เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา “ทหารแก่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ไปเป็นประธานเปิดโรงพยาบาลบุษราคัมตามนโยบายรัฐบาล เพื่อให้เป็นศูนย์กลางรองรับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีอาการปานกลางเปิดพื้นที่ว่างให้แก่โรงพยาบาลทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้มีเตียงสามารถใช้รับรักษาผู้ป่วยที่มีอาการหนัก โดยโรงพยาบาลแห่งนี้สามารถรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองได้กว่า 1,000-5,000 เตียง
“ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ระบุว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลายประเทศก็ยังมีความรุนแรงและมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ประเทศไทยก็มีผู้ติดเชื้อรายใหม่และแพร่วงกว้าง ที่ผ่านมาได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามหลายแห่งด้วยกันเพื่อให้คนได้รับรักษาอย่างทั่วถึง
วันนี้มีปัญหาตามสถานการณ์ แต่เรามีการประเมินสถานการณ์ที่ดีขึ้น เลวร้ายมากขึ้น ภาวะวิกฤติเป็นการวางแผนไว้ทั้งหมดและทำตามขั้นตอนที่มีสถานการณ์เป็นตัวชี้วัดว่าจะทำอย่างไร รวมถึงการจัดหาวัคซีนการจัดสถานที่คัดกรองและสถานที่ฉีดวัคซีน ทุกอย่างต้องมีการวางแผนที่ดี โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นความร่วมมือทุกภาคส่วน หลังจากที่รัฐบาลประกาศให้ประเด็นนี้เป็นวาระแห่งชาติรวมทั้งขอให้ประชาชนอย่าท้อแท้...สิ้นหวังและอย่าตั้งหน้าตั้งตาขัดแย้งกันเอง โดยเฉพาะเรื่องสังคม ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้
ช่วงท้ายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่าอยากให้ประชาชนมาลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อม ซึ่งมีการจัดระบบแต่ละกลุ่มตามช่วงเวลาที่เหมาะสมสอดคล้องกับปริมาณวัคซีนที่กำลังเข้ามาเพิ่มอีกยืนยันต้องฉีดวัคซีนให้ได้ตามแผนที่วางไว้ ขอให้มีการสร้างการรับรู้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข รัฐบาลจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่รัฐบาลมีมาตรการในเรื่องเศรษฐกิจรองรับไว้เพื่อดูแลประชาชนด้วย
ทำไมรัฐบาลต้องวิงวอนเชิญชวน ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ประชาชนไปรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งที่จ้องบอกว่ามันคือหน้าที่พลเมืองดีที่จะช่วยกันลดอัตราภาระและปกป้องสังคมให้ห่างมหันภัยโควิด-19
ทุกครั้งที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกร้องความร่วมมือของประชาชน มันคือปรากฏการณ์ตอกย้ำความจริง เรื่องของ “ความศรัทธา” ที่เป็นอัตวิสัยหรือปรวิสัย เป็นความจริงที่รัฐบาลต้องยอมรับว่าพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงต่อปฏิบัติการไอโอของนักการเมืองชังชาติกับเกรียนคีย์บอร์ดหนักแผ่นดินที่พยายามสร้างเฟคนิวส์ตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกลายเป็นความเชื่ออย่างตื่นตระหนก
ภาวะตื่นตระหนกที่สร้างความไม่เชื่อมั่นต่อวิธีดำเนินการของรัฐบาลจนถึง “คุณสมบัติวัคซีนโควิด-19”
เราเชื่อมั่นว่าหากรัฐบาลสร้างเอกภาพงานประชาสัมพันธ์ สู้รบอย่างรู้ทันฉับไวกับเฟคนิวส์ จะส่งผลให้ประชาชน
เกิดความมั่นใจลดภาวะอาการตื่นตระหนก ทำหน้าที่พลเมืองดีโดยไม่กังวลผลข้างเคียง อย่างที่บรรดาอาจารย์หมอคุณหมอ บุคลากรทางการแพทย์อธิบายถึงเหตุและผลของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่อไปโดยไม่พะวงเสียงกรรโชกโหยหวนหอนเห่าของส่ำสัตว์และสรรพสัตว์ (อเวจี) อย่างปัจจุบัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี