เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สมาชิกฝ่ายค้านบางคนได้ ออกมาคัดค้านเรื่องการที่ราชนาวีไทยจะซื้อเรือดำน้ำเพิ่มตามโครงการพัฒนากำลังรบระบบ 3 มิติของราชนาวีไทยทั้งๆ ที่ในทางยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศรวมถึงน่านน้ำและชายฝั่งทะเลนั้นมีความจำเป็นสูงยิ่งที่ราชนาวีไทยจำต้องมีเรือดำน้ำเข้าประจำการอย่างน้อย 3 ลำ หรือ 1 หมู่เรือใน 3 กองเรือภาคของราชนาวีไทยนั่นคือกองเรือภาคที่ 1 ฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย กองเรือภาคที่ 2 ฝั่งใต้ของอ่าวไทยและกองเรือภาคที่ 3 ฝั่งทะเลอันดามัน
กองเรือภาคที่ 3 นั้นมีหน้าที่ป้องกันชายฝั่งอันดามันเพราะนี่คือแหล่งเม็ดเงินที่สำคัญมากทางด้านเศรษฐกิจของประเทศเพราะชายทะเลอันดามันมีชายหาดและหมู่เกาะที่สวยงามไม่แพ้ทะเลรอบๆ เกาะมัลดีฟส์อันลือชื่อในมหาสมุทรอินเดีย ตั้งแต่จังหวัดระนอง พังงา กระบี่ ตรัง ภูเก็ต และสตูลทำรายรับด้านการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปีละมากกว่า 800,000 ล้านบาท ในยามปกติที่ไม่มีไวรัสโควิด-19 ระบาดและในอนาคตอันใกล้รายได้จะเพิ่มสูงถึง 1 ล้านล้านบาทต่อปีเท่ากับร้อยละ 5 ของรายได้ประชาชาติ
นอกจากนี้ชายทะเลอันดามันยังมีผลผลิตทางด้านการประมงทะเลชายฝั่งกับทะเลลึกของมหาสมุทรอินเดียในน่านน้ำสากลอีกปีละ 200,000 ล้านบาท ราชนาวีไทยต้องมีเรือดำน้ำที่ทันสมัย 1 ลำประจำการ เพื่อใช้ในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของชาติเราในขณะเดียวกันทางฝั่งอ่าวไทยของเราก็มีรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมหาศาลอีกเช่นกันทั้งอ่าวไทยตอนบนในพื้นที่ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เมืองพัทยา แหลมฉบัง มาบตาพุด ระยอง จันทบุรี ตราด เกาะช้าง เกาะกูด นอกจากนี้ก็มีรายได้จากอุตสาหกรรมการประมงอีกมหาศาลรวมแล้วมากกว่า 1.2 ล้านล้านบาทต่อ 1 ปี
อ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ หัวหิน ชุมพร สุราษฎร์ธานี หมู่เกาะอ่างทอง เกาะสมุย เกาะพะงัน นครศรีธรรมราช สิชล ปากพนัง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ก็มีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการประมงทะเล อุตสาหกรรมปิโตรเลียมรวมแล้วมากกว่า 1.5 ล้านล้านบาทต่อปี สรุปชายทะเลไทยใน 3 ชายฝั่ง 3 กองเรือทำรายได้เข้าประเทศมหาศาลถึงปีละมากกว่า 4 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 20 ของรายได้ประชาชาติ การที่มีเรือดำน้ำพลังดีเซลไฟฟ้าที่ต่อจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแค่ 3 ลำออกจะน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
การที่ราชนาวีไทยใช้วงเงินงบประมาณต่อเรือดำน้ำคลาส เอส 26 ที รุ่นส่งออกของจีนในวงเงินรวม 40,000ล้านบาท ซึ่งเป็นการผ่อนชำระระยะยาวไม่ใช่เรื่องที่มากเกินไปเพราะฝั่งทะเลของเรานั้นทำรายได้อย่างมหาศาล เรือดำน้ำรุ่นนี้เป็นเรือเล็กๆ ระวางขับน้ำแค่ลำละ 2,600 ตัน พลประจำเรือ 38นาย ความเร็วไม่เกิน 20 นอตมีท่อตอร์ปิโด 6 ท่อยิงขนาด 533 มิลลิเมตร รวม 21 ลูก แม้จะเป็นเรือดำน้ำโจมตีก็จริงแต่มีลักษณะของการป้องกันทางยุทธการมากกว่า
ขณะนี้รัฐนาวีและราชนาวีประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนต่างก็มีเรือดำน้ำดีเซลไฟฟ้าเข้าประจำการครบทุกประเทศแล้วแม้แต่กัมพูชาก็กำลังมีโอกาสจะได้รับเรือดำน้ำใช้แล้วจากจีนมาประจำการในอนาคต 2 ลำ ในขณะที่รัฐนาวีเมียนมาเองก็มีเรือดำน้ำปรับปรุงใช้แล้วชั้นกิโลจากรัฐนาวีอินเดีย 1 ลำ ในเดือนมีนาคม 2563 ในขณะที่ราชนาวีไทยยังไม่มีประจำการเลยแม้แต่ลำเดียว นับได้ว่าเป็นจุดอ่อนด้อยทางด้านยุทธการและทางด้านยุทธศาสตร์ที่ถือได้ว่าเป็นอันตรายต่อบูรณภาพของดินแดนประเทศไทยทางด้านชายฝั่งทะเลเป็นอย่างยิ่ง จำเป็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการด่วน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี