วันศุกร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.
ชั่งน้ำหนักช่วยโควิด

ดูทั้งหมด

  •  

วันที่ 12 มกราคม 2563 สาธารณสุขแถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกในประเทศไทย และเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกที่มีการตรวจพบนอกประเทศจีน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านไปเป็นเวลากว่า 1 ปี ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เป็นเวลาที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับโรคระบาดครั้งใหญ่ ที่ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกไปแล้วกว่า 90 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะถึง 100 ล้านคน ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ และขณะนี้ประเทศไทยก็กำลังทะยานเกิน 1 หมื่นรายแล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับความจริงว่า การกลับมาระบาดระลอกใหม่นี้เป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาลอย่างมาก เพราะการจะบริหารในครั้งนี้ ด้วยสถานการณ์และปัจจัยทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศหลายๆ อย่าง ทำให้เงื่อนไขในการบริหารจัดการไม่ง่ายเหมือนครั้งที่แล้ว การปิดประเทศหรือล็อกดาวน์ทำได้ไม่ง่ายอีกแล้ว เนื่องจากสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศมีความเปราะบางอย่างมากในเวลานี้


และสถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเพียงเท่านั้น เพราะก็มีอีกหลายประเทศที่เชื้อไวรัสกลับมาแพร่ระบาดอย่างหนัก แม้แต่ในมาตรการการควบคุมที่ดี อย่างประเทศญี่ปุ่น ที่วันนี้ก็มีการขยายประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก 7 วัน และส่วนท้องถิ่นมีการร้องขอให้รัฐประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มอีก 3 จังหวัดรวม 7 จังหวัดแล้ว เพราะเมื่อวันอังคารวันเดียวมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มถึงกว่า 5 พันคน ที่น่าสนใจคือประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีในระดับต้นๆของโลก และมีสภาพภูมิประเทศที่แยกตัวออกจากประเทศอื่น ก็ยังสามารถกลับมาแพร่ระบาดได้อีกครั้ง

ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ที่มีพรมแดนประเทศติดกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 4 ประเทศ คือ เมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย โดยตอนนี้ 2 ใน 4 ประเทศกำลังมีการระบาดอย่างหนักในลักษณะที่ยังคุมไม่อยู่ อย่างมาเลเซีย โดยเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมากษัตริย์แห่งประเทศมาเลเซียก็ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ตั้งแต่วันดังกล่าวถึงวันที่ 1 สิงหาคม เพราะการพบผู้ติดเชื้อในระดับสูงมากต่อวันติดต่อกันหลายวันตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ที่หนักสุดเห็นจะเป็นประเทศเมียนมาที่สถานการณ์ก็ยังคงน่าเป็นห่วง และมีผู้ป่วยสะสมในตอนนี้อยู่ที่ประเทศละ 130,000 กว่ารายแล้วพอกับมาเลเซีย โดยปัญหาสำหรับไทย คือ ชายแดนที่มีระยะยาวระหว่างไทยและเมียนมานั้น ยากที่จะควบคุมเหมือนชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ตลอดจนปัญหาเดิมของเมียนมาในเรื่องชนกลุ่มน้อย ที่ทำให้เกิดปัญหาลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาหางานและยากที่จะควบคุม

ความลำบากของรัฐในการตัดสินใจนโยบายแก้ปัญหาโควิดรอบนี้ ทั้งในส่วนการป้องกันการแพร่ระบาด ปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจ และปัญหางบประมาณภาครัฐที่จะลงไปช่วย ก็เพราะทุกอย่างมันพัวพันเกี่ยวเนื่องกันไปหมดในรอบนี้ แก้อย่างไรก็จะไปกระทบอีกอย่างหนึ่งอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ตั้งแต่ปัญหาการควบคุมการแพร่ระบาด ที่คาดว่าต้นตอหลักจากการระบาดรอบสองมาจากการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างชาตินั้น เอาเข้าจริงก็เกี่ยวพันกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพราะแรงงานหลักในบ้านเราทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคประมง รวมถึงอุตสาหกรรมบางอย่าง ล้วนมาจากการพึ่งพาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเศรษฐกิจของประเทศไทยต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะพึ่งพาแรงงานเมียนมา มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าขาดปัจจัยแรงงานเหล่านี้ภาคธุรกิจก็เดินต่อไม่ได้

อย่างปีที่แล้วที่มีการระบาดรอบแรก การก่อสร้างในประเทศต้องหยุดชะงักไปอย่างน้อยสามเดือน นี้ยังไม่นับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาแรงงาน และอย่างในตอนนี้อุตสาหกรรมการประมง ห้องเย็น อาหารแช่แข็ง ก็ต้องชะงักลงไป และยังไม่รู้จะสามารถกลับมาดำเนินการได้อีกเมื่อไหร่ ซึ่งธุรกิจและเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาอยู่กับอาหารทะเล มีมูลค่านับพันล้าน

แต่ถ้าแรงงานเข้ามามีเชื้อโควิดก็อาจทำให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่ออุตสาหกรรมประมงและการส่งออกอาหารทะเลและอาหารทะเลแปรรูปขาดความเชื่อมั่นได้

ดังนั้นการสกัดแรงงานต่างชาติอย่างเดียวจึงอาจไม่ใช่ทางออก หากแต่ต้องหาทางคัดกรองและควบคุมแรงงานที่จะเข้ามารวมถึงการคำนึงถึงปัจจัยส่วนต่างต้นทุนการนำเข้าแรงงานจนนำไปสู่การลักลอบนำเข้าแรงงาน

รัฐบาลจึงได้เตรียมให้มีการเปิดให้แรงงานต่างด้าวนอกระบบที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในไทยตอนนี้แล้วสามารถขึ้นทะเบียนได้ถูกกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ในช่วงวันที่ 15 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ เพื่อลดปัญหาการลักลอบแรงงานหรือหลบซ่อนแรงงานเพื่อป้องกันการตรวจพบ แต่การดำเนินการนี่ก็ยังมีผู้แสดงความกังวลว่าอาจส่งผลให้แรงงานต่างด้าวใหม่ที่สบช่องทะลักเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นตรงนี้ก็ต้องกลับไปดูที่มาตรการควบคุมตามชายแดน

ในขณะที่สิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจยากอีกเรื่องก็คือ การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในปีที่สองของโควิด อันเนื่องมาจากมาตรการในการควบคุมโควิดที่อาจกระทบวิถีทางเศรษฐกิจของประชาชน โดยจะยกบางส่วนของนโยบายปีที่แล้วมาใช้ เช่น ลดค่าไฟค่าน้ำ เราชนะ(จ่าย 3,500 บาท/คนเป็นเวลา 2 เดือน), การเสริมสภาพคล่องการพักชำระหนี้(สินเชื่อเสริมพลังฐานราก,สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายผู้มีอาชีพอิสระ, สินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต), ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาฯ) รวมไปถึงโครงการเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน รวมงบประมาณที่ตั้งไว้ทั้งสิ้น 6.9 แสนล้านบาท ซึ่งลักษณะเช่นนี้แม้จะเกิดกับรัฐบาลทั่วโลกแต่กระเป๋าเงินของแต่ละประเทศก็มีศักยภาพไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็กังวลต่อภาระหนี้สาธารณะต่อรัฐบาลว่าจะเพิ่มไปอีกเท่าใดและหากสถานการณ์ยังไม่จบ หากในอนาคตมีวิกฤติที่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมจะมีการวางแผนอย่างไร ตรงนี้จึงอาจเป็นจุดที่ยากของรัฐบาลที่จะประเมิน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ปีที่สอง ธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งอาจรอไม่ไหวแล้วและอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินที่รัฐบาลอาจต้องรีบหันมามอง

โดยศูนย์วิจัยธนาคารออมสิน ประเมินว่าภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดที่กระทบภาคธุรกิจตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ จนอาจทำให้เกิดหนี้ของภาคธุรกิจ โดยกิจการที่ได้รับผลกระทบหนักคือท่องเที่ยว ขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม โดยทางศูนย์วิจัยคาดว่า อาจนำไปสู่การผิดชำระหนี้ได้ในปีนี้ ทั้งนี้หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่ครบกำหนดแล้วเสี่ยงจะผิดชำระหนี้ปีนี้ ประเมินว่ารวมทั้งสิ้นอาจอยู่ที่ 296,151 ล้านบาท

ฉะนั้น ในรอบปีนี้ปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว อย่างเรื่องโควิด และเรื่องปากท้องของประชาชน หรือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ที่ส่งผลทำให้เกิดหนี้สิ้นของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่กำลังเพิ่มขึ้น ปีนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งปีที่หนักของรัฐบาลที่จะทำการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และพยุงประชาชนในประเทศให้ผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปอย่างอยู่รอดปลอดภัย แม้ว่ายากและเดินอย่างไรก็ต้องมีผลกระทบแต่ก็คงต้องทำ

“คมดาบ ยิ่งฝนยิ่งคม มนุษย์ไยมิใช่เป็นเช่นกัน

มนุษย์มากหลายในโลกนี้ ไยมิใช่เติบใหญ่ในท่ามกลางความปวดร้าวขมขื่น”

โกวเล้ง จากหนังสือ มังกรเมรัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:20 น. ‘โฆษก ภท.’ตบปาก‘ทอม เครือโสภณ’ หยุดวิจารณ์การเมืองสมอ้าง‘หัวหน้าพรรค’
12:18 น. ปิดลงทะเบียน'เที่ยวไทยคนละครึ่ง' เตรียมย้ายไปแอปฯทางรัฐ
12:13 น. 'พิชิต'ชวนจับตา! 'ทักษิณ' ให้ 'ภูมิธรรม' นั่ง มท.1 ชนวนใหม่รอวันจุด ปม'ที่ดินอัลไพน์'
12:09 น. ค้าแข้งลีกเยอรมนี! ‘มิคเคลสัน’ย้ายร่วมทัพ‘เอลเวอร์สแบร์ก’
12:03 น. รมว.เกษตรฯคนใหม่ฟิตจัดเรียกประชุมมอบนโยบายผู้บริหารฯ
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
'เท้ง'แย่แล้ว!! เจอขบวนรถทัวร์แห่คอมเมนต์แจกพยัญชนะไทยฉ่ำ!!
‘ทักษิณ‘ พร้อมลูกสาว ’เอม พินทองทา‘ เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก คดี ม.112
ชวนให้คิด! 'หมอพรทิพย์'โพสต์ 'นายกฯตระกูลชิน'กับระบบการเมืองไทย
ปิดตำนาน156ปี! 'กษัตริย์ชาร์ลส์'ประกาศปลดระวาง'รถไฟหลวง' สมาชิกราชวงศ์ไปใช้รถไฟปกติแทน
ดูทั้งหมด
ตายยกรัง? เจตนาเล็งเห็นผล บิดเบือนหลบเลี่ยงรัฐธรรมนูญ
ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ของไทย
กลัวเลือกตั้ง?
บุคคลแนวหน้า : 4 กรกฎาคม 2568
ดวงพิฆาตสองพ่อลูก‘ทักษิณ-แพทองธาร’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘โฆษก ภท.’ตบปาก‘ทอม เครือโสภณ’ หยุดวิจารณ์การเมืองสมอ้าง‘หัวหน้าพรรค’

ปิดลงทะเบียน'เที่ยวไทยคนละครึ่ง' เตรียมย้ายไปแอปฯทางรัฐ

ค้าแข้งลีกเยอรมนี! ‘มิคเคลสัน’ย้ายร่วมทัพ‘เอลเวอร์สแบร์ก’

(คลิป) คุ้มไหม! ได้เก้าอี้ รมว. เพิ่มแต่... สูญเสีย! บุคลากรสำคัญหลายคน!

GC ผนึกกำลัง TPBI Group ยกระดับการพัฒนานวัตกรรมพลาสติกเพื่อสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยวัสดุเพื่อโลกอนาคตอย่างยั่งยืน

ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก 'ตี้ วรรณวลี' 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา คดี ม.112

  • Breaking News
  • ‘โฆษก ภท.’ตบปาก‘ทอม เครือโสภณ’ หยุดวิจารณ์การเมืองสมอ้าง‘หัวหน้าพรรค’ ‘โฆษก ภท.’ตบปาก‘ทอม เครือโสภณ’ หยุดวิจารณ์การเมืองสมอ้าง‘หัวหน้าพรรค’
  • ปิดลงทะเบียน\'เที่ยวไทยคนละครึ่ง\' เตรียมย้ายไปแอปฯทางรัฐ ปิดลงทะเบียน'เที่ยวไทยคนละครึ่ง' เตรียมย้ายไปแอปฯทางรัฐ
  • \'พิชิต\'ชวนจับตา! \'ทักษิณ\' ให้ \'ภูมิธรรม\' นั่ง มท.1 ชนวนใหม่รอวันจุด ปม\'ที่ดินอัลไพน์\' 'พิชิต'ชวนจับตา! 'ทักษิณ' ให้ 'ภูมิธรรม' นั่ง มท.1 ชนวนใหม่รอวันจุด ปม'ที่ดินอัลไพน์'
  • ค้าแข้งลีกเยอรมนี! ‘มิคเคลสัน’ย้ายร่วมทัพ‘เอลเวอร์สแบร์ก’ ค้าแข้งลีกเยอรมนี! ‘มิคเคลสัน’ย้ายร่วมทัพ‘เอลเวอร์สแบร์ก’
  • รมว.เกษตรฯคนใหม่ฟิตจัดเรียกประชุมมอบนโยบายผู้บริหารฯ รมว.เกษตรฯคนใหม่ฟิตจัดเรียกประชุมมอบนโยบายผู้บริหารฯ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved