ในระยะตั้งแต่ปีใหม่มานี้ ชาวสื่อทั้งหลายทั้งที่เป็นสำนักมาตรฐานและภาคประชาชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับความเดือดร้อนทุกข์เข็ญของอาณาประชาราษฎรทั้งแผ่นดินอย่างต่อเนื่อง จนบางครั้งก็ต้องฉงนว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองของเรา เพราะเนื้อหาของข่าวนั้นส่วนใหญ่เป็นผลมาจากเหตุที่มีการข่มเหงประชาชนด้วยรูปแบบหลากหลายแตกต่างกันจนหลายเรื่องก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้
กรณีล่าสุดก็เป็นเรื่องกัญชา ซึ่งในประเทศไทยของเรานี้แทบไม่มีใครสักคนเดียวที่ไม่รู้ว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเปิดเสรีกัญชา และเพราะเรื่องนี้จึงทำให้พรรคภูมิใจไทยได้รับความหวังจากประชาชน ทุ่มเทกันลงคะแนนให้ จนพลิกสถานะของพรรคภูมิใจไทยให้เป็นพรรคขนาดกลางใหญ่ที่มีบทบาทในรัฐบาล
แต่ทว่านับจากวันนั้นถึงวันนี้การดำเนินนโยบายเรื่องกัญชาไม่ได้ไปถึงไหน ในขณะที่วงในของรัฐบาลได้ให้ข่าวให้สัมภาษณ์และขับเคลื่อนกรณีมากหลายที่ทำให้ประชาชนเชื่อว่ากำลังดำเนินนโยบายเสรีกัญชา จนเกิดความเชื่อขึ้นโดยทั่วไปว่าประชาชนสามารถปลูกและ
ใช้กัญชาได้
แต่ปรากฏว่าตลอดระยะเวลานับแต่ตั้งรัฐบาลมาจนถึงวันนี้ประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะปลูกกัญชาบ้าง เสพกัญชาบ้าง และส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องการปลูกกัญชา ทำให้เกิดความสับสนขึ้นในบ้านเมืองต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
บางเรื่องก็น่าอเนจอนาถและไม่คาดคิดว่าเหตุไฉนรัฐราชการจึงแล้งน้ำใจต่ออาณาประชาราษฎรถึงปานนี้ เพราะแค่มีใจเป็นมนุษย์อยู่บ้างก็ไม่มีทางที่จะเอาผิดดำเนินคดีได้
ยกตัวอย่างคดีเรื่องหนึ่ง พ่ออายุ 70 ปีเศษป่วยด้วยโรคมะเร็ง นอนรอความตายอยู่กับบ้านเพราะไม่มีเงินไม่มีหยูกยารักษา ไร้ผู้เหลียวแล โชคยังดีที่มีลูกชายอยู่คนหนึ่งได้ทราบข่าวว่ากัญชารักษาโรคมะเร็งได้ ก็ไปขอต้นกัญชาเขามาปลูก 6 ต้น เพราะเชื่อถือรัฐบาลว่าปลูกกัญชาได้โดยเสรี
ปลูกแล้วก็เอากัญชานั้นไปทำเป็นยารักษาพ่อที่ป่วยอาการหนัก ทำให้อาการค่อยๆ ดีขึ้น ทั้งพ่อทั้งลูกต่างก็มีความหวังว่าจะกลับมามีชีวิตปกติได้ เจ้าตัวลูกก็หวังว่าเมื่อพ่อหายป่วยแล้วก็จะไปหางานทำ หรือไม่ก็จะไปบวช แล้วจะรับพ่อไปอาศัยอยู่กับวัดพอได้พึ่งพาข้าวก้นบาตรพระหากินในวัยที่ทำมาหากินอะไรไม่ได้แล้ว
และแล้วความทุกข์ลำเค็ญก็ถาโถมเข้ามาเพราะเจ้าลูกชายถูกจับฐานมียาเสพติดร้ายแรงให้โทษในครอบครอง แล้วทำลายต้นกัญชาทั้งหมดเอาไปเป็นของกลาง เจ้าลูกชายถูกควบคุมตัวอยู่ก็ไม่มีใครดูแลพ่อที่ป่วยหนักและไม่มีกัญชารักษา อดอยากอยู่สองวันจนชาวบ้านทราบเรื่องก็แห่กันมาเอาข้าวปลาให้ตัวพ่อกิน เอายาแก้ปวดมาให้กินและช่วยกันประกันเจ้าลูกชายออกไป
ใครที่ทราบเรื่องนี้แล้วก็ล้วนสลดรันทดใจด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งเป็นวิสัยใจคนที่เป็นมนุษย์ที่ย่อมมีเมตตาอยู่กับใจเสมอ แม้กระทั่งคนใจไม้ไส้ระกำแท้จริงแล้วความเมตตานี้ก็ยังคงมีและตกตะกอนอยู่กับใจเสมอ เมื่อมีแรงกระเพื่อมมากขึ้น ความเมตตานั้นก็ฟุ้งขึ้นมาแล้วช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามประสาคนไทย
ชาวบ้านแห่กันไปช่วยคนป่วยมากเท่าใดก็รุมกันด่ารัฐราชการมากขึ้นเท่านั้น แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ยังคงเกิดขึ้นทั่วประเทศ และทุกครั้งที่มีข่าวคราวว่าคนของรัฐบาลแถลงข่าวเรื่องนี้ก็จะก็มีการจับใหญ่กันครั้งหนึ่ง เพราะเมื่อคนเชื่อถือก็แห่กันปลูกกัญชาและขายกัญชากัน ในที่สุดก็ถูกจับป่นปี้หมด
เหตุนี้ความคับแค้นใจต่อพรรคภูมิใจไทย ต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ยิ่งสถานการณ์เข้าสู่ทุกพรรคการเมืองต้องลงพื้นที่เพื่อเตรียมการเลือกตั้งครั้งใหญ่ พรรคภูมิใจไทยสัมผัสกับประชาชนแล้วก็แทบผูกคอตาย เพราะว่าไปถึงไหนก็ถูกด่าถึงนั่น สาปแช่งไปถึงรัฐบาลโดยรวมจึงเกิดความเดือดร้อน เพราะถ้าขืนเป็นอย่างนี้เลือกตั้งครั้งหน้านอกจากจะไม่ได้คะแนนเสียงแล้วก็อาจถูกชาวบ้านเอาน้ำร้อนไปสาดขับไล่ก็เป็นไปได้
ดังนั้น พรรคภูมิใจไทยจึงขับเคลื่อนเต็มกำลัง จนสามารถออกเป็นประมวลกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดและยกเลิกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดไปแล้วจากนั้นเลขาธิการพรรคก็ประกาศต่อทั่วประเทศว่าการปลูกและใช้กัญชาไม่ผิดกฎหมายแล้ว
ไม่ทันขาดคำก็ถูกสวนจากรัฐราชการว่าเป็นความเข้าใจผิด เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติด ใครปลูกยังต้องถูกจับเหมือนเดิม พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ระย่อท้อถอยยืนหยัดยืนยันว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว ถ้าใครถูกจับก็ให้ขอความช่วยเหลือไปที่พรรคภูมิใจไทยจะช่วยดำเนินคดีให้
ไม่ทันสิ้นคำก็ถูกสวนกลับอีกว่าผิดกฎหมาย ถ้าใครปลูกใครใช้จะต้องถูกจับดำเนินคดีไม่ไว้หน้า นี่คืออาการฮึกเหิมลำพองของรัฐราชการที่ไม่เห็นรัฐบาล นักการเมือง และประชาชนอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
ความจริงเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะได้ยืนยันความถูกต้องในเรื่องนี้ให้เป็นที่ประจักษ์แก่หูตาประชาชน อย่างน้อยก็จะได้ฟื้นคืนความเชื่อมั่นกลับมาบ้าง แต่กลับไม่มีสุ้มเสียงใดๆ จากนายกรัฐมนตรี และล่าสุดศาสตราจารย์วิชา มหาคุณ ขุนนางตงฉินของแผ่นดิน อดีตตุลาการที่เลื่องชื่อลือชาในความสัตย์สุจริต และอดีตกรรมการ ป.ป.ช. ก็ทนอยู่ไม่ไหว
ศาสตราจารย์วิชา มหาคุณ ได้อธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้องและออกความเห็นในเชิงชี้ขาดทางกฎหมายว่า ณ บัดนี้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอันเป็นของผิดกฎหมายอีกต่อไปแล้ว ตามประมวลกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดที่ตราใหม่ไม่มีที่ว่างให้กัญชาเป็นยาเสพติดอีกแล้ว
กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี แต่เพราะกรุงศรีอยุธยามีคนชั่วมากเกินไปจึงเป็นเหตุให้เสียกรุงศรีอยุธยา สถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้เรียกร้องต้องการให้บรรดาขุนนางตงฉินทั้งแผ่นดินและคนดีทั้งปวงได้ลุกยืนขึ้นเพื่อสำแดงความถูกต้องให้เกิดขึ้นกับบ้านเมืองให้จงได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี