เวลาได้ยินใครก็ตามบอกว่าต้องการให้สังคมไทยเป็นรัฐสวัสดิการ แล้วบอกได้คำเดียวว่า “อยากเห็นมากๆๆ” แต่ก็คงได้แค่อยากเห็นเท่านั้น เพราะโอกาสเป็นจริงนั้น ยากยิ่งกว่ายากแล้วก็น่าจะยากเสียจนไม่น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงในระยะเวลาสั้นๆ
เพราะอะไรรัฐไทยจึงไม่มีโอกาสเป็นรัฐสวัสดิการได้โดยง่ายตอบสั้นๆ ตรงประเด็นคือ คนไทยส่วนใหญ่เสียภาษีเงินได้น้อยมาก ซึ่งผิดหลักการของการเป็นรัฐสวัสดิการ เพราะรัฐสวัสดิการนั้นประชากรส่วนใหญ่ของรัฐต่างก็ต้องเสียภาษีเงินได้ ยกตัวอย่างเช่น สวีเดนมีผู้เสียภาษีเงินได้คิดเป็นจำนวนเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ แต่ของไทยนั้นมีผู้เสียภาษีเงินได้ยังไม่ถึง6 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น ขอให้เลิกฝันว่าไทยจะเป็นรัฐสวัสดิการเถอะเพราะเสียเวลาฝัน แต่หากใครจะยังเรียกร้องต่อไป ก็เชิญตามสบาย เพราะเป็นสิทธิ์ที่จะเรียกร้องได้ แต่ก็ขอให้รู้ไว้ว่า การเรียกร้องเช่นนี้ไม่ต่างไปจากการเรียกร้องให้คนที่เกิดมาเป็นเพศชายแล้วมีมดลูก หรือเกิดมาเป็นเพศหญิงแล้วต้องการมีอวัยวะเพศแบบบุรุษ
เหตุที่นำเรื่องนี้มาพูด (เขียน) ในวันนี้ ก็แค่เพียงต้องการเตือนสติคนที่กำลังถูกนักการเมือง (บางจำพวก โดยเฉพาะพวกโฆษณาชวนเชื่อ) และบรรดาคนที่กระสันจะเป็นสส.ที่มักจะพูดความไม่จริงกับประชาชนที่รู้ไม่ทันว่า ตนเองจะทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการ
ขอโทษเถิดนะที่ต้องบอกตรงๆ ว่าคนที่บอกว่าจะทำให้รัฐไทยเป็นรัฐสวัสดิการในเวลาอันรวดเร็วนั้น นับได้เป็นพวกที่พูดความไม่จริง และก็ต้องย้ำว่ารัฐสวัสดิการทั่วโลกนั้นต้องได้ภาษีเงินได้จากประชาชนส่วนใหญ่มาหล่อเลี้ยง ขอเน้นว่ารัฐสวัสดิการไม่ได้เกิดขึ้นด้วยการพ่นน้ำลายของนักการเมือง ยิ่งประเทศไทยมีคนเสียภาษีเงินได้น้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับประชากรทั้งแผ่นดินแล้ว ก็บอกตรงๆ ได้เลยว่า โอกาสเป็นรัฐสวัสดิการเป็นแค่เพียงเรื่องความฝันเท่านั้น
โลกนี้ไม่มีของฟรี ย้ำๆๆ และย้ำว่า โลกนี้ไม่มีของฟรี เพราะฉะนั้นเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ไม่จ่ายภาษีเงินได้ ก็ไม่ต้องหวังจะได้รับสวัสดิการที่ดีพร้อมและครบครันจากรัฐ เพราะรัฐบาลเองก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายเป็นค่าสวัสดิการต่างๆ ให้ประชาชน
หลายคนเพ้อไปว่าต้องได้รับบริการที่ดีจากรัฐ และต้องเป็นบริการดีที่ราคาถูก หรือฟรีด้วย เรื่องแบบนี้ไม่มีวันเป็นไปได้ เพราะรัฐบาลไม่มีปัญญาหาเงินมาแจกประชาชนอย่างแน่นอน การที่อยากจะได้โรงพยาบาลดีๆ โรงเรียนดีๆ ถนนหนทางดีๆ และการบริการที่แสนดีต่างๆ นานา จากรัฐบาลนั้น ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการจ่ายภาษีเงินได้เป็นอันดับแรก (แต่สำหรับประเทศไทยนั้น หลายคนก็บ่นตรงกันว่า จ่ายภาษีไปแล้ว แต่เงินภาษีถูกใครฉ้อฉลขโมยไปจนไม่เหลือสำหรับพัฒนาประเทศ)
คนที่เรียกร้องให้บ้านเราเป็นรัฐสวัสดิการรู้บ้างหรือไม่ว่าประเทศที่มีระบบรัฐสวัสดิการนั้น ประชาชนผู้มีรายได้ของเขาต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงมาก แต่ก็เป็นการเสียภาษีที่คุ้มค่าเพราะสุดท้ายแล้วเขาเหล่านั้นได้รับการบริการที่ดีมากจากรัฐบาล ซึ่งผิดกับสังคมไทย เพราะคนเสียภาษีเงินได้มีไม่ถึง 6 เปอร์เซ็นต์ แถมภาษีที่เสียไปก็ยังถูกฉ้อฉลไปอีก
ขอให้ดูข้อเท็จจริงเรื่องระบบการเสียภาษีต่างๆ ในประเทศยุโรปเหนือ เช่น นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก เป็นต้น แล้วจะรู้ว่าประชากรของเขา รวมถึงใครก็ตามที่เข้าไปอยู่ในประเทศเหล่านั้นต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงมาก เช่น ประชากรของเขาเสียภาษีเงินได้ในอัตราที่สูงถึงประมาณร้อยละ 60 ส่วนใครก็ตามที่เข้าไปท่องเที่ยวในประเทศเหล่านั้นก็ต้องจ่ายค่าสินค้าที่แพงมาก เพราะสินค้าที่ซื้อนั้นได้รวมภาษีเข้าไปเรียบร้อยแล้ว เช่น บางคนตั้งคำถามว่าทำไมราคา Fast Food ในประเทศเหล่านั้นแพงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันตกด้วยกัน ทั้งๆ ที่เป็นอาหารขยะ ก็ตอบได้สั้นๆ ว่าเพราะรัฐบาลเก็บภาษีแพง เพื่อนำเงินไปทำรัฐสวัสดิการ แล้วรัฐสวัสดิการของเขาก็ทำหน้าที่บริการประชาชนได้อย่างดี ผิดกับประเทศไทยที่เสียภาษีไปแล้ว แต่ได้รับบริการจากรัฐบาลที่แสนจะน่าสมเพช
สรุปว่าการเป็นรัฐสวัสดิการของไทยนั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยง่าย หากจำนวนผู้เสียภาษีเงินได้ยังน้อยนิด แล้วยิ่งมาประสบพบเจอการฉ้อฉลสารพัดชนิดจากทั้งนักการเมืองบางจำพวก กับข้าราชการบางชนิดด้วยแล้ว ก็บอกได้คำเดียวว่าเรื่องรัฐสวัสดิการในบ้านเราคือฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี