หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4เสด็จสวรรคต บรรดาขุนนางข้าราชการซึ่งถือรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ให้อัญเชิพระบรมวงศ์ที่เห็นว่าเหมาะสมขึ้นครองราชสมบัติก็ได้อัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ซึ่งยังทรงพระเยาว์ขึ้นครองราชย์ โดยมีสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ สมุหกลาโหม เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน
หลังจากนั้นสามเดือนก็มีการสถาปนาวังหน้าตามธรรมเนียมการปกครอง โดยสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ สนับสนุนให้มีการโปรดเกล้าแต่งตั้งพระราชบุตรในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นเป็นวังหน้า คือสมเด็จกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ นัยว่ามีความประสงค์ที่จะให้มีการถ่วงดุลระหว่างวังหลวงกับวังหน้า
สมเด็จกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญก็ได้สืบทอดพระราชเจตนาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสร้างพระเครื่อง 84,000 องค์ บรรจุกรุพระธาตุพนมวังหน้า แต่เนื่องจากเป็นการใหญ่หลวงมาก และได้กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงทราบถึงพระราชธุระที่สืบทอดนี้ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ก็ทรงอนุโมทนา
จึงเกิดเป็นพระราชนิยมขึ้นทั้งวังหลวง วังหน้าและวังหลัง ในการสร้างพระเครื่อง โดยถือเอาสามวาระสำคัญประจวบกันคือ การบูรณะพระธาตุพนมวังหน้าการฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5ครองราชย์ ครบ 1 ปี และการถวายพระสมณานุสรณ์แด่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) หรือขรัวโตซึ่งทราบกันเป็นการภายในว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ในยุคนั้น
ดังนั้นบรรดาพระสมเด็จทั้งหลายที่ได้สร้างขึ้นสามวัง และในโอกาสประจวบเหมาะกันนี้ว่าเป็นพระสมเด็จงานหลวง ซึ่งแต่ละวังก็ได้สร้างขึ้นหลายแบบหลายชนิด แต่ทั้งหมดนี้ก็เรียกว่าเป็นพระเครื่องงานหลวงแต่มีจำนวนจำกัด และแจกจ่ายในวงจำกัดในบรรดาผู้เกี่ยวข้องในระดับสูงในยุคนั้น
สำหรับวังหน้า ในที่สุดด้วยการหารือเห็นชอบจากกระทรวงวัง จึงตกลงสร้างเป็นพระสมเด็จและเรียกว่าพระสมเด็จวังหน้า หรือพระสมเด็จสองแผ่นดิน ซึ่งได้สร้างขึ้นเพียงสองรุ่นเท่านั้น คือ
พระสมเด็จวังหน้ารุ่นสองแผ่นดิน เพื่อบรรจุกรุพระธาตุพนมวังหน้า สร้างขึ้นจำนวน 84,000 องค์และพระสมเด็จรุ่นจักรพรรดิที่ทำจากทองคำทั้งองค์ โดยถือแบบตามที่กรมช่างสิบหมู่ได้ออกแบบให้ตามบัญชาของเสนาบดีกระทรวงวัง
สำหรับพระสมเด็จรุ่นจักรพรรดินั้นทำขึ้นจากทองคำล้วน จำนวนทั้งสิ้น 8 องค์ โดยมีพระประสงค์ที่จะถวายความจงรักภักดีและแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นกรณีพิเศษ
เหตุทั้งนี้เนื่องจากกรมพระราชวังบวรทรงทราบในพระทัยเป็นอย่างดีว่า การที่ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นที่สมเด็จกรมพระราชวังบวรนั้นเกิดแต่แรงสนับสนุนของผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน เพื่อจะถ่วงดุลอำนาจกับวังหลวง ดังนั้นเพื่อแสดงความจงรักภักดีเป็นพิเศษจึงทรงใช้โอกาสนี้สร้างพระสมเด็จรุ่นจักรพรรดิขึ้นทำด้วยทองคำทั้งองค์ มีพุทธลักษณะตามแบบพระประธานวัดระฆัง
ในจำนวน 8 องค์นี้ได้ยินว่านักธุรกิจใหญ่ชาวญี่ปุ่นได้เช่าไปบูชาไม่น้อยกว่า 3 องค์แล้ว ส่วนที่เหลือย่อมอยู่ในการบูชาของบุคคลสำคัญของประเทศ
แม้กระนั้นก็ไม่วายที่จะเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างวังหลวงกับวังหน้า จนครั้งหนึ่งสมเด็จกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ได้กระทำการบางอย่างและความทราบถึงพระกรรณ จึงเกรงว่าจะต้องพระราชอาญา จึงเสด็จหนีออกจากวังหน้าไปลี้ภัยอาศัยอยู่ในสถานทูตอังกฤษ
ซึ่งขณะนั้นอังกฤษก็จ้องที่จะบังคับขับไสล่าสยามเป็นอาณานิคมแข่งกับฝรั่งเศส ย่อมสมประสงค์ที่จะคิดช่วงใช้สมเด็จกรมพระราชวังบวรเป็นเครื่องมือแต่ก็ได้อาศัยบารมีของเจ้าประคุณสมเด็จที่เคยทูลเตือนสมเด็จกรมพระราชวังบวรไว้ล่วงหน้าในช่วงป่วยหนัก ว่าสืบไปเมื่อหน้าถ้ามีเรื่องขัดข้องหมองใจกับวังหลวง ก็อย่าทำตัวเป็นเครื่องมือให้ต่างชาติผลาญชาติผลาญญาติเป็นอันขาด
ดังนั้นในช่วงนั้นสมเด็จกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญกำลังจะตกเป็นเครื่องมือของอังกฤษในการเผชิญหน้ากับวังหลวง ก็เหมือนหนึ่งบารมีของเจ้าประคุณสมเด็จแผ่มาให้ได้รำลึกถึงความแต่หนหลังว่าเจ้าประคุณสมเด็จเคยเตือนเป็นมั่นคงถึงปานนั้น ก็ทรงตระหนักว่าการที่เจ้าประคุณสมเด็จเคยเตือนไว้หนักหนาถึงเพียงนั้นย่อมเป็นการรู้การเบื้องหน้าด้วย อนาคตังสญาณ ไม่สมควรที่จะฝืนต่อคำสัตย์ที่ถวายไว้กับเจ้าประคุณสมเด็จ
ประกอบทั้งพระญาติต่างๆ ก็ช่วยไกล่เกลี่ยจึงเสด็จกลับ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็มิได้เอาโทษทัณฑ์แต่ประการใด
สมเด็จกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญได้สืบทอดพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำเนินการสร้างพระเพื่อบรรจุกรุและด้วยการแนะนำของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ เสนาบดีกระทรวงวัง จึงปลงใจสร้างเป็นพระสมเด็จ
และเนื่องจากเป็นการใหญ่มาก ในฐานะที่ทรงบังคับบัญชากรมท่าที่บรรดาพ่อค้าชาวจีนทั้งหลายมีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน จึงโปรดให้เข้าร่วมการสร้างพระในครั้งนี้ด้วย เหตุนี้พระสมเด็จที่สร้างขึ้นในครั้งนี้จึงได้ชื่อว่าพระสมเด็จสองแผ่นดิน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี