วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ที่ผ่านมา วงการแพทย์และงานวิจัยทางการแพทย์ของไทยไม่ได้ด้อยความสามารถกว่าชาติมหาอำนาจต่างๆ เพียงแต่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขก็ดี ผู้นำรัฐบาลกลับไม่ให้ความใส่ใจไม่ให้การสนับสนุน ทั้งที่มี “แผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยฉบับที่ 1 พุทธศักราช 2560-2564” บังคับใช้อยู่
วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” สร้างความบอบช้ำให้สังคมไทยอย่างมากมายทั้งในแง่การสาธารณสุข ที่แม้ระลอกแรกจะได้รับคำชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์อู่ฮั่นอย่างรวดเร็วของรัฐบาลและอสม.(อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน)ที่มีอยู่เกือบ 100,000 คนทั่วประเทศ
“สมุนไพร มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานควบคู่ สังคมไทยนับตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นส่วนประกอบอาหารคาว-หวาน เป็นยารักษาโรคใช้ในการดูแลสุขภาพและเป็นยาอายุวัฒนะ กระทั่งการเสริมความงาม ภูมิปัญญาเหล่านี้ได้รับการสั่งสม สืบทอด และพัฒนาต่อเนื่อง สร้างคุณค่าและมูลค่าให้แก่สมุนไพรไทยจนถึงปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยคือที่สุดแห่งภูมิปัญญาไทย กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ส่งออกสำคัญของประเทศ โดยในปี 2560 เป็นต้นมา ไทยสามารถส่งออกเครื่องเทศและสมุนไพรไทยได้ราวปีละ 1.8 แสนล้านบาท โดยมีตลาดสำคัญอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน, จักรวรรดินิยมอเมริกา และเวียดนาม ซึ่งในปี 2564 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกมีมูลค่ากว่า 3.6 แสนล้านบาทหรือราว 1 ใน 4 ของจีดีพี”
วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อโควิด-19” นักวิจัยนักวิทยาศาสตร์และบุคลากรทางการแพทย์สามารถศึกษาวิจัย“วัคซีนChulaCov19” ซึ่งเป็น “นวัตกรรม mRNA” เป็นวัคซีนป้องกัน “โควิด-19” ซึ่งศึกษาวิจัยโดยศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ล่าสุดคาดว่าจะสามารถผลิตออกมาใช้ได้ในราวเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ก็ไม่แน่นอนว่า“โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019” จะทุเลาจางหายไปจากสังคมไทยและสังคมโลกแล้วหรือยัง ไม่ใช่แค่วัคซีนนี้เท่านั้น แต่คณะวิทยาศาสตร์ มหิดล ได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้วิจัยสมุนไพร “กระชายขาว” พบสารสองชนิดคือ แพนดูราทิน เอ (Panduratin A) กับ พิโนสโตรบิน (Pinostrobin) ที่สารตัวหนึ่งยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัส ขณะที่อีกตัวสามารถฆ่าเชื้อไวรัสนี้ได้ และล่าสุดแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดีก็ยืนยันว่า สมุนไพรไทย “ฟ้าทะลายโจร” มีฤทธิ์ในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นี้ได้ จนทำให้กระชายขาวสดขาดตลาด รวมทั้งยาฟ้าทะลายโจรก็มีประชาชนแห่ซื้อกักตุนเพื่อตนเองและครอบครัว แต่ก็ไม่มี “แอ๊กชั่น”ใดๆจากกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลเรือแป๊ะ
ด้วยความพร้อมทางด้านต้นทุนการผลิต อันได้แก่ ภูมิประเทศ วัตถุดิบ กระบวนการผลิต รวมถึงความหลากหลาย
ของรูปแบบผลิตภัณฑ์ และช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรร่วมกันดำเนินการตามแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 เพื่อให้ในอนาคตข้างหน้าประเทศไทยจะเป็นประเทศส่งออกวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพและผลิตภัณฑ์สมุนไพรชั้นนำ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสมุนไพรไทยในตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ อันจะนำมาสู่ความมั่นคงทางสุขภาพและความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยต่อไป เพื่อเกษตรกรไทยมีทางเลือกในการสร้างผลผลิตสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและครอบครัวได้
ในฐานะผู้บริหารสูงสุดในงานด้านสาธารณสุขควรสำเหนียกและหามาตรการพัฒนาสมุนไพรไทยให้เข้มแข็งสามารถแข่งขันในตลาดโลกสร้างเศรษฐกิจที่มั่งคั่งยั่งยืนแก่เกษตรกรไทยต่อไป ทิฐิไม่ช่วยให้เกษตรกรอิ่มท้องไม่ช่วยให้เศรษฐกิจประเทศพัฒนามั่งคั่งยั่งยืนแน่นอน

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี