาลต้องการให้เห็นความอยู่ดีกินดีของประชาชน เมื่อทุกคนมีกำไร มีรายได้เพิ่มขึ้นรัฐบาลก็สามารถเก็บภาษีอากรได้มากขึ้น ทำให้งบการลงทุนของรัฐบาล งบค่าใช้จ่ายของรัฐบาลเพิ่มขึ้น ทำให้เสถียรภาพทางการคลังทางการเมืองของรัฐบาลดีขึ้น และเสถียรภาพทางการเงินของประเทศก็ดีขึ้นและที่สำคัญประชาชนทั้งประเทศก็จะอยู่ดีกินดีด้วย แต่ตรงนี้มีข้อเสียอยู่นิดเดียวคือ ขณะนี้เราได้เกินดุลการค้าอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อเดือน ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องออกมาประกัน เงินดอลลาร์ในอัตรา 35 บาท ทำให้ต้องออกบัตรเพิ่มขึ้นอีก 10% ก็คือ 3,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือเท่ากับ ประมาณ 40,000 ล้านบาทต่อปี เทียบกับเงินหมุนเวียน M1 Money Supply ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2 ล้านล้านบาท ทำให้เงินหมุนเวียนมีมากขึ้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี มีผลทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

ทั้งนี้ จะมีผลทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อการอยู่ดีกินดีของประชาชน เพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลจะได้ให้ GDP โตขึ้นถึง 5 เปอร์เซ็นต์รัฐบาลจำเป็นต้องให้แม่ทัพการเงินคือผู้ว่าการฯ ผู้ดูแลนโยบายการเงินหรือผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องลดค่าเงินบาทลง 10% มิฉะนั้น รัฐบาลจะไม่มีหวังที่จะได้รบชนะ และรัฐบาลจะไม่สามารถที่จะทำ GDP ให้โตอีก 5% ได้ โดยอาศัยนโยบายการคลังจากกระทรวงการคลังอย่างเดียว เพราะถ้าในการค้ารัฐมนตรีคลังเทียบเท่ากับรัฐมนตรีกลาโหมในการรบนั้นเอง ถ้าไม่สามารถให้แม่ทัพเสริมกองทัพให้แข็งแรงได้ก็ไม่มีวันที่จะรบชนะ โดยถ้าแม่ทัพ ที่คุมกองทัพหรือ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยผู้คุมนโยบายการเงินไม่ให้ความร่วมมือเพิ่มศักยภาพของกองทหารก็อย่าหวังชนะการรบนี้เลย

นอกจากนี้ รัฐบาลควรผ่อนผันการเดินทางเข้ามาทำธุรกิจและการทัศนาจรของชาวต่างประเทศภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดโดยให้ทานยาฆ่าเชื้อไวรัส corona virus ที่ทาง TPI ใช้อยู่อย่างได้ผล (BIOKNOX ) โดยพนักงานใช้ดื่มฆ่าเชื้อไวรัสและใช้ Gel ล้างมือ พร้อมใส่ Mask ป้องกันจนกระทั่งบัดนี้พนักงานและสมาชิกในครอบครัวเป็นแสนคนก็ไม่มีใครติดไวรัสCOVID-19 สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟ สนามบินคลองส่งน้ำ โรงไฟฟ้า ประปา โรงพยาบาล ไม่ควรชะลอการสร้าง เพราะจะสร้างงานและกระจายเงินให้ประชาชนเพิ่ม GDP ได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ นโยบายการเงินธนาคารแห่งประเทศไทยควรสั่งสถาบันการเงินผ่อนปรนการจัดลำดับหนี้การเป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ออกไปจนกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเหมือนเดิมและพักการชำระดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบการและคนยากจนที่ได้รับผลกระทบจากการใช้มาตรการฉุกเฉินระงับการประกอบธุรกิจและการเดินทางของรัฐบาลเพราะเป็นเหตุสุดวิสัย โดยอำนาจรัฐและรัฐบาลอาจชดใช้ดอกเบี้ยให้ธนาคารพาณิชย์เท่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ประมาณ 0.1%-0.4% ต่อปีเพื่อให้เกิดเสถียรภาพทางการเงินและการคลังของประเทศทำให้ทุกคนสามารถฟื้นกลับมาประกอบอาชีพได้ตามปกติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:52 น. 'พีระพันธุ์'จับไมค์ ร้องเพลง'ศรัทธา' ปลุกสมาชิกพรรค รทสช.เดินหน้าสู้
21:28 น. (คลิป) เขยใหญ่! 'ชินวัตร' รับไม้ต่อ 'เพื่อไทย' ใช้ความแค้นเป็นพลังสู้ศึกเลือกตั้ง
21:22 น. 'ปลอดประสพ'หนุนใช้ยาแรงกับเขมรบุกรุก แนะจับกุมดำเนินคดี-รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง
20:59 น. 'ฮุน มาเนต'วอนขอ'นายกฯอันวาร์' เข้าแทรกแซงทันทีปมบ้านหนองหญ้าแก้ว
20:50 น. 'กวีเหลวไหลแท้'ร่ายบทกวี ถึง'อัญชะลี ไพรีรัก' ยกย่องเป็น 'เอกนารี' ผู้ยึดมั่นในความสุจริต
ดูทั้งหมด
ออกครบแล้ว! ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2568
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
(คลิป) 'ฮุนเซน' ออกโรงแจงด่วนกลางดึก ยึดทรัพย์ 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์' ในเขมร
'DSI'เตือน!! อย่าโอน-สแกนซื้อสิ่งนี้ หากไม่อยากเสี่ยงถูกอายัดบัญชี
'มล.รจนาธร'โพสต์ขอบคุณ'ลิซ่า ลลิษา' สวมจิวเวลรีแบรนด์ไทยในลุค After party Emmy Awards
ดูทั้งหมด
วัคซีนและยาลดความรุนแรงจากโรคติดเชื้อ RSV
อลัชชีหุ้มจีวร
‘หนู-1’รัฐบาลชั่วคราวไม่ค้างคืน
ไทยต้องปรับปรุงด่วน ถ้ายังอยากอยู่ในสายตานักลงทุนโลก
หนึ่งวันพันเหตุการณ์
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'พีระพันธุ์'จับไมค์ ร้องเพลง'ศรัทธา' ปลุกสมาชิกพรรค รทสช.เดินหน้าสู้

(คลิป) เขยใหญ่! 'ชินวัตร' รับไม้ต่อ 'เพื่อไทย' ใช้ความแค้นเป็นพลังสู้ศึกเลือกตั้ง

‘อภิสิทธิ์-มาดามแป้ง’การจับคู่ที่ลงตัว กับเดิมพันครั้งสำคัญ คืนชีพ‘ประชาธิปัตย์’

ลุ้นระทึก! 19 ก.ย.‘ศาลฎีกา’นัดชี้ชะตา‘ม็อบพันธมิตร’บุกช่อง NBT ปี51

'ฮุน มาเนต'วอนขอ'นายกฯอันวาร์' เข้าแทรกแซงทันทีปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

'กวีเหลวไหลแท้'ร่ายบทกวี ถึง'อัญชะลี ไพรีรัก' ยกย่องเป็น 'เอกนารี' ผู้ยึดมั่นในความสุจริต

  • Breaking News
  • \'พีระพันธุ์\'จับไมค์ ร้องเพลง\'ศรัทธา\' ปลุกสมาชิกพรรค รทสช.เดินหน้าสู้ 'พีระพันธุ์'จับไมค์ ร้องเพลง'ศรัทธา' ปลุกสมาชิกพรรค รทสช.เดินหน้าสู้
  • (คลิป) เขยใหญ่! \'ชินวัตร\' รับไม้ต่อ \'เพื่อไทย\' ใช้ความแค้นเป็นพลังสู้ศึกเลือกตั้ง (คลิป) เขยใหญ่! 'ชินวัตร' รับไม้ต่อ 'เพื่อไทย' ใช้ความแค้นเป็นพลังสู้ศึกเลือกตั้ง
  • \'ปลอดประสพ\'หนุนใช้ยาแรงกับเขมรบุกรุก แนะจับกุมดำเนินคดี-รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง 'ปลอดประสพ'หนุนใช้ยาแรงกับเขมรบุกรุก แนะจับกุมดำเนินคดี-รื้อถอนสิ่งก่อสร้าง
  • \'ฮุน มาเนต\'วอนขอ\'นายกฯอันวาร์\' เข้าแทรกแซงทันทีปมบ้านหนองหญ้าแก้ว 'ฮุน มาเนต'วอนขอ'นายกฯอันวาร์' เข้าแทรกแซงทันทีปมบ้านหนองหญ้าแก้ว
  • \'กวีเหลวไหลแท้\'ร่ายบทกวี ถึง\'อัญชะลี ไพรีรัก\' ยกย่องเป็น \'เอกนารี\' ผู้ยึดมั่นในความสุจริต 'กวีเหลวไหลแท้'ร่ายบทกวี ถึง'อัญชะลี ไพรีรัก' ยกย่องเป็น 'เอกนารี' ผู้ยึดมั่นในความสุจริต
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

บทเรียนจากเนปาลถึงเขมร

บทเรียนจากเนปาลถึงเขมร

18 ก.ย. 2568

ทักษิณยอมติดคุก เพื่อยื้อชะตา  แพทองธารและเพื่อไทย

ทักษิณยอมติดคุก เพื่อยื้อชะตา แพทองธารและเพื่อไทย

17 ก.ย. 2568

ประชาธิปัตย์ไม่มีวันตาย(จริงหรือ)

ประชาธิปัตย์ไม่มีวันตาย(จริงหรือ)

16 ก.ย. 2568

ประชาชนอนุญาตให้เสียสัตย์

ประชาชนอนุญาตให้เสียสัตย์

15 ก.ย. 2568

ไทยแพ้เกมกัมพูชาในเชิงการทูต

ไทยแพ้เกมกัมพูชาในเชิงการทูต

14 ก.ย. 2568

ทหารห้องแอร์กับทหารรบจริง

ทหารห้องแอร์กับทหารรบจริง

13 ก.ย. 2568

อุทาหรณ์ชั้น14-วีรบุรุษจอมปลอม

อุทาหรณ์ชั้น14-วีรบุรุษจอมปลอม

12 ก.ย. 2568

เมื่อศาลคืนความยุติธรรมให้สังคม :  บทเรียนจากคดีทักษิณ

เมื่อศาลคืนความยุติธรรมให้สังคม : บทเรียนจากคดีทักษิณ

11 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved