วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ก่อนอื่นต้องบอกตรงๆ ว่าคนไทยเกิดความสับสนมากและตลอดเวลากับนโยบายแก้วิกฤติเชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศโดยรัฐบาลไทย ความสับสนเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เชื้อแพร่ระบาดเมื่อต้นปี 2563 เพราะยุคนั้นรัฐบาลโดยรัฐมนตรีรายหนึ่งที่มีหน้าที่ดูแลกระทรวงสาธารณสุขออกมาให้ความเห็นกับสาธารณชนว่า ไม่ต้องกังวลกับเชื้อตัวนี้ (แรกๆ เรียกชื่อไวรัสอู่ฮั่น เพราะแพร่ระบาดหนักในเมืองอู่ฮั่น) แถมยังพูดทำนองว่าเป็นเชื้อไข้หวัดธรรมดา ไม่ต้องตื่นเต้นหวาดกลัวมากเกินไป
แต่เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนเกิดความตื่นตระหนกกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งประเทศ จึงเกิดปัญหาหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และแอลกอฮอล์ขาดตลาด แล้วยังบังเกิดปรากฏการณ์หน้ากากอนามัยที่เคยขายราคาแผ่นละ 2-3 บาท เพิ่มราคาเป็น 15-20 บาท แล้วก็ยังหาซื้อของแท้ได้ยากลำบาก จนนำไปสู่การทำหน้ากากผ้าใช้แทนหน้ากากอนามัยแบบใยสังเคราะห์กันทั่วบ้านทั่วเมือง หลายหน่วยงานแจกหน้ากากอนามัยชนิดทำจากผ้าให้ลูกค้าของตน และในเวลานั้นก็ยังเกิดปัญหาแอลกอฮอล์ และเจลแอลกอฮอล์ขาดแคลนอีก แต่เรื่องสำคัญนั้นก็เงียบหายไปราวกับไม่เคยมีความโกลาหลบังเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยมาก่อน แถมยังปราศจากคำตอบว่าใครกักตุนสินค้า แต่คนจำนวนไม่น้อยรู้ดีว่ามีคนได้ผลประโยชน์มหาศาลจากวิกฤตการณ์ความขาดแคลนในครั้งนั้น
มาล่าสุดเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 คนไทยทั้งประเทศก็สับสบกับนโยบายฉีดวัคซีนอีก หลังจากสับสนมาแล้วว่า ตกลงประเทศไทยมีวัคซีนหรือไม่ (ไม่ว่าจะยี่ห้อใดก็ตาม แต่ขอให้มีประสิทธิภาพดี สามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้ตามมาตรฐานโลกเท่านั้น) มีเพียงพอกับประชากรหรือเปล่า แล้วมาถึงวันนี้ก็มีคำถามอีกว่า ตกลงคนไทยทุกคนที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนจะได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 หรือไม่
ต้องบอกตรงๆ ว่าความสับสนที่บังเกิดกับคนไทยในเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ได้เกิดมาจากใครที่ไหนเลย แต่เกิดมาจากรัฐบาลเป็นสำคัญ (แน่นอนว่ามีความพยายามปล่อยข่าวเท็จเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาเป็นประจำ แต่รัฐบาลก็ไม่มีปัญญาจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ปล่อยข่าวเท็จ) รัฐบาลไม่เคยพูดความจริงเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กระจ่างชัดเมื่อรัฐบาลไม่พูดเรื่องสำคัญให้ชัด ก็จึงทำให้เกิดข่าวเท็จปลิวว่อนในสังคมไทย แล้วน่าสมเพชที่คนไทยจำนวนไม่น้อยยินดีเชื่อข่าวเท็จ แล้วช่วยแพร่กระจายข่าวเท็จอีก ดังนั้นข่าวเท็จจึงกระจายไปทั่วทุกหัวระแหงในประเทศไทย แถมสื่อมวลชนหลักบางสำนักก็ยังแพร่กระจายข่าวเท็จอีก สังคมไทยเลยยิ่งเละหนักเข้าไปใหญ่
ล่าสุดของล่าสุด มีข่าวออกมาจากปากของคนในรัฐบาลอีกว่าจะเปิดให้ประชาชน Walk In ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งๆ ที่รัฐบาลเปิด Apps หมอพร้อม แล้วให้ประชาชนลงชื่อเพื่อขอฉีดวัคซีนตามโรงพยาบาลที่แต่ละคนมีประวัติรักษาตัว เรื่องนี้หากดูให้ดีจะพบว่าคำพูดของหัวหน้ารัฐบาลกับรัฐมนตรีบางรายในรัฐบาลไม่สอดประสานกัน ขอถามตรงๆ ตกลงหัวหน้ารัฐบาลกับรัฐมนตรีทำงานในรัฐบาลเดียวกันแน่หรือ ทำไมไม่ตกลงกันให้ชัดว่าจะเอาอย่างไรก่อนให้ข่าว จะแย่งให้ข่าวเพื่ออะไร เพื่อเอาหน้าทางการเมืองหรือ ขอร้องเถอะ เลิกทำงานเอาหน้าเสียทีเถอะ เพราะประชาชนเสียหาย ประเทศชาติเสียหายมามากแล้ว เพราะนักการเมืองทำงานเอาหน้าแต่ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์แท้จริงของสาธารณะ
บอกตรงๆ ไม่อยากวิจารณ์รัฐบาล แต่รัฐบาลต้องไม่ทำตัวให้สาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์ด้วย ไม่ใช่ห้ามประชาชนวิจารณ์รัฐบาล แต่รัฐบาลแสดงพฤติกรรมประหลาดให้ประชาชนวิพากษ์ตลอดเวลา ขอให้คิดให้ดีก่อนให้ข่าว ไม่ต้องทุรนทุรายให้ข่าว ถ้ายังไม่ตกลงกันให้เป็นมั่นเป็นเหมาะ

นายกฯลั่นไม่มีใครใหญ่กว่า 'บิ๊กต่าย' แถมมี 'สมอลหนู' คอยดู ท้าผู้หวังดีบอกชื่อจริง อย่าเผยแค่ตัวย่อ
‘สหมงคลฟิล์มฯ’ คอนเฟิร์ม ‘เสือ’ ได้ไปต่อ!ขยาย ‘จักรวาลเสือ’
ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์ ไปปีหน้า คดีหวย ‘หงษ์ทอง’ ขายเกินราคา เหตุจำเลยยังไม่ทราบนัด
มาเลเซียจับตัวแร็ปเปอร์ดัง'เนมวี' เอี่ยวคดีอินฟลูฯสาวไต้หวันดับคาอ่างโรงแรม
'บิ๊กต่าย'ขอก้มหน้าก้มตาทำงาน พร้อมโต้กลับ'ให้สำนึกบุญคุณ อย่าทำร้ายบ้านตัวเอง'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี