วันศุกร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ม็อบ 10 ข้อ พยายามแปลงกายหลากหลายรูปแบบกระทั่งแปลงกายเป็นม็อบ 3 ข้อ แต่แฝงเรื่องล้มเจ้าไว้ในข้อ 3 ในขณะที่พวกโหนเจ้าปกป้องนักการเมืองก็สร้างศัตรูเพิ่มให้เจ้าอยู่ร่ำไปพยายามตีกินอยู่ทุกโอกาส ทำตัวผูกขาดเป็นผู้ปกป้องเจ้า จนผู้ที่มีความจงรักภักดีอันบริสุทธิ์อิดหนาระอาใจตามๆ กัน
การขับเคลื่อนของม็อบล้มเจ้าและพวกโหนเจ้าดังกล่าวนี้แม้ดูภายนอกเหมือนหนึ่งว่าต่อสู้กัน แต่โดยผลที่แท้จริงเป็นอย่างไร ผู้มีปัญญาก็ย่อมตรองเห็นได้ไม่ยากนัก
เพราะไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก แต่เกิดขึ้นมาก่อนแล้วในประเทศเนปาล โดยมีขบวนการต่อต้านรัฐบาลหรือที่เรียกว่าเหมาอิสต์ ในขณะที่รัฐบาลเนปาลก็เป็นรัฐบาลฉ้อฉลปล้นชาติปล้นแผ่นดิน โกงกินทุกรูปแบบ จึงถูกประชาชนต่อต้าน
ใครต่อต้านรัฐบาลเนปาลในยุคนั้น ก็จะมีขบวนการหนึ่งออกมาใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นพวกเหมาอิสต์คือพวกล้มเจ้า ทั้งๆ ที่ผู้ที่ต่อต้านรัฐบาลโกงบ้านกินเมืองของเนปาลนั้นจำนวนมากไม่ได้เกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ และไม่รู้จักลัทธิคอมมิวนิสต์ และยิ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเหมาอิสต์
แต่ครั้นถูกผลักไสไล่ส่งบ่อยครั้งเข้า ถูกข่มเหงรังแกบ่อยครั้งเข้าก็พลอยชิงชังเจ้าของเนปาลไปด้วย
เพราะพระเจ้าแผ่นดินของเนปาลในยุคนั้นพระองค์ก็เป็นพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความเป็นกลางทางการเมือง และไม่ได้เกี่ยวข้องในการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นจะมีการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างไรพระองค์ท่านก็ทรงทำอะไรใครไม่ได้
เมื่อพระเจ้าแผ่นดินเนปาลทรงทำอะไรไม่ได้จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ชาวเนปาลทั้งหลายว่าเอื้อเฟื้อเกื้อกูลเป็นพวกเดียวกับนักการเมืองโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงเหล่านั้น นานวันเข้าเจ้าเนปาลและนักการเมืองโกงชาติก็ถูกจับผูกรวมเข้าเป็นพวกเดียวกัน
รัฐบาลเนปาลมีอำนาจมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงมากขึ้นเท่านั้น การทุจริต การฉ้อฉล การบิดเบือนการใช้อำนาจ และการไม่ใส่ใจในความยากจนเดือดร้อนของราษฎรก็มากขึ้นเท่านั้น เพราะแต่ละวันแต่ละคืนก็เอาแต่การจัดสรรปันแบ่งผลประโยชน์กันอย่างคึกคักสนุกสนาน
จึงทำให้ความเดือดร้อนและความทุกข์ยากของราษฎรเนปาลขยายไปทั่วทั้งประเทศ ในที่สุดขบวนการที่ต่อต้านรัฐบาลเนปาลก็ได้ชัยชนะ เพราะชาวเนปาลทั้งประเทศไม่ยอมรับอำนาจการปกครองของรัฐบาลต่อไปอีก แต่เนื่องจากมีการผูกรวมนักการเมืองโกงชาติเข้ากับเจ้าเนปาล ดังนั้นเมื่อประชาชนเขาเฉดหัวส่งนักการเมืองโกงชาติ พระเจ้าแผ่นดินเนปาลจึงพลอยฟ้าพลอยฝนถูกไล่ออกจากตำแหน่งประมุขของประเทศไปด้วย
นั่นคือแบบอย่างที่เกิดขึ้นแล้วในเนปาล ดังนั้นบทเรียนที่เกิดขึ้นในประเทศเนปาลซึ่งยังไม่นานเกินไป ยังพอที่จะทบทวนนึกถึงได้กันอยู่ จึงควรต้องตระหนักสังวรไว้ให้จงดี
พวกโหนเจ้าที่วันๆ สร้างศัตรูให้กับเจ้า ขับไล่ไสส่งผู้ที่มีความเห็นต่างให้ไปเป็นศัตรูกับเจ้าเพื่อปกป้องนักการเมืองก็ต้องตระหนักสังวรไว้ให้จงดีว่าผลที่สุดของการกระทำเช่นนี้จะทำให้เกิดบั้นปลายเป็นอย่างเดียวกับเนปาลได้
นักการเมืองที่โกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงทั้งหลายก็อย่าฮึกเหิมลำพองเกินไปนัก เพราะการเมืองนั้นในที่สุดเป็นเรื่องของประชาชน วันหนึ่งประชาชนอาจจะหลงใหลได้ปลื้มและเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย แต่ใช่ว่าจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป และเมื่อใดที่ความยากจนข้นแค้นความทุกข์ยากแพร่ขยายไปจนแก้ไม่ได้แล้ว เมื่อนั้นประชาชนเขาก็มีอำนาจที่จะเฉดหัวนักการเมืองให้พ่ายแพ้เลือกตั้งพ้นไปจากอำนาจได้
และต้องตระหนักให้ดีว่าเมื่อถึงวันเวลานั้นก็จะลากเอาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้พลอยเดือดร้อนเสียหายหรือเป็นอันตรายไปด้วย
ดังนั้นใครก็ตามที่ถ้าหากยังมีน้ำใจจงรักภักดีและหมายที่จะธำรงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะต้องสำเหนียกสังวรไว้ ต้องไม่ทำให้บทเรียนที่เคยเกิดขึ้นแล้วในประเทศเนปาลเกิดขึ้นในประเทศไทยซ้ำอีก
สำหรับประชาชนผู้มีความจงรักภักดีอันบริสุทธิ์ใจก็จะต้องรู้เท่าทันเหตุการณ์และความเป็นไปเพราะความขัดแย้งทั้งหลายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนั้นในปัจจุบันนี้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนและมีการแทรกแซงจากนักล่าอาณานิคมต่างชาติเข้ามาผสมโรง จึงทำให้จำแนกแยกแยะได้ยากสักหน่อย
แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ไม่พ้นวิสัยของความคิดจิตใจของคนไทยที่จะรู้เท่าทันไม่ได้ ขอเพียงตั้งสติให้มั่นทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ถูกต้องถ่องแท้ก็จะเข้าใจสถานการณ์ที่เป็นไปและจะได้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้องในการปกป้องพิทักษ์ไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้จีรังยั่งยืนสืบไป
แกนนำม็อบล้มเจ้าพยายามปกปิดหลอกหลอนคนไทยตลอดมาว่าที่ทำการเคลื่อนไหวนั้นเพียงแค่สิทธิมนุษยชน เพียงแค่ประชาธิปไตย เพียงแค่ความเท่าเทียม แต่ในขณะเดียวกันก็ปรากฏร่องรอยให้เห็นเด่นชัดขึ้นทุกทีว่าแท้จริงก็มีเป้าหมายจะเปลี่ยนแปลงการปกครองนั่นเอง
เหตุการณ์ล้อมรถพระที่นั่งและรังแกระรานที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 คือ คำพิพากษาด้วยตนเองว่าที่อุตส่าห์ลวงโลกลวงคนไทยมาระยะหนึ่งแล้วนั้น แท้จริงก็คือการประกาศตนว่าเป็นพวกล้มเจ้า ที่เป็นอริราชศัตรูและเป็นศัตรูของคนไทยทั้งประเทศนั่นเอง

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี