วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
คุณอัญชลีพร กุสุมภ์ ผู้ประกาศข่าวทีวีผู้ผ่านการวิเคราะห์ข่าวการเมืองมากว่าสามสิบปี ผ่านสถานีทีวีมาตั้งแต่ทีวีช่อง 7 ทีวีเพื่อคุณ ไอทีวี นิวทีวี ช่อง 18 บลูสกายทีวี วันนี้ประจำการอยู่สถานีสุวรรณภูมิ ได้วิเคราะห์การเมืองไว้ด้วยวลีที่ว่า
“รัฐบาลนี้ไม่ได้เก่งอะไรแต่มีจุดแข็งอยู่ที่ฝ่ายค้านอ่อนแอ”
เราเห็นด้วยกับคุณอัญชลีพรและขอฟันธงว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังต้องอยู่แก้ปัญหาวิกฤติชาติต่อไป ยังไม่ลาออกหรือยุบสภาตามเสียงด่าของฝ่ายค้านหรือตามคำวิเคราะห์วิจารณ์ของหลายฝ่ายแต่ยังเป็นรัฐบาลต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี เพื่อสร้างสถิติใหม่ให้กับตัวเอง
พลเอกประยุทธ์เข้ามาเป็นผู้นำประเทศในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557
จนกระทั่งถึงวันที่ 24 ส.ค. 2557 ได้รับโปรดเกล้าฯในรัชกาลที่ 9 แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 29ระหว่างการเลือกตั้งวันที่ 25 มี.ค. 2562 พลเอกประยุทธ์รักษาการนายกรัฐมนตรี และได้รับการเลือกจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งสมัย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562
วันที่ 24 ส.ค. 2564 จึงถือว่าพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯครบรอบ 7 ปี ดังนั้นเมื่อมีข่าวว่าลุงตู่พูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อเร็วๆ นี้ว่า# เหลือเวลาอีกหนึ่งปี ขอให้ทุกคนเร่งกันสร้างผลงาน#
คำพูดในวันนั้นออกมาจากจิตใต้สำนึกที่มุ่งมั่นของลุงตู่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ได้แปดปีหรือมากกว่า เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งนานพอๆ กับป๋าเปรม “พลเอกเปรมติณสูลานนท์” อดีตรัฐบุรุษผู้จงรักภักดีประธานองคมนตรีสองแผ่นดิน
ถึงตอนนี้มีคำถามว่าแล้วลุงตู่มีบารมี มีความดีมีผลงานเท่าท่านรัฐบุรุษผู้ล่วงลับไหม คำตอบหาได้จากวลีเด็ดของคุณอัญชลีพรที่ว่า “รัฐบาลนี้ไม่ได้เก่งอะไรแต่มีจุดแข็งอยู่ที่ฝ่ายค้านอ่อนแอ..”
เราเห็นด้วยกับคุณอัญชลีพร ที่ว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้เก่งอะไรแต่จุดแข็งอยู่ที่ฝ่ายค้านอ่อนแอ คำว่าฝ่ายค้านไม่ได้จำกัดอยู่เพียง สส.ในสภา ทว่ามันอ่อนแอไร้สาระทุกฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลที่ด่าไปค้านไปแบบฝนตกขี้หมูไหล
ดูจากภูมิหลังของฝ่ายค้านหรือฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่ถือเอาการต่อต้านรัฐบาลและสถาบันเป็นการแก้แค้นที่ถูกยึดอำนาจไป ประกอบกับได้กำลังเสริมมาจากกลุ่มต่อต้านรุ่นใหม่ที่มุ่งหมายโค่นล้มสถาบัน การเคลื่อนไหวของฝ่ายแค้นในฝ่ายค้านจึงสะเปะสะปะหาหลักเกณฑ์หามาตรการในการต่อต้านรัฐบาลไม่ได้ เนื่องจากว่าฝ่ายแค้นในฝ่ายค้านส่วนใหญ่หนักไปทางต่อต้านโจมตีสถาบันฯ มากกว่ามุ่งหมายทำลายล้างรัฐบาล เลยทำให้เกิดปรากฏการณ์ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านฝ่ายแค้นในฝ่ายค้านแทนรัฐบาลเสียเอง
ฝ่ายแค้นในฝ่ายค้านส่วนใหญ่ทั้งในและนอกสภาเป็นคู่ขัดแย้ง เป็นคู่กรณีกับลุงตู่มานานนับสิบๆ ปีจนเป็นที่ฝังใจของฝ่ายค้านส่วนใหญ่ไม่ว่าลุงตู่จะทำอะไรคู่กรณีก็คัดค้านทันที อาทิ คัดค้านการสร้าง “อุทยานราชภักดิ์” ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีและเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณพระมหากษัตริย์แห่งสยาม
โครงการสร้าง อุทยานราชภักดิ์ เป็นงานโบดำชิ้นแรกที่ฝ่ายเคลื่อนไหวโจมตีต่อต้านรัฐบาล คสช. เพื่อตีกระทบคราดไปถึงสถาบัน แต่ก็หาหลักฐานมายืนยันว่ารัฐบาลผิดพลาดอย่างไรไม่ได้ เพราะฝ่ายต่อต้านเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้เป็นข่าวมากกว่า
ต่อมาฝ่ายต่อต้านและฝ่ายค้านโจมตีรัฐบาลเรื่องนาฬิกาเพื่อนทั้งในและนอกสภาแต่ก็หาหลักฐานมาจัดการล้มรัฐไม่ได้ ปีต่อมามีข้อครหาเรื่องขายที่ดิน
พ่อของนายกฯ เรื่องนี้ถูกฝ่ายค้านฝ่ายแค้นโจมตีทั้งในและนอกสภา แต่หาได้รับการสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่และฝ่ายกฎหมายไม่ ทำให้รัฐบาลรอดตัวไปได้
ยุทธวิธีพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้านปัจจุบันแตกต่างกับฝ่ายค้านในอดีตโดยเฉพาะฝ่ายค้านที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อโจมตีในสภา ปชป. ได้เตรียมหลักฐานการปฏิบัติหน้าโดยมิชอบของรัฐบาล หลักฐานการทุจริตคอร์รัปชั่นไว้อย่างแน่นหนา ก่อนจะนำมาเป็นหลักฐานประกอบการอภิปรายและสุดท้ายหลักฐานการทำผิดกฎหมายที่ได้อภิปรายในสภา มักไปจบลงที่บัลลังก์ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง
นักการเมืองกังฉินตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการ พ่อค้าหลายราย ถูกตัดสินติดคุกติดตะรางเพราะผลต่อเนื่องมาจากอภิปรายของ สส. ปชป. ในสภามาแล้วหลายสิบคน หนีคุกหนีตะรางไปเป็นสัมภเวสีก็มี
แต่ฝ่ายค้านยุคนี้มีแต่โวหาร ใช้กิริยาวาจาหยาบคายดูหมิ่นดูแคลนนายกรัฐมนตรีเพื่อให้กองเชียร์สะใจมากกว่าจะหาเอาหลักฐานมาแสดงว่ารัฐบาลทำผิดอย่างไร คอร์รัปชั่นในโครงการไหนเป็นจำนวนเงินที่รัฐเสียหายเท่าไหร่ เพราะหาหลักฐานรัฐบาลโกงไม่ได้จึงใช้โวหารมั่วๆ กันไป วันที่สองของการอภิปรายงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท สส. พรรคก้าวไกลกล่าวหาว่าในเวลาเจ็ดปีพลเอกประยุทธ์กู้มาแล้ว 20 ล้านล้านบาท
อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา สส.พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าเจ็ดปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์กู้มาแล้ว 5 ล้านล้านบาท แค่เวลาครึ่ง ชม. ตัวเลขของฝ่ายค้านต่างกัน 15 ล้านล้านบาท และใช้โวหารชั้นต่ำว่าพลเอกประยุทธ์ เป็นนักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เพื่อนล้อกับวลีที่ว่าพลเอกเปรม เป็นนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ส่วนฝ่ายที่ค้านที่ค้านหัวชนฝาเรียกว่าพรรคก้าวไกล สส. ก้าวไกลส่วนใหญ่หนักไปทางวิจารณ์คัดค้านงบประมาณที่จัดสรรให้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกปี และ สส.ของพรรคนี้มักนำเอาประเด็นที่จำเลยคดีอาญามาตรา 112 ถูกดำเนินคดีมาโจมตีพลเอกประยุทธ์ในสภาว่าเป็นเผด็จการ ที่ดำเนินคดีกับผู้เห็นต่างทางการเมือง
ส่วนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลนอกสภาที่เรียกตัวเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย เป็นคนรุ่นใหม่แทนที่จะโจมตีรัฐบาล กลับมุ่งเป้าหมายไปที่โจมตีมุ่งร้ายทำลายสถาบัน เป็นเหตุให้ประชาชนผู้จงรักภักดีส่วนใหญ่ลุกขึ้นต่อต้านขัดขวางคนรุ่นใหม่ที่รับงานจากนักการเมืองทั้งภายในและต่างประเทศมาทำร้ายสถาบัน
ในขณะที่รัฐบาลลอยตัวไม่ต้องทำอะไร ปล่อยให้ประชาชนผู้จงรักภักดีต่อสู้กับความชั่วร้ายของคนรุ่นใหม่ไปตามยถากรรม จึงไม่เป็นเรื่องประหลาดใจที่พบว่า สถาบันสูงสุดของชาติไทยถูกโจมตีใส่ร้ายทำลายร้ายแรงที่สุดเท่าที่มีประเทศไทยมา แต่อย่างไรก็ประชาชนชาวไทยหลายล้านคนก็ลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันอย่างมีอารยะมากมายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยเท่าที่เคยมีมาเช่นกัน ทำให้สถาบันนับวันยิ่งเข้มแข็งมั่นคงเป็นศูนย์รวมจิตใจดังที่คนไทยปรารถนา
การที่ประชาชนผู้ตื่นรู้ลุกขึ้นมาต่อสู้อย่างมีอารยะกับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลที่เป็นอันธพาลต่อสถาบันนั้นเป็นปัจจัยสำคัญทำให้รัฐบาลนี้ยืนหยัดอยู่ได้ ดังนั้นผู้ที่วิจารณ์ว่ารัฐบาลจะยุบสภาในไม่ช้านั่นเป็นการวิเคราะห์แบบโบราณ ไม่ใช่วิเคราะห์แบบความเคยชินใหม่ที่คนทั่วไปเรียกว่า “New Normal”
ประเมินจากการอภิปรายงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท กับการอภิปราย พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่ด่ากันเจ็ดวันเจ็ดคืนในสภาแล้วผลที่ออกมาทั้งสส.รัฐบาลและสส.ฝ่ายค้านรับมติ 269 กับ 270 เสียง จากผู้ลงคะแนน 471 คน นั้นเป็นเครื่องยืนยันว่ารัฐยังอยู่ได้อีกนาน จึงฟันธงว่ารัฐบาลไม่ยุบสภาหรือลาออกในเร็ววันนี้
เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นดังที่คุณอัญชลีพร กุสุมภ์ พูดว่า “รัฐบาลนี้ไม่ได้เก่งอะไรแต่มีจุดแข็งอยู่(ได้) ที่ฝ่ายค้านอ่อนแอ”
สุทิน วรรณบวร

ผ่ากลยุทธ์'ค่ายสีน้ำเงิน' ไม่เร้าอารมณ์! เน้นทำได้ทำจริง
ปลัดนนท์ ยื่นใบลาออก ลงสมัครชิง สส.นนทบุรี พรรคภูมิใจไทย ลั่นเปลี่ยนเวลาราชการเป็นเวลาราษฎร
นักวิชาการ มธ. วิเคราะห์กระแสเลือกตั้ง ชี้ผลโพล'คนกรุงเกือบครึ่งยังลังเล' พบได้ไม่บ่อย
ไม่น่าเชื่อ พนง ถึงกับร้องไห้หนักมาก เมื่อเห็นสิ่งที่ลูกค้าทำ ชมคลิป
(คลิป) แพทองธาร หน้าเจื่อน! ตอบคำถามสื่อ ยศชนัน คะแนนดีขึ้น!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี