“กองพันอาซอฟ (AZOV)” แห่งเมือง “มาริอูโปล”ของยูเครนนั้น ถูกรัสเซียระบุว่าเป็น “กองพันนีโอนาซี” ที่ได้ปฏิบัติการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวรัสเซียใน “รัฐโดเนตสก์และรัฐลูฮันสก์” ที่อยู่ในประเทศยูเครนมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2014 จนถึงปัจจุบันตายไปถึง 15,000 ราย ซึ่งเป็น “เงื่อนไข” ที่รัสเซียใช้อ้างในการ “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” บุกยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา

ปรากฏว่า “กองทัพอาซอฟ” ในเมืองมาริอูโปลได้ต้านกองทัพรัสเซียไว้ได้อย่างยาวนานมากว่าสองเดือนแล้ว แม้รัสเซียจะยิงถล่มจนมาริอูโปลยับเยินไปทั้งเมืองและปิดล้อมเมืองไว้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่ก็ยัง “กวาดล้าง” กองทัพอาซอฟที่ยึด “โรงงานเหล็กอาซอฟสตอล” เป็นที่หลบภัยไม่ได้

เหตุที่ “กวาดล้างไม่ได้” เพราะโรงงานเหล็ก“อาซอฟสตอล” ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสลับซับซ้อน ลึกลงไปในใต้ดินหลายชั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ “หลบภัยสงครามนิวเคลียร์” ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากทหารรัสเซียจะลุยเข้าไปกวาดล้างกองทัพอาซอฟ ก็จะพบกับความสูญเสียชนิด “ไม่คุ้ม”

นอกจากนั้น ในโรงงานเหล็กดังกล่าว ยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมาก ใช้เป็นที่หลบภัยสงคราม จนกลายเป็น“โล่มนุษย์” อีกต่างหาก

หลังจาก ยูเอ็น ยูเครน และรัสเซีย ได้ร่วมกันเห็นชอบให้มีการอพยพประชาชนออกจากโรงงานเหล็กจนหมดสิ้น
ก็ถึงเวลาที่ทหารรัสเซียจะต้อง “ปิดจ๊อบ” กองพันอาซอฟ

ดังนั้น รัสเซียจึงได้เผด็จศึกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยการ “ยิงระเบิดฟอสฟอรัสขาว” เข้าไปในชั้นใต้ดินโรงงานเหล็ก จนทำให้รัฐบาลยูเครนยอมส่งสัญญาณให้กองพันอาซอฟในโรงงานเหล็ก “ยอมแพ้” เพื่อรักษาชีวิตทหารดังกล่าวเอาไว้

แล้วในที่สุด “กองพันอาซอฟ” หรือ “กองพันนีโอนาซี” ที่สุดแข็งแกร่งก็ถูก “ปิดตำนาน”

ทหารที่บาดเจ็บหนัก 53 นาย ถูกส่งไปโรงพยาบาลในเมือง “โนโวอาซอฟ” ที่รัสเซียยึดครอง และอีก 211 ราย ที่ไม่บาดเจ็บ ถูกส่งไปเป็นเชลยศึกยังเมือง “โอเลนิฟกา”

แม้ “ตำนานกองพันนีโอนาซี” จะถูกปิดฉากไปแล้ว และเมืองมาริอูโปลถูกรัสเซียยึดไว้อย่างบริบูรณ์
“แต่หนังสงคราม” เรื่องนี้ยัง “ไม่จบ”

จะมีปฏิบัติการ เฟส 3 และเฟส 4 ตามมาหรือไม่? โปรดติดตาม

กมลศักดิ์  ตั้งธรรมนิยม