คนไทยจำนวนมากมายร้องเรียนว่ายังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วถามว่าทำไมคนไทยทั้งประเทศจึงไม่ได้ฉีดวัคซีนตัวนี้ คำตอบคือ เพราะไทยมีวัคซีนตัวนี้ไม่เพียงพอสำหรับฉีดให้คนไทยที่จำเป็นต้องฉีด และขอบอกตรงๆ ว่าเท่าที่ผู้เขียนได้พูดคุยกับคุณหมอ คุณพยาบาล และคุณเจ้าหน้าที่ เช่น เจ้าหน้าที่เปล เจ้าหน้าที่ซึ่งประจำเคาน์เตอร์การเงิน และเภสัชกรผู้จ่ายยาให้คนไข้โดยตรง แล้วได้ทราบว่า คนเหล่านี้ซึ่งต้องพบปะแบบเผชิญหน้ากับคนไข้ทุกวัน ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เลยแม้แต่เข็มเดียว
คุณหมอ และคุณพยาบาลบางรายบอกว่าได้ฉีดวัคซีนตัวนี้แล้ว โดยฉีดไปหนึ่งเข็มเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์มานี้ ครั้นเมื่อผู้เขียนถามบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มดังกล่าวว่า ในความเป็นจริงบุคลากรทางการแพทย์ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อนเป็นกลุ่มแรก ใช่หรือไม่ เพราะเป็นกลุ่มบุคคลที่ต้องเผชิญหน้าอย่างใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ป่วยโรคโควิด-19 แล้วเหตุใดคุณหมอ คุณพยาบาล และคุณเจ้าหน้าที่ที่เป็นแนวหน้าของโรงพยาบาลจึงไม่ได้ฉีดวัคซีนนี้ คำตอบคือ วัคซีนมีไม่เพียงพอกับบุคลากรทางการแพทย์
ตัวอย่างชัดเจนที่ผู้เขียนได้รับจากผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนขนาดกลาง ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ที่มีเตียงคนไข้ 200 เตียง คือ โรงพยาบาลได้รับวัคซีนป้องกันโควิดในรอบแรกมาเพียง 210 โดส แบ่งเป็นวัคซีนของ SinoVac 200 โดส วัคซีนของ AstraZenaca 10 โดส แต่ยังไม่ทราบว่าวัคซีนรอบที่สองจะมาถึงโรงพยาบาลเมื่อไร ครั้นเมื่อถามต่อว่า วัคซีน 210 โดสนี้เพียงพอสำหรับฉีดบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องอยู่แนวหน้า ซึ่งต้องเผชิญกับคนป่วยโดยตรงหรือไม่ คำตอบคือไม่พอ เพราะ 210 โดส หมายความว่าฉีดได้ 105 คน เพราะคนหนึ่งต้องฉีดสองโดส แต่เมื่อวัคซีนมีมาเพียงเท่านี้ก็ต้องฉีดให้กับบุคลากรที่จำเป็นก่อนเป็นอันดับแรก โดยฉีดไปทั้งหมด 210 โดสส่วนโดสที่สองก็ยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่าจะมาถึงโรงพยาบาลเมื่อไร
คำตอบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่แตกต่างไปจากคำตอบที่ได้จากคุณหมอและคุณพยาบาลจากโรงพยาบาลของรัฐ เช่นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลภูมิพลฯ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า คำตอบที่เหมือนกันคือ บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลเหล่านี้ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบทุกคน
มีคำถามย้ำว่า ทำไมบุคลากรทางการแพทย์ของไทยทุกคนจึงไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 คำตอบสั้นๆ คือไม่มีวัคซีนมากพอ มีคำถามว่าแล้วทำไมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล บอกว่าประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากที่สุดในเอเชีย ก็ต้องตอบว่า เขาอ้างเช่นนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าการบอกว่ามีวัคซีนมากที่สุดในเอเชียของไทยจะทำให้หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าของโรงพยาบาลทั้งหมดต้องมีวัคซีนฉีด เพราะนายอนุทินไม่เคยยืนยันว่ามีวัคซีนเพียงพอสำหรับฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน แต่เขาแค่โฆษณาว่ามีวัคซีนมากที่สุดในเอเชียเท่านั้น ส่วนคำโฆษณาจะจริงหรือเท็จก็ไม่มีใครตอบได้ เพราะไม่มีการแสดงสถิติการได้วัคซีนของประเทศต่างๆ ในเอเชียอย่างเป็นทางการ และบอกว่าเท่าที่ทราบคือประเทศอื่นๆ โลกใบนี้เขาสั่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก่อนไทยตั้งนาน เขายังได้รับวัคซีนไม่ครบเลย แล้วไทยสั่งหลังจากเขา เหตุไฉนจึงจะได้วัคซีนก่อนเขา คิดดูเอาเองก็แล้วกันนะครับ
ในเมื่อบุคลากรทางการแพทย์ของไทยทุกคนยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วมีประโยชน์อันใดที่คนไทยจะต้องถามว่า ทำไมตนเองยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
แทนที่จะตะโกนร้องหาวัคซีนให้เสียเวลา คนไทยน่าจะต้องหันมาระมัดระวังตัวเอง ดูแลตัวเองให้ดี เพื่อให้รอดพ้นจากการติดเชื้อโควิด-19 ส่วนคนที่พยายามถามว่าทำไมรัฐมนตรีที่ไปเที่ยวผับบาร์ย่านทองหล่อจึงไม่แสดงความรับผิดชอบกับการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกล่าสุด คำตอบคือ เคยมีรัฐมนตรีไทยสักกี่คนที่มีความรับผิดชอบ ถามย้ำว่ามีรัฐมนตรีไทยสักกี่คนที่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองนี้บ้าง และถามตรงๆ ว่ามีนายกรัฐมนตรีไทยสักกี่คนที่รับผิดชอบต่อบ้านเมืองนี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี