วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.
ชั่งน้ำหนักช่วยโควิด

ดูทั้งหมด

  •  

วันที่ 12 มกราคม 2563 สาธารณสุขแถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกในประเทศไทย และเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกที่มีการตรวจพบนอกประเทศจีน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านไปเป็นเวลากว่า 1 ปี ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เป็นเวลาที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับโรคระบาดครั้งใหญ่ ที่ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกไปแล้วกว่า 90 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะถึง 100 ล้านคน ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ และขณะนี้ประเทศไทยก็กำลังทะยานเกิน 1 หมื่นรายแล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับความจริงว่า การกลับมาระบาดระลอกใหม่นี้เป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาลอย่างมาก เพราะการจะบริหารในครั้งนี้ ด้วยสถานการณ์และปัจจัยทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศหลายๆ อย่าง ทำให้เงื่อนไขในการบริหารจัดการไม่ง่ายเหมือนครั้งที่แล้ว การปิดประเทศหรือล็อกดาวน์ทำได้ไม่ง่ายอีกแล้ว เนื่องจากสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศมีความเปราะบางอย่างมากในเวลานี้


และสถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเพียงเท่านั้น เพราะก็มีอีกหลายประเทศที่เชื้อไวรัสกลับมาแพร่ระบาดอย่างหนัก แม้แต่ในมาตรการการควบคุมที่ดี อย่างประเทศญี่ปุ่น ที่วันนี้ก็มีการขยายประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก 7 วัน และส่วนท้องถิ่นมีการร้องขอให้รัฐประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มอีก 3 จังหวัดรวม 7 จังหวัดแล้ว เพราะเมื่อวันอังคารวันเดียวมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มถึงกว่า 5 พันคน ที่น่าสนใจคือประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีในระดับต้นๆของโลก และมีสภาพภูมิประเทศที่แยกตัวออกจากประเทศอื่น ก็ยังสามารถกลับมาแพร่ระบาดได้อีกครั้ง

ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ที่มีพรมแดนประเทศติดกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 4 ประเทศ คือ เมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย โดยตอนนี้ 2 ใน 4 ประเทศกำลังมีการระบาดอย่างหนักในลักษณะที่ยังคุมไม่อยู่ อย่างมาเลเซีย โดยเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมากษัตริย์แห่งประเทศมาเลเซียก็ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ตั้งแต่วันดังกล่าวถึงวันที่ 1 สิงหาคม เพราะการพบผู้ติดเชื้อในระดับสูงมากต่อวันติดต่อกันหลายวันตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ที่หนักสุดเห็นจะเป็นประเทศเมียนมาที่สถานการณ์ก็ยังคงน่าเป็นห่วง และมีผู้ป่วยสะสมในตอนนี้อยู่ที่ประเทศละ 130,000 กว่ารายแล้วพอกับมาเลเซีย โดยปัญหาสำหรับไทย คือ ชายแดนที่มีระยะยาวระหว่างไทยและเมียนมานั้น ยากที่จะควบคุมเหมือนชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ตลอดจนปัญหาเดิมของเมียนมาในเรื่องชนกลุ่มน้อย ที่ทำให้เกิดปัญหาลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาหางานและยากที่จะควบคุม

ความลำบากของรัฐในการตัดสินใจนโยบายแก้ปัญหาโควิดรอบนี้ ทั้งในส่วนการป้องกันการแพร่ระบาด ปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจ และปัญหางบประมาณภาครัฐที่จะลงไปช่วย ก็เพราะทุกอย่างมันพัวพันเกี่ยวเนื่องกันไปหมดในรอบนี้ แก้อย่างไรก็จะไปกระทบอีกอย่างหนึ่งอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ตั้งแต่ปัญหาการควบคุมการแพร่ระบาด ที่คาดว่าต้นตอหลักจากการระบาดรอบสองมาจากการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างชาตินั้น เอาเข้าจริงก็เกี่ยวพันกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพราะแรงงานหลักในบ้านเราทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคประมง รวมถึงอุตสาหกรรมบางอย่าง ล้วนมาจากการพึ่งพาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเศรษฐกิจของประเทศไทยต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะพึ่งพาแรงงานเมียนมา มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าขาดปัจจัยแรงงานเหล่านี้ภาคธุรกิจก็เดินต่อไม่ได้

อย่างปีที่แล้วที่มีการระบาดรอบแรก การก่อสร้างในประเทศต้องหยุดชะงักไปอย่างน้อยสามเดือน นี้ยังไม่นับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาแรงงาน และอย่างในตอนนี้อุตสาหกรรมการประมง ห้องเย็น อาหารแช่แข็ง ก็ต้องชะงักลงไป และยังไม่รู้จะสามารถกลับมาดำเนินการได้อีกเมื่อไหร่ ซึ่งธุรกิจและเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาอยู่กับอาหารทะเล มีมูลค่านับพันล้าน

แต่ถ้าแรงงานเข้ามามีเชื้อโควิดก็อาจทำให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่ออุตสาหกรรมประมงและการส่งออกอาหารทะเลและอาหารทะเลแปรรูปขาดความเชื่อมั่นได้

ดังนั้นการสกัดแรงงานต่างชาติอย่างเดียวจึงอาจไม่ใช่ทางออก หากแต่ต้องหาทางคัดกรองและควบคุมแรงงานที่จะเข้ามารวมถึงการคำนึงถึงปัจจัยส่วนต่างต้นทุนการนำเข้าแรงงานจนนำไปสู่การลักลอบนำเข้าแรงงาน

รัฐบาลจึงได้เตรียมให้มีการเปิดให้แรงงานต่างด้าวนอกระบบที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในไทยตอนนี้แล้วสามารถขึ้นทะเบียนได้ถูกกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ในช่วงวันที่ 15 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ เพื่อลดปัญหาการลักลอบแรงงานหรือหลบซ่อนแรงงานเพื่อป้องกันการตรวจพบ แต่การดำเนินการนี่ก็ยังมีผู้แสดงความกังวลว่าอาจส่งผลให้แรงงานต่างด้าวใหม่ที่สบช่องทะลักเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นตรงนี้ก็ต้องกลับไปดูที่มาตรการควบคุมตามชายแดน

ในขณะที่สิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจยากอีกเรื่องก็คือ การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในปีที่สองของโควิด อันเนื่องมาจากมาตรการในการควบคุมโควิดที่อาจกระทบวิถีทางเศรษฐกิจของประชาชน โดยจะยกบางส่วนของนโยบายปีที่แล้วมาใช้ เช่น ลดค่าไฟค่าน้ำ เราชนะ(จ่าย 3,500 บาท/คนเป็นเวลา 2 เดือน), การเสริมสภาพคล่องการพักชำระหนี้(สินเชื่อเสริมพลังฐานราก,สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายผู้มีอาชีพอิสระ, สินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต), ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาฯ) รวมไปถึงโครงการเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน รวมงบประมาณที่ตั้งไว้ทั้งสิ้น 6.9 แสนล้านบาท ซึ่งลักษณะเช่นนี้แม้จะเกิดกับรัฐบาลทั่วโลกแต่กระเป๋าเงินของแต่ละประเทศก็มีศักยภาพไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็กังวลต่อภาระหนี้สาธารณะต่อรัฐบาลว่าจะเพิ่มไปอีกเท่าใดและหากสถานการณ์ยังไม่จบ หากในอนาคตมีวิกฤติที่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมจะมีการวางแผนอย่างไร ตรงนี้จึงอาจเป็นจุดที่ยากของรัฐบาลที่จะประเมิน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ปีที่สอง ธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งอาจรอไม่ไหวแล้วและอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินที่รัฐบาลอาจต้องรีบหันมามอง

โดยศูนย์วิจัยธนาคารออมสิน ประเมินว่าภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดที่กระทบภาคธุรกิจตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ จนอาจทำให้เกิดหนี้ของภาคธุรกิจ โดยกิจการที่ได้รับผลกระทบหนักคือท่องเที่ยว ขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม โดยทางศูนย์วิจัยคาดว่า อาจนำไปสู่การผิดชำระหนี้ได้ในปีนี้ ทั้งนี้หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่ครบกำหนดแล้วเสี่ยงจะผิดชำระหนี้ปีนี้ ประเมินว่ารวมทั้งสิ้นอาจอยู่ที่ 296,151 ล้านบาท

ฉะนั้น ในรอบปีนี้ปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว อย่างเรื่องโควิด และเรื่องปากท้องของประชาชน หรือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ที่ส่งผลทำให้เกิดหนี้สิ้นของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่กำลังเพิ่มขึ้น ปีนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งปีที่หนักของรัฐบาลที่จะทำการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และพยุงประชาชนในประเทศให้ผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปอย่างอยู่รอดปลอดภัย แม้ว่ายากและเดินอย่างไรก็ต้องมีผลกระทบแต่ก็คงต้องทำ

“คมดาบ ยิ่งฝนยิ่งคม มนุษย์ไยมิใช่เป็นเช่นกัน

มนุษย์มากหลายในโลกนี้ ไยมิใช่เติบใหญ่ในท่ามกลางความปวดร้าวขมขื่น”

โกวเล้ง จากหนังสือ มังกรเมรัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:07 น. สภาสูงขยับ! ถกดันโครงการถนน 5.2 กม. บนเกาะกูด หนุนกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ ป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา
21:00 น. ไทยเตรียมเข้าร่วมประชุม‘รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน’ ครั้งที่ 58
20:42 น. ผ่าตัดปอด! เหตุ'โชต้า'เปลี่ยนแผนกลับแอนฟิลด์ก่อนเสียชีวิต
20:31 น. 'เจิมศักดิ์'ขุดคลิปประจาน'ทักษิณ' ตีแสกหน้า'ค่านิยมจอมปลอม'
20:29 น. โจ๋19ถูกฟันเลือดสาด ยอมรับเป็นคนหาเรื่องก่อน ขอยุติจับมือเป็นเพื่อนกัน
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
‘มาครง’เผยคุย‘แพทองธาร’แล้ว ลั่นคนไทยไว้วางใจมิตรภาพจาก‘ฝรั่งเศส’ได้เสมอ
‘หม่อมปนัดดา‘ ปรากฏตัวกลางม็อบ ‘รวมพลังแผ่นดิน’ ของดให้สัมภาษณ์สื่อ
‘ทักษิณ‘ พร้อมลูกสาว ’เอม พินทองทา‘ เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก คดี ม.112
'เท้ง'แย่แล้ว!! เจอขบวนรถทัวร์แห่คอมเมนต์แจกพยัญชนะไทยฉ่ำ!!
ดูทั้งหมด
สงครามคือนิยามความพ่ายแพ้
ทิศทางของไทยคือความเป็นกลาง
‘หนีดีกว่า’อวสาน‘ตระกูลชิน’
สองพ่อลูกลุยกรรม
ไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกา
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สภาสูงขยับ! ถกดันโครงการถนน 5.2 กม. บนเกาะกูด หนุนกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ ป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา

'เจิมศักดิ์'ขุดคลิปประจาน'ทักษิณ' ตีแสกหน้า'ค่านิยมจอมปลอม'

รีดหัวคิว 6 พันล้าน! ทลายแก๊งต่อบัตรต่างด้าว โยงฟอกเงินให้'บิ๊กกัมพูชา'

โจ๋19ถูกฟันเลือดสาด ยอมรับเป็นคนหาเรื่องก่อน ขอยุติจับมือเป็นเพื่อนกัน

GC ผนึกกำลัง TPBI Group ยกระดับการพัฒนานวัตกรรมพลาสติกเพื่อสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยวัสดุเพื่อโลกอนาคตอย่างยั่งยืน

อย่าระแวง-อคติ! ‘เจิมศักดิ์’ย้ำม็อบ28มิถุนาไม่ได้เรียกร้องรัฐประหาร

  • Breaking News
  • สภาสูงขยับ! ถกดันโครงการถนน 5.2 กม. บนเกาะกูด หนุนกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ ป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา สภาสูงขยับ! ถกดันโครงการถนน 5.2 กม. บนเกาะกูด หนุนกำลังพล-ยุทโธปกรณ์ ป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา
  • ไทยเตรียมเข้าร่วมประชุม‘รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน’ ครั้งที่ 58 ไทยเตรียมเข้าร่วมประชุม‘รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน’ ครั้งที่ 58
  • ผ่าตัดปอด! เหตุ\'โชต้า\'เปลี่ยนแผนกลับแอนฟิลด์ก่อนเสียชีวิต ผ่าตัดปอด! เหตุ'โชต้า'เปลี่ยนแผนกลับแอนฟิลด์ก่อนเสียชีวิต
  • \'เจิมศักดิ์\'ขุดคลิปประจาน\'ทักษิณ\'  ตีแสกหน้า\'ค่านิยมจอมปลอม\' 'เจิมศักดิ์'ขุดคลิปประจาน'ทักษิณ' ตีแสกหน้า'ค่านิยมจอมปลอม'
  • โจ๋19ถูกฟันเลือดสาด ยอมรับเป็นคนหาเรื่องก่อน ขอยุติจับมือเป็นเพื่อนกัน โจ๋19ถูกฟันเลือดสาด ยอมรับเป็นคนหาเรื่องก่อน ขอยุติจับมือเป็นเพื่อนกัน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved