วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ตรงกับ วันสถาปนามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครบรอบ 50 ปี จะมีการจัดงาน “5 ทศวรรษ รามคำแหงร่วมสร้างคน ร่วมสร้างประเทศ”
เรื่องดังกล่าว ทาง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่าในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครบรอบ50 ปี วันที่ 26 พฤศจิกายน 2564 ได้เตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเพื่อรำลึกถึงการก่อตั้งและสานสัมพันธ์ระหว่างศิษย์เก่า นักศึกษา และคณาจารย์ โดยจะมีพิธีบวงสรวงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคล ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช และมีพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่ข้าราชการและพนักงานมหาวิทยาลัย รวมทั้งพิธีมอบรางวัลอาจารย์ดีเด่น บุคลากรดีเด่น ศิษย์เก่าดีเด่น และนักศึกษาดีเด่น ให้แก่ผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีจริยธรรมคุณธรรม ได้อุทิศตนรับใช้และทำคุณประโยชน์ต่อสังคม ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยยังได้ออกแบบตราสัญลักษณ์ ๕ ทศวรรษรามคำแหง โดยให้ความหมายของสัญลักษณ์เลข ๕หมายถึง 5 ทศวรรษ หรือ ครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยรามคำแหงในปี 2564 วงกลมของเลข ๕ยังสื่อถึงการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยที่กระจายไปสู่ทุกภูมิภาคในประเทศไทยและทุกทวีปทั่วโลก จากการตั้งสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ 23 จังหวัด และสาขาวิทยบริการต่างประเทศ ใน 32 ประเทศ ด้วย ส่วนลายเส้นของเลข ๕ ประกอบด้วยสีประจำมหาวิทยาลัย 2 สี คือ สีน้ำเงิน สื่อถึงระยะเวลาในการจัดการเรียนการสอนที่มีมาอย่างยาวนาน เป็นองค์ความรู้ที่สามารถแผ่ขยายได้ครอบคลุมในหลากศาสตร์หลายสาขาที่พร้อมจะให้ผู้เรียนต่อยอดได้อย่างไม่จบสิ้น และสีทอง สื่อถึงความรู้สึกทรงคุณค่า ซึ่งส่งเสริมให้สรรพวิชาที่นักศึกษาได้ร่ำเรียนในรั้วรามคำแหง เป็นองค์ความรู้ที่มีค่าสำหรับการนำไปใช้เพื่อก่อประโยชน์แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ
ดังนั้น ความหมายโดยรวมของตราสัญลักษณ์ ๕ ทศวรรษรามคำแหง จึงเป็นภาพที่แสดงให้เห็นถึงพันธกิจหลักที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นปฏิบัติต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อให้โอกาสและขยายโอกาสทางการศึกษาที่หลากหลาย สร้างแนวคิดให้กับผู้คนจำนวนมากในสังคมได้ออกแบบเส้นทางชีวิตของตนเองอย่างมีคุณค่า
อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ยังกล่าวถึงความสำเร็จของมหาวิทยาลัยรามคำแหง 50 ปีที่ผ่านมา ว่า จากพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นสถานศึกษาแบบตลาดวิชา มีการจัดการเรียนการสอนแต่ไม่บังคับให้มาเข้าชั้นเรียน โดยมีวัตถุประสงค์ในการศึกษา ส่งเสริมวิชาการ และวิชาชีพชั้นสูง การเรียนการสอน วิจัย ให้บริการทางวิชาการ แก่สังคม และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ยึดมั่นและดำเนินการตามแนวทางเหล่านี้มาตลอดระยะเวลา 50 ปี
ตั้งแต่แรกก่อตั้งได้เปิดโอกาสให้บุคคลที่ประสงค์จะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้เข้ารับการศึกษาอย่างทั่วถึง ทั้งผู้ที่จบมัธยมศึกษาตอนปลาย กลุ่มคนทำงาน รวมถึงบุคคลที่เกษียณอายุแล้ว เพื่อเพิ่มพูนวิทยฐานะแก่ผู้ประกอบอาชีพและขยายโอกาสทางการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพของประชาชนทั่วไป โดยเปิดรับสมัครนักศึกษาแบบไม่จำกัดจำนวนและไม่มีการสอบคัดเลือก เว้นแต่บางสาขาที่จำกัดจำนวนผู้เข้าศึกษา ทั้งยังมีการต่อยอดการศึกษาในระดับปริญญาโท และ
ปริญญาเอก อีกทั้งได้ขยายพื้นที่ทางการศึกษาให้กว้างไกลออกไปยังภูมิภาคต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสในการเรียนให้กับประชาชนชาวไทยอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
“ปัจจุบันได้สร้างบัณฑิตที่เปี่ยมไปด้วยความรู้คู่คุณธรรม ออกไปทำคุณประโยชน์รับใช้สังคมและประเทศชาติแล้วกว่าล้านคน ซึ่งบัณฑิตส่วนมากได้รับการยอมรับจากสังคมการทำงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างชื่นชมกับอัตลักษณ์ของบัณฑิตรามคำแหง ที่มีความอดทน มุ่งมั่น รับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้ทำให้บัณฑิตรามคำแหงประสบความสำเร็จในทุกสายอาชีพ และหากเปรียบมหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นบุคคลผู้หนึ่ง บัดนี้มหาวิทยาลัยเป็นบุคคลผู้มีช่วงวัยที่สั่งสมประสบการณ์มาอย่างพร้อมสรรพ ดังนั้น การหลอมรวมประสบการณ์จากทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัย ล้วนมีส่วนนำพามหาวิทยาลัยให้มีพัฒนาการที่ต่อเนื่องยาวนาน ยืนหยัดเป็นมหาวิทยาลัยของสังคมและประชาชนตลอดระยะเวลา 5 ทศวรรษที่ผ่านมา”
อธิการบดี มร. กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการพัฒนามหาวิทยาลัยรามคำแหงในอนาคตว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีคณาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพและประสบการณ์พร้อมถ่ายทอดความรู้ทั้งในและนอกตำราเรียน รวมทั้ง ยังมีบุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่พร้อมจะดูแล อำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาในทุกๆ ด้าน มหาวิทยาลัยจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาพันธกิจหลักทั้ง 4 ด้านอย่างไม่หยุดยั้งทั้งด้านการเรียนการสอน วิจัย ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการบริการวิชาการแก่ชุมชน เพื่อตอบโจทย์ของโลกในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เห็นได้จากการปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนและการสอบในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่างๆ เข้ามาให้บริการและอำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษาได้เข้าถึงการเรียนและการสอบได้อย่างทั่วถึง
“มหาวิทยาลัยผลิตบัณฑิตเพื่อตอบโจทย์ของสังคมในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเห็นได้จากศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์และคณะนิติศาสตร์ ได้ออกไปสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างมากมาย รวมทั้งศิษย์เก่าจากคณะวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ และสื่อสารมวลชน ก็ได้จัดการเรียนการสอนและทำวิจัยที่มีชื่อเสียงให้กับหน่วยงานต่างๆ ด้วย เชื่อมั่นว่าในอนาคตจะสามารถพัฒนาองค์ความรู้ของนักศึกษาได้แบบรอบด้านและผลิตบัณฑิตครอบคลุมทุกศาสตร์แห่งการเรียนรู้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสังคมได้ในทุกมิติ พร้อมทั้งยกระดับมหาวิทยาลัยไปสู่สากล เพื่อเป็นที่พึ่งพาของคนทุกชนชั้นทุกอาชีพต่อไป”
ครับ ทั้งศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบัน และประชาคมชาวรามคำแหง ขอเชิญร่วมงาน วันสถาปนามหาวิทยาลัยรามคำแหง ครบรอบ 50 ปี จะมีการจัดงาน “5 ทศวรรษ รามคำแหงร่วมสร้างคน ร่วมสร้างประเทศ” ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ โดยทั่วหน้ากัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี