รัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาภายใต้การนำพาของนายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ประกาศเมื่อไม่นานวันมานี้ว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 28 ธันวาคม 2568 นี้ ซึ่งหากดูผิวเผินก็เสมือนว่ารัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมามีความประสงค์ที่จะคืนประชาธิปไตยให้กับชาวเมียนมา และประเทศของเขา
แต่หากมองลึกๆ ลงไปแล้ว ก็เป็นเพียงความคิดอ่านที่แสนจะเลวร้าย และลวงโลกของฝั่งเผด็จการเท่านั้น นั่นก็ด้วยว่า ประเทศเมียนมายังอยู่ในสภาวะสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหาร กับฝ่ายประชาธิปไตยที่ประกอบด้วยทุกชาติพันธุ์และทุกชนชั้นของเมียนมา และฉะนั้นจะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วประเทศท่ามกลางการสู้รบก็ดูกระไรอยู่
อีกทั้งปัจจุบัน ฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารสามารถควบคุมพื้นที่ประเทศเมียนมาได้เพียงแค่ร้อยละ 30 เท่านั้น ซึ่งเมื่อฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์และไม่สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศได้ แล้วจะไปมีขีดความสามารถ และพละกำลังในการจัดการเลือกตั้งทั่วไปได้อย่างไร? มันจึงเป็นเรื่องเพ้อฝัน และไม่สมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง
ในการนี้ประเทศไทยโดยรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ต้องออกมาประกาศให้แน่ชัดว่า จะสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาในเรื่องการจัดการเลือกตั้งทั่วไปหรือไม่? อย่างไร?หากมองไปรอบๆ จะพบว่าบรรดาผู้ฝักใฝ่ในระบอบประชาธิปไตยทั่วโลก และบรรดาผู้ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ ก็ได้ออกมาต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมา และคัดค้านการจัดการเลือกตั้งทั่วไปดังกล่าว เพราะสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย อีกทั้งรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาภายใต้การนำพาของนายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ขาดความถูกต้องชอบธรรม เป็นรัฐบาลที่ผิดกฎหมาย เพราะได้ทำการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยของเมียนมา ด้วยการทำการปฏิวัติรัฐประหาร แล้วจู่ๆ ก็จะมาเสแสร้ง ทำตัวเป็นนักประชาธิปไตย ด้วยการประกาศจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปดังกล่าว จึงพอกล่าวได้ว่า หากผู้ใดเห็นชอบกับความเจ้าเล่ห์เพทุบายของนายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย และคณะนายทหารเมียนมา ก็คงจัดได้ว่าเป็นพวกไร้สติและเป็นพวกอำนาจนิยมและไร้มนุษยธรรม เพราะไม่คำนึงถึงความโหดร้ายทารุณของฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ประเทศไทยอยู่ในครรลองของสังคมประชาธิปไตย และคณะรัฐบาลชุดนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องมีจิตมีใจให้กับอุดมการณ์ประชาธิปไตย แล้วจะต้องมีมิตรไมตรีและยืนอยู่ในฝั่งเดียวกับฝ่ายประชาธิปไตยของเมียนมาทั้งหลายทั้งหมดจะเป็นอื่นมิได้
ฉะนั้น รัฐบาลนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล จะต้องออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งทั่วไปที่ประเทศเมียนมาในวันที่ 28 ธันวาคม นี้ และในขณะเดียวกันก็ต้องร่วมมือกับมิตรประเทศอาเซียนในการให้มีการยุติการสู้รบในเมียนมา และอำนวยให้ฝ่ายเผด็จการและฝ่ายประชาธิปไตยเมียนมาได้มาพบปะกันที่โต๊ะเจรจา เพื่อหาทางออกให้กับเมียนมาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะการเห็นพ้องต้องกันในเรื่องการเป็นสหพันธรัฐประชาธิปไตย
ทั้งนี้ ตลอดประวัติศาสตร์ของเมียนมาเมียนมาก็ไม่สามารถรวมกันเป็นประเทศหนึ่งเดียวกันได้ แม้กระทั่งอังกฤษเจ้าอาณานิคมก็ไม่ประสบความสำเร็จในการที่จะให้ชนชาติพันธุ์ต่างๆ ของเมียนมา รวมกันเป็นประเทศหนึ่งเดียวได้ อีกทั้งความเพียรพยายามของชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดคือ ชนชาติพันธุ์พม่า ก็ไม่สามารถครอบงำชนชาติพันธุ์อื่นๆ ได้ (Burmanization) ทั้งๆ ที่มีความเพียรพยายามตั้งแต่เมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษ หลังการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยรัฐบาลทหารชนชาติพันธุ์พม่า ฉะนั้นฝ่ายชนชาติพันธุ์พม่า ก็ควรที่จะต้องยุติความคิดของการที่จะครอบงำชนชาติพันธุ์อื่นๆ และคบหาสมาคม และร่วมกันสร้างประเทศเมียนมาบนพื้นฐานของความเสมอภาคและทัดเทียมกันภายใต้การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้แล้ว
ประเทศไทยนั้นอยู่ในวิสัยที่จะยื่นมือช่วยเหลือให้ประเทศเมียนมาเป็นประเทศสังคมแห่งประชาธิปไตยได้ โดยจะต้องยุติความเกรงอกเกรงใจ หรือเกรงกลัวรัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาใดๆ ทั้งสิ้นแล้วเอาความปรารถนาของชาวเมียนมาทุกหมู่เหล่าที่ต้องการมีชีวิตอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ตั้ง
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี