วันจันทร์ ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาสังคมไทยแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง หลังรัฐบาล “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” คู่ปฏิปักษ์กลุ่มมนุษย์ติดแอกทั้งหลาย ออกแถลงการณ์ว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับกิจกรรมการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หลังจากแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเหิมเกริมปราศรัยก็ดีโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ด้วยถ้อยคำจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหยาบคาย ต่ำทรามหลายครั้งหลายหน
บทบัญญัติตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ บัญญัติว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี” ซึ่งเป็นการพัฒนามาจากกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127
ขณะที่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 บัญญัติว่าผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
นักการเมืองนักวิชาการหลายคนออกมาแสดงความเห็นคัดค้านการนำกฎหมาย 2 มาตรานี้ มาบังคับใช้กับแกนนำม็อบและกลุ่มผู้ชุมนุม โดยอ้างว่า เป็นการคุกคามประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ เป็นการดำเนินการภายใต้บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและตามสิทธิเสรีภาพในทางการเมือง
คนแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน อย่าง“สุลักษณ์ ศิวรักษ์”ระบุว่า รัฐบาลนำมาตรา 112 มาบังคับใช้ถือเป็นการขัดพระบรมราชโองการ พระเจ้าอยู่หัวไม่ประสงค์ให้นำกฎหมายมาตราดังกล่าวมาบังคับใช้
ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอาจารย์คณะนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คเพจส่วนตัวชื่อ “PrinyaThaewanarumitkul” ว่า “แม้จะมีผู้ปราศรัยที่ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม หรือถึงกับหยาบคาย แต่รัฐบาลไม่ควรใช้ มาตรา 112 ในการดำเนินคดี เพราะจะถูกตีความได้ว่า ท่านทรงเปลี่ยนพระราชประสงค์ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาระหว่างประชาชนที่เรียกร้องเรื่องปฏิรูปสถาบัน
พระมหากษัตริย์ กับสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น”
รัฐบาลนักกฎหมายย้ำว่าจำเป็นต้องใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเคร่งครัดไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่อาจมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามมาตรา 157
ที่ผ่านมา จะเห็นว่าการชุมนุมของกล่มคณะราษฎร และกลุ่มม็อบปลดแอกกลุ่มต่างๆ นั้นมักปราศรัยก็ดี โพสต์ข้อความก็มีมุ่งจาบจ้วงล่วงละเมิดอาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ต่างกรรมต่างวาระ ใส่ร้ายกล่าวเท็จ และสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองมาโดยตลอดแม้จะอ้างสิทธิเสรีภาพภราดรภาพ อ้างบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ อ้างอนาคตแต่ไม่เคยคำนึงว่าได้ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นของผู้เห็นต่างหรือไม่
เราเชื่อว่าสังคมไทยทราบดีรู้ดีว่าที่ผ่านมาม็อบกระทำความผิดตามมาตรา 112 และมาตรา 116 หรือไม่ รัฐบาลสมควรดำเนินการอย่างไร
สังคมจะสงบปกติสุขเมื่อทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่หรือ อย่างน้อยเพื่อไม่ให้เกิด “นิติสงคราม”

วิทยา รทสช. ติง อนุทิน หากชิงยุบสภาหนีซักฟอก ทิ้ง 3 ปัญหาเฉพาะหน้า อาจไม่ได้กลับมาอีก
'เอนจอย-จูน'ชวนไปฟินส่งท้ายปีในงาน 'ENJOYJUNE 'J-LAND 1ST JOURNEY - JEWEL' FAN MEETING'
ทภ.2 ฮึ่ม จ่อแจ้งเอาผิดคนปั่นข่าว ทหารกัมพูชา ยึดผาอินทรี จ.บุรีรัมย์ ผิด พ.ร.บ.คอมฯ
กรี๊ดลั่นสนั่นฮออล์ 'สิงสาลาตาย'ชวนไขคดี EP.5 บนจอใหญ่ในโรงภาพยนตร์ ฟินทั้งซีรีย์ ดีทั้งเพลง
'เมเจอร์–กรุงศรี'ปลุกพลังครีเอเตอร์รุ่นใหม่! ประกาศผลผู้ชนะ 'Major Video Contest 2025 by Krungsri'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี