ถืออยู่ในมือท่านฉบับนี้คือหนังสือพิมพ์แนวหน้าwww.naewna.com ทุกบรรทัดตรงไปตรงมา...nn “มือปราบ” ได้เขียนทิ้งท้ายไว้เมื่อฉบับวันอาทิตย์ที่แล้ว ถึง ดาราฮอลลีวู้ดชื่อก้องโลกอย่างรัสเซล โครว์ (Russell Crowe) ที่ได้ชื่นชมถึงความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงรสชาติความอร่อยจัดจ้านของอาหารไทย ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ฯจนกระทั่งมีแฟนหนังทั้งไทยและเทศ ต่างเข้ามาสอบถามและต่างชื่นชมประเทศไทยในการเดินหน้าฟื้นฟูการท่องเที่ยวเพื่ออยู่ร่วมกับการระบาดของไวรัสโควิด-19...
nn ล่าสุด ดาราหนุ่ม แซค แอฟรอน (Zac Efron) ก็ได้ฉลองวันเกิดครบ 34 ปี ในประเทศไทย โดยหนุ่มแซค ได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ครั้งนี้เป็นความรู้สึกพิเศษมากที่ผมได้ฉลองในประเทศไทยร่วมกับนักแสดงและทีมงานที่มากด้วยความสามารถ ในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ผมคิดว่าจะออกมาเจ๋งมากๆ ซึ่งคงจะไม่มีช่วงเวลาไหนในชีวิตที่ผมจะมีความสุขมากไปกว่านี้อีกแล้ว”...
nn ซึ่งจากปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่เนื้อหอมเป็นอย่างมาก ที่บรรดาบริษัทใหญ่ๆ ต่างเลือกเป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำภาพยนตร์ และถือเป็นการโปรโมทประเทศไทยไปพร้อมๆ กันด้วย...
nn โดย บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็ได้พูดถึงว่า ผมก็ทราบว่าธุรกิจในเรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย เป็นแหล่งสำคัญที่เขาอยากเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะต้องดำเนินการกันต่อไปให้สามารถที่จะปลดล็อกเพื่อดำเนินการได้ในอนาคตอันใกล้นี้ให้เร็วที่สุด...
nn เสี่ยติ๊ก-อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ระบุว่า รัฐบาลโดยคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้ร่วมผลักดันมาตรการผ่อนปรนให้กองถ่ายภาพยนตร์ โทรทัศน์ โฆษณาทำงานต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 3 (พ.ศ.2560-2564)...
nn โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาผลิตภาพยนตร์และวีดิทัศน์ในประเทศไทย ทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศมั่นใจและเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ...
nn และ เสี่ยติ๊ก–อิทธิพลยังเปิดเผยว่า “ทาง วธ.ได้รับข้อมูลจากกรมการท่องเที่ยวยังเปิดข้อมูลอีกว่า ในปี 2564 (มกราคม-ตุลาคม) มีบริษัทภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทยรวม71 เรื่อง ในพื้นที่ 29 จังหวัด สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 3,452 ล้านบาท...
nn นอกจากนี้ รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านภาพยนตร์ ระหว่างทบวงกิจการภาพยนตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และกระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ที่จะมีการลงนามในช่วงประมาณต้นปี 2565 ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านภาพยนตร์ของทั้ง 2 ประเทศ...
nn และยังได้ระบุอีกว่า ร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ จะส่งผลให้เกิดประโยชน์ในหลายด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือในการผลิตภาพยนตร์ระหว่างรัฐบาลทั้ง2 ประเทศ สนับสนุนการนำเข้าและออกอากาศภาพยนตร์ระหว่างกัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การใช้สถานที่ถ่ายทำ การเช่าโรงถ่ายทำ การจ้างทีมสตันท์ เป็นต้น”...
nn “มือปราบ” เห็นว่า การที่ประเทศไทยได้เป็นจุดหมายสำคัญของการถ่ายทำภาพยนตร์ของบรรดาบริษัทบันเทิงและออแกไนเซอร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกนั้น เป็นสิ่งที่น่ายินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก รวมทั้ง ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศด้วย...
nn เพราะถึงแม้ว่า รายได้จากการดำเนินการของกองถ่ายฯ จะยังไม่ถึง 5 พันล้านก็ตาม แต่ก็ถือว่า เป็นเม็ดเงินที่ถูกใช้จ่ายในทุกๆ วัน ตั้งแต่เริ่มกระบวนการจนได้ฉากสวยๆ ที่ปรากฏบนแผ่นฟิล์ม ก็ตกราวๆ 2-3 เดือน ซึ่งตรงนี้ ผู้เกี่ยวข้องสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้เป็นแหล่งรายได้ของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย...
nn รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทย ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับไวรัสโควิด-19 ตามแนวทางวิถีใหม่ (New Normal) อย่างไร้อุปสรรค และพร้อมต้อนรับบรรดาแขกบ้านแขกเมือง ที่เข้ามาชมความงามและภูมิปัญญาของคนไทย ที่สร้างสรรค์มาตั้งแต่โบราณกาล จนสามารถอวดสายตาให้กับคนทั้งโลก จนถึงทุกวันนี้...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี