ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาสังคมไทยแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง หลังรัฐบาล “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” คู่ปฏิปักษ์กลุ่มมนุษย์ติดแอกทั้งหลาย ออกแถลงการณ์ว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับกิจกรรมการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หลังจากแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเหิมเกริมปราศรัยก็ดีโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ด้วยถ้อยคำจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหยาบคาย ต่ำทรามหลายครั้งหลายหน
บทบัญญัติตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ บัญญัติว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี” ซึ่งเป็นการพัฒนามาจากกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127
ขณะที่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 บัญญัติว่าผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
นักการเมืองนักวิชาการหลายคนออกมาแสดงความเห็นคัดค้านการนำกฎหมาย 2 มาตรานี้ มาบังคับใช้กับแกนนำม็อบและกลุ่มผู้ชุมนุม โดยอ้างว่า เป็นการคุกคามประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการดำเนินการภายใต้บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและตามสิทธิเสรีภาพในทางการเมือง
คนแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน อย่าง“สุลักษณ์ ศิวรักษ์”ระบุว่า รัฐบาลนำมาตรา 112 มาบังคับใช้ถือเป็นการขัดพระบรมราชโองการ พระเจ้าอยู่หัวไม่ประสงค์ให้นำกฎหมายมาตราดังกล่าวมาบังคับใช้
ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอาจารย์คณะนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คเพจส่วนตัวชื่อ “PrinyaThaewanarumitkul” ว่า “แม้จะมีผู้ปราศรัยที่ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม หรือถึงกับหยาบคาย แต่รัฐบาลไม่ควรใช้ มาตรา 112 ในการดำเนินคดี เพราะจะถูกตีความได้ว่า ท่านทรงเปลี่ยนพระราชประสงค์ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างประชาชนที่เรียกร้องเรื่องปฏิรูปสถาบัน
พระมหากษัตริย์ กับสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น”
รัฐบาลนักกฎหมายย้ำว่าจำเป็นต้องใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเคร่งครัดไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่อาจมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157
ที่ผ่านมา จะเห็นว่าการชุมนุมของกล่มคณะราษฎร และกลุ่มม็อบปลดแอกกลุ่มต่างๆ นั้นมักปราศรัยก็ดี โพสต์ข้อความก็มีมุ่งจาบจ้วงล่วงละเมิดอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ต่างกรรมต่างวาระ ใส่ร้ายกล่าวเท็จ และสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองมาโดยตลอดแม้จะอ้างสิทธิเสรีภาพภราดรภาพ อ้างบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ อ้างอนาคตแต่ไม่เคยคำนึงว่าได้ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นของผู้เห็นต่างหรือไม่
เราเชื่อว่าสังคมไทยทราบดีรู้ดีว่าที่ผ่านมาม็อบกระทำความผิดตามมาตรา 112 และมาตรา 116 หรือไม่ รัฐบาลสมควรดำเนินการอย่างไร
สังคมจะสงบปกติสุขเมื่อทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่หรือ อย่างน้อยเพื่อไม่ให้เกิด “นิติสงคราม”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี