ฉบับอังคารที่ผ่านมา ผมกล่าวถึงความพยายามของการแก้ปัญหากับความยากจน และก่อเกิดปรัชญา เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ก็มาขยายความกันต่อนะครับ

ตลอดระยะเวลา 8 ปีกับ 5 เดือน ของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ การขับเคลื่อนการพัฒนาชนบท การแก้ปัญหาความยากจน ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในวันที่ พลเอกเปรม ก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และปฏิเสธการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปด้วยเหตุผลสั้นๆ ว่า ผมพอแล้ว

ท่านยังได้แสดงความห่วงใยและปราศรัย กับพี่น้องประชาชนและออกปากฝากภาระงานนี้ให้กับรัฐบาลชุดใหม่ ด้วยถ้อยคำว่า “สิ่งหนึ่ง ที่ผมยังทำไม่สำเร็จ คือ การแก้ปัญหาความยากจน และขอร้องให้รัฐบาลช่วยทำต่อไป”

แม้ว่าตลอดรัฐบาล 5 สมัยที่ผ่านมาเราจะมุ่งเน้นด้านนี้อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม จึงขอฝากฝังให้พวกเราทำกันต่อไป โครงการต่างๆ ที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือคนยากคนจนในชนบท ผมและรัฐบาล ได้ดำเนินการไปนั้น บรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมายที่น่าพอใจ แต่ปัญหาพื้นฐาน ของคนในชนบทหลายอย่างขณะนี้ ก็ได้รับการดูแลแก้ไขให้ดีขึ้นมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสุขภาพอนามัย ปัญหาความรู้ขั้นพื้นฐาน ปัญหาการประกอบอาชีพ และเรื่องการเพิ่มพูนรายได้ พลเอกเปรมได้ฝากความหวัง ไว้กับรัฐบาลชุดใหม่ ที่จะช่วยกันดำเนินการ แก้ปัญหาความยากจนในชนบทต่อไปอีก เพื่อให้ทุกคนพออยู่พอกินให้ได้

ความห่วงใยเมื่อครั้งพลเอกเปรมกล่าวอำลาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ยืนยันชัดว่าการประกาศสงครามกับความยากจน เป็นสงครามที่ยืดเยื้อ และไม่จบสิ้นได้โดยง่าย พล.อ.เปรม มีความเชื่อมั่นว่าปัญหาความยากจนคือปัญหาใหญ่ที่สุด ยากที่สุดและจำเป็นที่สุด ถ้าเราแก้ปัญหาความยากจนได้ เราจะแก้ปัญหาอื่นได้ทั้งหมด

หากผู้มีอำนาจในรัฐบาลในประเทศนี้ได้อ่านบทความนี้แล้วเชื่อพลเอกเปรมอีกสักครั้งเดียวเร่งแก้ปัญหาความยากจนในชนบทให้สำเร็จ ปัญหาอื่นๆ ก็คงจะแก้ได้หมดอย่างไม่ยากเย็นนัก..เชื่อป๋าเปรมเถอะครับ

เมื่อปีก่อน พ.ศ.2542 พลเอกเปรมพูดที่โรงแรมโฆษะจังหวัดขอนแก่น โดยการพูดในครั้งนี้ พลเอกเปรมได้พยายามที่จะอธิบายความหมายของคำว่า เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยได้เริ่มต้น ความว่า ขอเชิญพวกเรา ทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่า การตอบแทนบุญคุณแผ่นดินนั้น คือการทำอย่างไร ผมขอนิยามว่า การตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน คือการประพฤติตน เป็นคนดี เป็นสถาบันที่ดี เป็นองค์กรที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดี มุ่งกระทำแต่ความดี เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน

ฉะนั้น การตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน จึงมีความหมายกว้างขวาง ลึกซึ้ง ยิ่งใหญ่ไพศาล และครอบคลุม ทุกสิ่งทุกอย่างที่คน หรือสถาบัน องค์กรได้กระทำ และยังประโยชน์ต่อแผ่นดิน เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ทำให้ชาติบ้านเมืองของเรา มีความเจริญมีความก้าวหน้ามีความสงบสุข คนในชาติมีความสามัคคี มีสุขภาพแข็งแรง มีการศึกษาพอที่จะประกอบอาชีพ มีความยั่งยืน และมีคนไม่ดี น้อยมาก จะเห็นได้ว่า ถ้าคนส่วนใหญ่ในชาติบ้านเมืองของเรา เข้าใจการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินและปฏิบัติตามที่เข้าใจ ชาติบ้านเมืองของเรา ก็จะมีคนดีมาก คนไม่ดีน้อย ชาติบ้านเมืองก็จะปกติสุข เรียบร้อย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ได้พระราชทานพระบรมราโชวาท เมื่อวันที่11 ธันวาคม 2512 มีความตอนหนึ่งว่า ในชาติบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใคร จะทำให้ทุกคน เป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้ บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อย จึงมิใช่ทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่ อยู่ที่การส่งเสริมคนดีให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุม คนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายได้

พลเอกเปรมยังได้กล่าวต่อว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า การทำดี ทำไม่ดีในสังคมไทย มีผล หรือให้ผลแตกต่างกันไปค่อนข้างจะไม่เหมือนใคร สังคมของเรา มักจะยกย่อง เคารพนับถือคนมีเงิน คนมีอำนาจ โดยไม่สนใจว่า ภูมิหลังเป็นอย่างไร ร่ำรวยมาด้วยวิธีใด ใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือเครือญาติอย่างไร ประกอบอาชีพสุจริตหรือผิดกฎหมาย เสียภาษีถูกต้อง หรือหลบเลี่ยง เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่หรือไม่ส่วนคนธรรมดา ไม่มีอำนาจมีเงินไม่มาก หรือเป็นคนจน จะปฏิบัติ ประพฤติตนอย่างไร ทำประโยชน์ให้แก่สังคม มากสักแค่ไหน สังคมก็ไม่เอ่ยถึง ไม่ยกย่อง กราบไหว้หากสังคมเรา ยังยึดถืออย่างนี้ สังคมจะบิดเบี้ยว และจะมีผลกระทบ ให้สังคม เพี้ยนแปลไทย จึงใคร่เชิญชวนพวกเรา ทั้งหลาย ช่วยกันคิดว่า ควรจะตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยการยกย่องคนดี แผนการยกย่อง คนมีเงินมีอำนาจ แต่เป็นคนไม่ดีต่อกัน หรือยกเลิกกราบไหว้เลิกคบค้าสมาคม กับคนไม่ดี โดยไม่เกรงกลัวอิทธิพล ไม่หวั่นต่ออันตราย สังคมควรพร้อมใจกันลงโทษ คนจำพวกนี้ และยกย่องส่งเสริมคนดีให้มีกำลังใจให้เป็นตัวอย่างแก่ลูกหลานของเราต่อไป ข้อความ เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

ทั้งหมดนี้สรุปได้ว่า ขอให้คนไทยทุกคน ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยการประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี มุ่งกระทำแต่ความดี เพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน

นี่คือสิ่งที่พลเอกเปรมได้ฝากเอาไว้ มันช่างเป็นคำสั่งคำสอนที่เป็นอมตะให้กับผู้ปกครองบ้านเมืองของเราในทุกระดับจริงๆ นะครับ สุดท้ายวันนี้ ดร.สุเมต สุวรรณพรหมผู้ดำเนินรายการวิทยุ “เรื่องเล่าของป๋าเปรม” FM90.5 ขอเชิญร่วมแบ่งปันบริจาคปัจจัยสนับสนุนการทำครัวสหภาพแรงงาน เฉลิมพระเกียรติ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) เพื่อจัดทำอาหารส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์เป็นการทำความดีให้สม่ำเสมอตามคำสอนของป๋าเปรมร่วมบริจาคได้ที่ 08-1110-3939 นะครับ