ช่วงนี้ประหนึ่งว่ามีใครต้องการสร้างความนิยมในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะชาวไร่ชาวนา คนจน รวมทั้งผู้ป่วยและผู้ที่มีความหวังอยู่กับเรื่องกัญชา เพราะมีการให้ข่าว แถลงข่าว และมีการปั่นกระแสกันอย่างสอดคล้องต้องกัน จนทำให้คนจำนวนมากหลงเชื่อว่าเป็นความจริง
นั่นก็คือการสร้างกระแสข่าวว่าขณะนี้ได้มีการปลดล็อกกัญชาให้ปลูกและใช้โดยเสรีได้แล้วและกัญชาจะเป็นพืชเศรษฐกิจตัวล่าสุดของประเทศไทยที่จะสร้างความอยู่ดีกินดีมีสุขให้แก่เกษตรกรไทยอย่างถ้วนหน้า โดยบางหน่วยงานได้ตั้งราคารับซื้อกัญชาไว้ที่กิโลกรัมละ 45,000 บาท ในขณะที่ราคามันสำปะหลังราคาไม่ถึงกิโลกรัมละ 5 บาท
ถ้าหากความจริงเป็นดังกระแสข่าวนั้นก็เป็นเรื่องควรแก่การสรรเสริญ ควรแก่การแซ่ซ้องสดุดีเพราะถือได้ว่าใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้ให้เป็นผลสำเร็จและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนดังที่ปั่นกระแสข่าวกันนั้น ต้องนับว่าเป็นวีรบุรุษของบ้านเมือง เป็นผู้สร้างคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่ไว้กับบ้านเมืองและราษฎรที่จะต้องช่วยกันจดกันจำการสร้างสรรค์ครั้งยิ่งใหญ่นี้ไว้ชั่วลูกหลาน
แต่ทว่าในขณะที่มีการโหมกระแสกันอย่างคึกคักครึกโครมนั้น ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยก็มีการไล่จับผู้ปลูกกัญชา ไม่ว่าปลูกเพื่อรักษาพ่อแม่ซึ่งป่วยติดเตียงอยู่เพียงต้นสองต้น หรือพวกที่ปลูกต้นเล็กๆ เพียง 6-7 ต้น คนเหล่านี้มีความเชื่อโดยสุจริตใจจากการแถลงข่าวหรือสร้างกระแสข่าวมาอย่างไม่หยุดยั้งว่าปลูกกัญชาได้แล้วครอบครัวละ6 ต้น และสามารถนำกัญชามารักษาโรคได้ ทำอาหารก็ได้
ในที่สุดคนเหล่านั้นก็ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นจากชีวิตจริงที่เดือดร้อนหนักหนาอยู่แล้ว ความเดือดร้อนเดิมที่ไม่ได้รับการแก้ไขบวกเข้ากับความเดือดร้อนใหม่ที่เชื่อคนลวงโลก จึงทำให้ชะตากรรมของผู้คนเหล่านั้นน่าอเนจอนาถยิ่งนัก
ดังนั้นในวันนี้จึงต้องนำความจริงเรื่องกัญชามาบอกกล่าวให้คนทั้งหลายได้รับทราบกันโดยทั่วไป จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคำหลอกคำลวงของใครอีกต่อไป ซึ่งความจริงเรื่องนี้ถ้าพี่น้องคนไทยยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าสักหน่อยหนึ่งก็จะไม่เดือดร้อนเสียหายถึงปานนั้น นั่นคืออย่าไปเชื่อถือใครโดยง่ายแม้จะมีตำแหน่งหน้าที่น่าเชื่อถือสักปานใดก็ตาม
ความจริงเรื่องเกี่ยวกับกัญชา ณ วันนี้สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนดังต่อไปนี้
ประการแรก กัญชายังเป็นยาเสพติดตามกฎหมาย เป็นแต่มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายให้มีผู้มีอำนาจที่สามารถอนุญาตให้ปลูก ให้แปรรูป ให้จำหน่าย ให้นำเข้าและส่งออกกัญชาได้เท่านั้น
หมายความว่าจากเดิมที่กัญชาเป็นยาเสพติดใช้ไม่ได้โดยเด็ดขาด ก็สามารถใช้ได้ โดยให้มีผู้มีอำนาจที่จะมีอำนาจอนุญาต ดังนั้นการแก้ไขกฎหมายนี้เบื้องต้นที่สุดจึงเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจแก่ผู้มีอำนาจที่จะอนุญาตในเรื่องกัญชาได้
ประการที่สอง การปลูก การแปรรูป การใช้ หรือส่งออกกัญชา ยังคงเป็นความผิดตามกฎหมายเหมือนเดิม ยกเว้นกรณีผู้ปลูกได้ดำเนินการถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด คือ
(1) ใครจะปลูกกัญชาจะต้องรวมตัวกันตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ซึ่งต้องไปจดทะเบียนต่อท้องถิ่น
(2) วิสาหกิจชุมชนนั้นจะต้องไปทำข้อตกลงจากผู้มีอำนาจที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกกัญชาได้ ซึ่งในขณะนี้ก็คือมหาวิทยาลัยบางแห่งและโรงพยาบาลบางแห่ง ซึ่งต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มหาวิทยาลัยหรือโรงพยาบาลนั้นกำหนด โดยโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยนั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้มีอำนาจอนุญาตด้วย
ดังนั้นคนทั่วไปจึงไม่สามารถปลูกกัญชา นอกจากได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว
(3) กัญชาที่ปลูกขึ้นนั้นไม่ผิดกฎหมายก็เฉพาะราก โคน ต้น กิ่ง ก้าน ใบ ส่วนดอกและเมล็ดกัญชายังเป็นของผิดกฎหมายเหมือนเดิม ดังนั้นต่อให้ได้รับอนุญาตในการปลูกกัญชาแล้ว แต่ทันทีที่ต้นกัญชาออกดอกหรือมีเมล็ด การครอบครองดอกและเมล็ดกัญชานั้นก็เป็นความผิดตามกฎหมายยาเสพติดดังนั้นใครคิดจะปลูกกัญชาก็ต้องจัดระบบการเฝ้าดูให้ดี โดยต้องเข้าใจว่าทันทีที่มีดอกและเมล็ดก็จะเป็นความผิดตามกฎหมาย
(4) ผู้ปลูกกัญชาจะพ้นความผิดตามกฎหมายในกรณีที่กัญชาออกดอกและเมล็ดก็ต่อเมื่อได้ไปทำความตกลงขายดอกกัญชาและเมล็ดกัญชานั้นแก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตรับซื้อ จะไปขายให้คนอื่นไม่ได้ และคนที่จะได้รับอนุญาตรับซื้อนี้จะเป็นใครอีกไม่นานก็คงจะโผล่โฉมหน้าให้ได้เห็นกันชัดๆ แต่ในขณะนี้ที่เปิดตัวพร้อมจะรับซื้อกัญชาแล้วก็คือองค์การเภสัชกรรม ที่จะซื้อในอัตรากิโลกรัมละ 45,000 บาท
ดังนั้นใครคิดจะปลูกกัญชาก็ต้องระวังเมื่อกัญชามีดอกและมีเมล็ด ซึ่งจะต้องทำความตกลงขายเสียให้ทันที ถ้าไม่มีใครซื้อก็คงต้องเผาทิ้งทำลาย
(5) สำหรับต้น ราก โคน กิ่ง ก้าน ใบ ที่จะใช้ในการปรุงอาหารหรือทางยานั้นจะต้องเป็นราก โคน ต้น กิ่ง ก้าน ใบ ที่ได้รับอนุญาตการปลูกโดยถูกต้องเท่านั้น ถ้าไปซื้อหาจากพวกที่ไม่ได้รับอนุญาตในการปลูกก็จะเป็นความผิดตามกฎหมาย ดังนั้นเห็นใครขายราก โคน ต้น กิ่ง ก้าน ใบกัญชาก็อย่าเพิ่งซื้อต้องตรวจสอบดูกันให้รอบคอบว่าเป็นกัญชาต้นเดียวกันกับต้นที่ได้รับอนุญาตให้ปลูกหรือไม่
เรื่องกัญชาก็เป็นอย่างนี้ จึงไม่ใช่มีการอนุญาตให้ปลูกกัญชาหรือใช้กัญชาได้อย่างเสรีดังที่เป็นข่าวกันอยู่ในขณะนี้
ถ้าถามว่าทำไมจึงทำกันเช่นนี้? ก็ต้องบอกว่าประเทศกูมีก็เป็นอย่างนี้!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี