วันเสาร์ ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2564
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.

ชั่งน้ำหนักช่วยโควิด

ดูทั้งหมด

  • Tweet

วันที่ 12 มกราคม 2563 สาธารณสุขแถลงพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกในประเทศไทย และเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกที่มีการตรวจพบนอกประเทศจีน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ผ่านไปเป็นเวลากว่า 1 ปี ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เป็นเวลาที่ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับโรคระบาดครั้งใหญ่ ที่ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกไปแล้วกว่า 90 ล้านคน และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะถึง 100 ล้านคน ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ และขณะนี้ประเทศไทยก็กำลังทะยานเกิน 1 หมื่นรายแล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับความจริงว่า การกลับมาระบาดระลอกใหม่นี้เป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาลอย่างมาก เพราะการจะบริหารในครั้งนี้ ด้วยสถานการณ์และปัจจัยทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศหลายๆ อย่าง ทำให้เงื่อนไขในการบริหารจัดการไม่ง่ายเหมือนครั้งที่แล้ว การปิดประเทศหรือล็อกดาวน์ทำได้ไม่ง่ายอีกแล้ว เนื่องจากสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศมีความเปราะบางอย่างมากในเวลานี้


และสถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทยเพียงเท่านั้น เพราะก็มีอีกหลายประเทศที่เชื้อไวรัสกลับมาแพร่ระบาดอย่างหนัก แม้แต่ในมาตรการการควบคุมที่ดี อย่างประเทศญี่ปุ่น ที่วันนี้ก็มีการขยายประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มเติมอีก 7 วัน และส่วนท้องถิ่นมีการร้องขอให้รัฐประกาศภาวะฉุกเฉินเพิ่มอีก 3 จังหวัดรวม 7 จังหวัดแล้ว เพราะเมื่อวันอังคารวันเดียวมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มถึงกว่า 5 พันคน ที่น่าสนใจคือประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นประเทศที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีในระดับต้นๆของโลก และมีสภาพภูมิประเทศที่แยกตัวออกจากประเทศอื่น ก็ยังสามารถกลับมาแพร่ระบาดได้อีกครั้ง

ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับมาที่ประเทศไทย ที่มีพรมแดนประเทศติดกับประเทศเพื่อนบ้านถึง 4 ประเทศ คือ เมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย โดยตอนนี้ 2 ใน 4 ประเทศกำลังมีการระบาดอย่างหนักในลักษณะที่ยังคุมไม่อยู่ อย่างมาเลเซีย โดยเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมากษัตริย์แห่งประเทศมาเลเซียก็ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ ตั้งแต่วันดังกล่าวถึงวันที่ 1 สิงหาคม เพราะการพบผู้ติดเชื้อในระดับสูงมากต่อวันติดต่อกันหลายวันตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ที่หนักสุดเห็นจะเป็นประเทศเมียนมาที่สถานการณ์ก็ยังคงน่าเป็นห่วง และมีผู้ป่วยสะสมในตอนนี้อยู่ที่ประเทศละ 130,000 กว่ารายแล้วพอกับมาเลเซีย โดยปัญหาสำหรับไทย คือ ชายแดนที่มีระยะยาวระหว่างไทยและเมียนมานั้น ยากที่จะควบคุมเหมือนชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอื่น ตลอดจนปัญหาเดิมของเมียนมาในเรื่องชนกลุ่มน้อย ที่ทำให้เกิดปัญหาลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาหางานและยากที่จะควบคุม

ความลำบากของรัฐในการตัดสินใจนโยบายแก้ปัญหาโควิดรอบนี้ ทั้งในส่วนการป้องกันการแพร่ระบาด ปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจ และปัญหางบประมาณภาครัฐที่จะลงไปช่วย ก็เพราะทุกอย่างมันพัวพันเกี่ยวเนื่องกันไปหมดในรอบนี้ แก้อย่างไรก็จะไปกระทบอีกอย่างหนึ่งอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ตั้งแต่ปัญหาการควบคุมการแพร่ระบาด ที่คาดว่าต้นตอหลักจากการระบาดรอบสองมาจากการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างชาตินั้น เอาเข้าจริงก็เกี่ยวพันกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพราะแรงงานหลักในบ้านเราทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคประมง รวมถึงอุตสาหกรรมบางอย่าง ล้วนมาจากการพึ่งพาแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเศรษฐกิจของประเทศไทยต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะพึ่งพาแรงงานเมียนมา มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าขาดปัจจัยแรงงานเหล่านี้ภาคธุรกิจก็เดินต่อไม่ได้

อย่างปีที่แล้วที่มีการระบาดรอบแรก การก่อสร้างในประเทศต้องหยุดชะงักไปอย่างน้อยสามเดือน นี้ยังไม่นับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ต้องพึ่งพาแรงงาน และอย่างในตอนนี้อุตสาหกรรมการประมง ห้องเย็น อาหารแช่แข็ง ก็ต้องชะงักลงไป และยังไม่รู้จะสามารถกลับมาดำเนินการได้อีกเมื่อไหร่ ซึ่งธุรกิจและเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาอยู่กับอาหารทะเล มีมูลค่านับพันล้าน

แต่ถ้าแรงงานเข้ามามีเชื้อโควิดก็อาจทำให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือต่ออุตสาหกรรมประมงและการส่งออกอาหารทะเลและอาหารทะเลแปรรูปขาดความเชื่อมั่นได้

ดังนั้นการสกัดแรงงานต่างชาติอย่างเดียวจึงอาจไม่ใช่ทางออก หากแต่ต้องหาทางคัดกรองและควบคุมแรงงานที่จะเข้ามารวมถึงการคำนึงถึงปัจจัยส่วนต่างต้นทุนการนำเข้าแรงงานจนนำไปสู่การลักลอบนำเข้าแรงงาน

รัฐบาลจึงได้เตรียมให้มีการเปิดให้แรงงานต่างด้าวนอกระบบที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในไทยตอนนี้แล้วสามารถขึ้นทะเบียนได้ถูกกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ ในช่วงวันที่ 15 มกราคม – 13 กุมภาพันธ์ เพื่อลดปัญหาการลักลอบแรงงานหรือหลบซ่อนแรงงานเพื่อป้องกันการตรวจพบ แต่การดำเนินการนี่ก็ยังมีผู้แสดงความกังวลว่าอาจส่งผลให้แรงงานต่างด้าวใหม่ที่สบช่องทะลักเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นตรงนี้ก็ต้องกลับไปดูที่มาตรการควบคุมตามชายแดน

ในขณะที่สิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจยากอีกเรื่องก็คือ การใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในปีที่สองของโควิด อันเนื่องมาจากมาตรการในการควบคุมโควิดที่อาจกระทบวิถีทางเศรษฐกิจของประชาชน โดยจะยกบางส่วนของนโยบายปีที่แล้วมาใช้ เช่น ลดค่าไฟค่าน้ำ เราชนะ(จ่าย 3,500 บาท/คนเป็นเวลา 2 เดือน), การเสริมสภาพคล่องการพักชำระหนี้(สินเชื่อเสริมพลังฐานราก,สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายผู้มีอาชีพอิสระ, สินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต), ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาฯ) รวมไปถึงโครงการเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน รวมงบประมาณที่ตั้งไว้ทั้งสิ้น 6.9 แสนล้านบาท ซึ่งลักษณะเช่นนี้แม้จะเกิดกับรัฐบาลทั่วโลกแต่กระเป๋าเงินของแต่ละประเทศก็มีศักยภาพไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็กังวลต่อภาระหนี้สาธารณะต่อรัฐบาลว่าจะเพิ่มไปอีกเท่าใดและหากสถานการณ์ยังไม่จบ หากในอนาคตมีวิกฤติที่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมจะมีการวางแผนอย่างไร ตรงนี้จึงอาจเป็นจุดที่ยากของรัฐบาลที่จะประเมิน

อย่างไรก็ตาม เมื่อเข้าสู่ปีที่สอง ธุรกิจขนาดใหญ่หลายแห่งอาจรอไม่ไหวแล้วและอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินที่รัฐบาลอาจต้องรีบหันมามอง

โดยศูนย์วิจัยธนาคารออมสิน ประเมินว่าภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิดที่กระทบภาคธุรกิจตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ จนอาจทำให้เกิดหนี้ของภาคธุรกิจ โดยกิจการที่ได้รับผลกระทบหนักคือท่องเที่ยว ขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม โดยทางศูนย์วิจัยคาดว่า อาจนำไปสู่การผิดชำระหนี้ได้ในปีนี้ ทั้งนี้หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่ครบกำหนดแล้วเสี่ยงจะผิดชำระหนี้ปีนี้ ประเมินว่ารวมทั้งสิ้นอาจอยู่ที่ 296,151 ล้านบาท

ฉะนั้น ในรอบปีนี้ปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลที่สะสมมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว อย่างเรื่องโควิด และเรื่องปากท้องของประชาชน หรือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ที่ส่งผลทำให้เกิดหนี้สิ้นของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่กำลังเพิ่มขึ้น ปีนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งปีที่หนักของรัฐบาลที่จะทำการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า และพยุงประชาชนในประเทศให้ผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปอย่างอยู่รอดปลอดภัย แม้ว่ายากและเดินอย่างไรก็ต้องมีผลกระทบแต่ก็คงต้องทำ

“คมดาบ ยิ่งฝนยิ่งคม มนุษย์ไยมิใช่เป็นเช่นกัน

มนุษย์มากหลายในโลกนี้ ไยมิใช่เติบใหญ่ในท่ามกลางความปวดร้าวขมขื่น”

โกวเล้ง จากหนังสือ มังกรเมรัย

  • Tweet
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:46 น. ระทึก! ไฟไหม้คอนโดเมืองทองธานีชั้น 15 ชาวบ้านขนของหนีวุ่น จนท.ระดมสกัด
18:42 น. ด่วนที่สุด! เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดหน้าสามย่าน บาดเจ็บ 2 ราย-นักข่าวโดนสะเก็ดด้วย
18:30 น. ผู้ว่าฯเมืองสามหมอกสั่งชะลอ เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-เมียนทั้ง 5 ช่องทาง
18:21 น. 'สมุทรสาคร'ยังหนัก! พบติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันเดียวพุ่งพรวด 335 ราย
18:07 น. สิ้นอดีตประธานศาลรธน.'อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ'ด้วยวัย 88 ปี
ดูทั้งหมด
‘มนต์สิทธิ์’จัดหนักรับงวดแรกปี 64 โชว์เลขเด็ดที่เจ้าตัวซื้อแบบชุดใหญ่ 30 ล้าน
ร่อแร่!‘กนก’ไขข้อข้องใจ‘ท็อปนิวส์’เบนจากทีวีดิจิทัล เจรจาอยู่นาน‘เหนื่อยจริงๆ’
ชีวิตสุดขมขื่น 'ศิรินทรา' กับตราบาปที่ขอสารภาพ
ชีวิตเปลี่ยน 'ทูน หิรัญทรัพย์' ตาบอดฝึกอยู่ในโลกมืด เผยปม 'พุ่มพวง – เปิ้ล - จิ๊ก' จนลูกทนไม่ไหวพาไปหย่า
เผยภาพบัตรอวยพรพระราชทานปีใหม่ ของ'ในหลวง-เจ้าคุณพระสินีนาฏ'
ดูทั้งหมด
บ่อนถูกกฎหมาย
เงินที่โปรยจากเฮลิคอปเตอร์ คือเงินกู้ที่ทุกคนต้องร่วมชดใช้
บุคคลแนวหน้า : 16 มกราคม 2564
แวดวงการเงิน : 16 มกราคม 2564
‘กำไรโตจาก เคมีภัณฑ์’
ดูทั้งหมด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ผู้ว่าฯเมืองสามหมอกสั่งชะลอ เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-เมียนทั้ง 5 ช่องทาง

สิ้นอดีตประธานศาลรธน.'อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ'ด้วยวัย 88 ปี

ตัวเลขลดลงต่อเนื่อง! ระยองติดโควิด-19 เพิ่ม 4 ราย เป็นคนไทยทั้งหมด

หนุ่มรุ่นใหม่ปลุกกระแสท่องเที่ยวเชิงเกษตรเปิดศูนย์การเรียนรู้เกษตรกลางเมืองพัทยา

พบอีกพะยูนตาย'เขี้ยวหาย'กลางทะเลกระบี่ คาดมีคนลักลอบถอดออกก่อนเจอ

'ต๊ะติ๊งโหน่ง'ตลกบ้าหมาสุดช้ำ! โดนมือดีนำสุนัขติดเชื้อปล่อยที่บ้าน ทำที่เลี้ยงไว้ตายกว่า 70 ตัว

  • Breaking News
18:46 น. ระทึก! ไฟไหม้คอนโดเมืองทองธานีชั้น 15 ชาวบ้านขนของหนีวุ่น จนท.ระดมสกัด
18:42 น. ด่วนที่สุด! เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดหน้าสามย่าน บาดเจ็บ 2 ราย-นักข่าวโดนสะเก็ดด้วย
18:30 น. ผู้ว่าฯเมืองสามหมอกสั่งชะลอ เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-เมียนทั้ง 5 ช่องทาง
18:21 น. 'สมุทรสาคร'ยังหนัก! พบติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันเดียวพุ่งพรวด 335 ราย
18:07 น. สิ้นอดีตประธานศาลรธน.'อิสสระ นิติทัณฑ์ประภาศ'ด้วยวัย 88 ปี
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ชั่งน้ำหนักช่วยโควิด

ชั่งน้ำหนักช่วยโควิด

14 ม.ค. 2564

ถือโอกาสขุดรากปัญหา

ถือโอกาสขุดรากปัญหา

7 ม.ค. 2564

ส่งท้ายปีโควิดที่ 1

ส่งท้ายปีโควิดที่ 1

30 ธ.ค. 2563

โลกจริงบนสนามท้องถิ่น

โลกจริงบนสนามท้องถิ่น

24 ธ.ค. 2563

ได้เวลายกเครื่อง

ได้เวลายกเครื่อง

17 ธ.ค. 2563

เมื่อคำถามถูกย้อนกลับ

เมื่อคำถามถูกย้อนกลับ

10 ธ.ค. 2563

ก้าวต่อการเมือง หลังวันตัดสินฯ

ก้าวต่อการเมือง หลังวันตัดสินฯ

3 ธ.ค. 2563

แกนนำตัวจริง ต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนโดนคดี

แกนนำตัวจริง ต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนโดนคดี

26 พ.ย. 2563

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved