ในอดีตราว 30-40 ปีที่ผ่านมานี้ประเทศอาเซียนปัจจุบันได้รวมตัวกันภายใต้การนำของสหรัฐ โดยจัดตั้งเป็นองค์กรระหว่างประเทศขึ้นองค์กรหนึ่งคือซีโต้ และได้เข้าร่วมกับสหรัฐในการทำสงครามกับเวียดนาม ซึ่งดำเนินการไปหลายปี
และในที่สุดทั้งสหรัฐและซีโต้ก็ปราชัยต่อเวียดนามซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียและจีน ทำให้การรวมชาติเวียดนามเหนือ-ใต้ประสบความสำเร็จและมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจดังที่เห็นเช่นปัจจุบันนี้
ต่อมาประเทศกลุ่มนี้ได้รวมตัวกันจัดตั้งขึ้นเป็นกลุ่มประเทศอาเซียนและพัฒนามาโดยลำดับ เป็นองค์กรความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ ยกเว้นทางการทหาร มีภาคีสมาชิกปัจจุบัน 10 ประเทศ คือ ไทย เมียนมา กัมพูชา ลาว เวียดนามมาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
อาเซียนมีประชากรรวมประมาณ 650 ล้านคน เป็นประเทศกำลังพัฒนา เป็นตลาดขนาดใหญ่ตลาดหนึ่งของโลก และตั้งอยู่ในภูมิยุทธศาสตร์ที่สำคัญของโลกคือเป็นจุดศูนย์กลางของมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งสหรัฐได้วางกองเรือที่ 5 และกองเรือที่ 7 มาช้านานแล้ว โดยเชื่อมต่อกองเรือที่ยิ่งใหญ่นี้ผ่านทางช่องแคบมะละกา ซุนดา และแลมบอร์ก
สหรัฐทิ้งอาเซียนไปเป็นเวลานานแต่ในที่สุดก็หวนกลับมาสู่อาเซียนอีกครั้งหนึ่ง โดยตั้งเป้าหมายในการต่อสู้แข่งขันกับรัสเซีย อิหร่าน จีน และเกาหลีเหนือ เป็นสำคัญหมายมั่นที่จะกระชับแสนยานุภาพของกองเรือที่ 5 ให้มีสมรรถนะในการสงครามมากขึ้น และล่าสุดก็ได้ประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งมีสาระที่สำคัญคือ
ประการแรก เป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งปิดล้อมและต่อต้าน รวมทั้งทำสงครามโดยตรงกับรัสเซีย อิหร่าน จีน และเกาหลีเหนือ โดยเชื่อมโยงประสานแสนยานุภาพทางนาวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกคือกองเรือที่ 5 และกองเรือที่ 7 เชื่อมโยงปฏิบัติการสองมหาสมุทรให้เป็นเอกภาพ โดยมีประเทศอาเซียนเป็นศูนย์กลาง
ประการที่สอง เป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งทำสงครามทั้งทางเศรษฐกิจ การค้า สื่อมวลชน วัฒนธรรม เทคโนโลยี และอวกาศ กระทั่งทำสงครามเต็มรูปแบบ ทั้งผืนดิน มหาสมุทร อากาศและอวกาศ โดยได้มีการเคลื่อนย้ายแสนยานุภาพทั้งทางบก ทางนาวี และอวกาศเข้ามาสู่พื้นที่ดังกล่าวนี้อย่างเต็มอัตรา
ประการที่สาม เร่งกระชับความร่วมมือกับประเทศอาเซียนให้มีความร่วมมือในลักษณะเดียวกับกลุ่มประเทศซีโต้ในอดีต คือยกระดับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจเป็นความร่วมมือทางด้านการเมืองและการทหาร โดยมีเป้าหมายคือกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้
แต่ทว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว สถานการณ์ทั้งหลายเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว กลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ได้ผนึกความร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่นและมีสมรรถนะทางการทหารขั้นสูงสุด อาจจะเท่ากับหรือมากกว่าแสนยานุภาพของสหรัฐและพันธมิตรด้วยซ้ำไป
สำหรับประเทศอาเซียนเองก็เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต บางประเทศก็เข็ดหลาบกับอดีตและการทรยศหักหลังในระยะปัจจุบัน จึงหันไปร่วมมือกับกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้มากขึ้น
ประเทศกัมพูชาและลาวกลัวจะตกเป็นเมืองขึ้นเหมือนอดีต จึงจับมือร่วมมือกับจีนและรัสเซียอย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะทางการทหารและทางเศรษฐกิจ ถึงขั้นมีการจัดตั้งฐานทัพขึ้นในกัมพูชาเพื่อถ่วงดุลกับฐานทัพที่อู่ตะเภาถ้าหากจะมีการใช้ประโยชน์ตามสัญญาจัสแมก
ประเทศเมียนมาเกรงภัยที่จะถูกแบ่งแยกเป็นสามประเทศจากเหตุการณ์ก่อการร้ายเพื่อยึด ยะไข่แยกเป็นอีกประเทศหนึ่ง จึงร่วมมือกับจีนและรัสเซียอย่างลึกซึ้ง ถึงขั้นส่งกำลังทหารไปร่วมซ้อมรบกับรัสเซีย จีน และอิหร่านให้เห็นมาแล้ว
ประเทศอินโดนีเซียเกรงภัยที่ถูกแบ่งแยกประเทศหลังจากถูกแยกติมอร์ออกไปเป็นประเทศใหม่และกำลังจะตามมาด้วยอาเจะห์และอีกหลายพื้นที่ของประเทศ เพื่อป้องกันเอกภาพของประเทศไม่ให้ถูกแบ่งแยกเป็นอีกหลายประเทศ จึงหันไปจับไม้จับมือกับกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ถึงขนาดเข้าร่วมการซ้อมรบรัสเซีย จีน อิหร่าน เมื่อไม่กี่วันมานี้
ประเทศฟิลิปปินส์เกรงภัยที่จะถูกแบ่งแยกประเทศโดยเฉพาะการแบ่งแยกมินดาเนาออกเป็นรัฐใหม่ เหตุการณ์ก่อการร้ายเพื่อยึดมินดาเนาแยกเป็นประเทศใหม่เป็นจุดแตกหักที่ทำให้ฟิลิปปินส์ต้องหันไปจับมือกับรัสเซียและจีนเพื่อความปลอดภัยจากการถูกยึดครองแผนใหม่
ประเทศเวียดนามแม้ไม่วางใจจีนแต่ก็เข็ดหลาบและเจ็บปวดจากสงครามเวียดนามในอดีต ดังนั้นจึงเดินนโยบายตีสองหน้า แต่ร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีนอย่างแน่นแฟ้น โดยตกลงเป็นศูนย์กลางการค้าจีนกับอาเซียนตอนบนในพื้นที่ชายแดนกว่างสี ตรงด่านผิงสิงก่วนและชายแดนเวียดนาม
ประเทศสิงคโปร์นั้นแน่นอนว่าเป็นกลไกหนึ่งของมหาอำนาจแต่ก็เป็นประเทศเล็ก ดังนั้นจึงคบหาค้าขายกับทุกฝ่าย ส่วนประเทศบรูไนเป็นประเทศเล็กมากจึงไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
สำหรับประเทศไทยกำลังเดินอยู่ในเส้นทางสองแพร่งเช่นเดียวกับเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง ด้านหนึ่งก็เข้าร่วมกับญี่ปุ่นประกาศสงครามกับสัมพันธมิตร แต่อีกด้านหนึ่งก็ตั้งขบวนการเสรีไทยร่วมมือกับสัมพันธมิตรรบกับญี่ปุ่น ในขณะที่คนบางกลุ่มก็ยอมตนเป็นบริษัทบริวารของมหาอำนาจ โดยเพ้อฝันว่าจะได้รับผลประโยชน์ยิ่งใหญ่
ดังนั้นประชาชนชาวไทยทั้งประเทศซึ่งเป็นผู้ต้องเผชิญชะตากรรมกับสถานการณ์ทั้งหลายในบ้านเมืองจึงต้องรีบทำความเข้าใจและรวมตัวกันคิดอ่านทำการเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยและรักษาบ้านเมืองของเราส่งทอดถึงลูกไทยหลานไทยสืบไปให้จงได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี