อย่าลืม : อย่าบิดเบือนประวัติศาสตร์ รัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ที่ทำให้ชาติบ้านเมือง พ้นมหาภัยจาก“ระบอบเผด็จการรัฐสภา ทุนสามานย์ทัก” ที่โกงชาติ ปล้นประชาชน
ใช้อำนาจมิชอบเพื่อตนเองและครอบครัวพวกพ้อง ซึ่งขัดหลักนิติธรรม ขัดรัฐธรรมนูญ
l การโกหก ป้ายความผิดของตนให้ผู้อื่น นอกเหนือจากการใส่ร้ายป้ายสี รัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗
1.อดีตนายกฯชวน หลีกภัย ยืนยันในหลักการประชาธิปไตย ว่า
“โดยส่วนตัว ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร” และคัดค้านมาตลอด แต่ “การรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗” มีความจำเป็นและเป็นผลดี ต่อการกอบกู้สถานการณ์ที่เลวร้ายในยุคยิ่งลักษณ์นอมินีทัก ที่ทำกับประชาชนและประเทศชาติ “และที่เป็นหลักสำคัญ”คือ “การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นระบบและกระบวนการ” ที่ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใด กระทำเช่นนี้มาก่อน
@ กรณี “แกนนำเสื้อแดง ความผิดมหันต์ต่อบ้านเมือง ในปี ๒๕๕๒ และ ๒๕๕๓” ข้อเท็จจริงหลังเหตุการณ์ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ที่แกนนำจนมุม ก่อนยุแหย่คนเสื้อแดงให้เผาบ้านเผาเมืองทุกคน ถอดใจหมดแล้ว และคิดว่า “อนาคตนี้คงจบแค่นี้”
แต่เพราะใคร? ที่ทำให้ ธาริต เปลี่ยนสี เกิดการเปลี่ยนแปลงคดี จนทำให้สำนวนอ่อนลงและทำให้แกนนำบางส่วน พ้นความผิดมหันต์ มาลอยหน้าลอยตา อยู่ในทุกวันนี้ และหลังจากนั้น “ธาริต” กลายเป็นผู้ต้องหา ถูกศาลตัดสินจำคุก ถูกยึดทรัพย์ ไปหลายร้อยล้านบาท “เพราะอะไร? ทำไม?”
2.วาทกรรม ที่รองนายกฯวิษณุตอบนิ่มๆ ต่อ“ทักนักโกหกระดับชาติ”
ที่หวังเอาตัวรอดเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยการป้ายสีรองนายกวิษณุ จากการทำผิดของนายกฯทักฯ “วิษณุ” เชือดนิ่มๆ “ทักษิณ” ข้าวก็โยน “บุญทรง” บ้านเอื้ออาทรก็โยนให้ “วัฒนา” นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว ท่านเป็นหัวหน้ารัฐบาล ตนเป็นรองนายกฯก็คิดกันเอง
“ไม่มีรัฐบาลไหนหรอก ที่ให้รองนายกฯลุกขึ้นมาทำโน่นทำนี่ โดยที่หัวหน้ารัฐบาลไม่รู้เรื่อง”....เขียนเล่าเอาไว้ในหนังสือ
“โลกนี้คือละคร” ขอให้ลองไปดูในนั้นมีหมดทุกเรื่องที่ทำให้สังคมได้ตระหนักถึงความเลวร้ายของระบอบทุนมานย์ ที่นอกจากโกงกิน ใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภากระทำการเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ครอบครัวและพรรคของตน
3.กรณี การแก้ตัวของ แกนนำเสื้อแดง ที่บุกไปทำลายการประชุมอาเซียน ที่พัทยา ปี ๒๕๕๒ และการนำชาวเสื้อแดงมาปิดล้อมเมือง ยิง ๗๙ ใส่ทหารประชาชน บุกเข้าไปใน รพ.จุฬาฯที่สมเด็จพระสังฆราชอาพาธ นอนรักษาตัวอยู่ และที่ชั่วช้าสามานย์ คือ การเผาบ้านเผาเมือง ฯลฯ ในปี ๒๕๕๓
4.ตั้งแต่ปี’54 (รัฐบาลยิ่งลักษณ์ นอมินีทัก) โครงการจำนำข้าว ขาดทุน 9.5 แสนล้านบาท
รัฐบาลชุดนี้ตั้งงบประมาณชำระหนี้ไปแล้ว 7.8 แสนล้านบาท คงเหลือเงินต้นและดอกเบี้ยอีก 3 แสนล้านบาท
หนี้กว่า ๙ แสนล้าน แยกประเภทเป็น
-ใช้หนี้ชาวนา/ค่าข้าวเปลือกตามใบประทวน กว่า ๘.๘๔ แสนล้านบาท
-ค่าบริหารโครงการขององค์การคลังสินค้า (อคส.)
-องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)
-ค่าภาระดอกเบี้ย
-ค่าเช่าคลังของเอกชนเก็บรักษาข้าว
-ค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก ๘.๔ หมื่นล้านบาท
-รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ๙.๖๘ แสนล้านบาท
หนี้ก้อนนี้ แยกเป็น ๒ ส่วน ส่วนหนึ่ง เป็นหนี้ที่รัฐบาลต้องชดใช้ ธ.ก.ส. อีกส่วน เป็นหนี้จากออกพันธบัตรรัฐบาลของ “สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ” (สบน.)
ตั้งแต่ปี ๒๕๕๘ เจียดเงินงบประมาณชำระหนี้ให้ ธ.ก.ส. รวม ๔๔๙,๖๖๙ ล้านบาท หนี้คงค้างปีการผลิต ๒๕๕๑/๕๒- ๒๕๕๖/๕๗ (ณ ๓๑ ธ.ค.๒๕๖๓) วงเงินรวม ๒๓๑,๓๐๘ ล้านบาท สบน.ประมาณการ กว่าจะให้หนี้จำนำข้าวยิ่งลักษณ์ได้ต้องใช้เวลาอีก ๑๐ ปี (๒๕๖๕-๒๕๗๔) หรือปีละ ๒๓,๐๐๐ ล้านบาท! นี่เป็นหลักฐาน ที่ปรากฏชัดเจน (แค่ส่วนหนึ่ง) ที่แสดงชัดว่า “หากปล่อย ให้ระบอบทุนสามานย์ทัก” อยู่ต่อไป บ้านเมืองไทยและประชาชน คงจะต้องรับเคราะห์กรรมอย่างแสนสาหัสคณานัปการ
l มีเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่เป็นเป้าหมายของ “กระบวนการทุนสามานย์ทักและแนวร่วมของเขา” คือ “การทำลายความชอบธรรม ของการรัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗” ตามตรรกะง่ายๆ คือ “เมื่อมี ๒ สิ่ง มาเปรียบเทียบกัน ระหว่าง สิ่งที่ดีและสิ่งไม่ดี” จะทำให้ “สิ่งที่ไม่ดี ไม่ชอบธรรม” กลายมา “เป็นสิ่งที่ดี ชอบธรรม” ได้คือ “การสร้างวาทกรรม กล่าวหา ทำลายและโยนบาป ให้แก่อีกสิ่งหนึ่ง” ซึ่งการโยนบาป (ที่ตัวเองน้องสาวและพวกพ้องฯ) ทำไว้ให้กับคนอื่นๆ
พฤติกรรม ที่พวกเขาสร้างและทำ
๑.การสร้างกระบวนการ ว่า “พวกเขาเป็นประชาธิปไตย” และกล่าวหาว่า “รัฐบาลลุงตู่เป็นเผด็จการ” โดยการกระทำอย่างเป็นระบบ อาศัยสื่อ นักวิชาการ ล็อบบี้ยิสต์ ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ นักการเมืองของพรรคเขาและแนวร่วม รวมทั้งมวลชนที่ขาดความรู้
๒.การหยิบยกข้ออ่อน หรือข้อจำกัด ในการปฏิรูปประเทศ ของรัฐบาลลุงตู่ มากล่าวเหมารวมว่า “นี่คือ ความผิด ความล้มเหลวของการบริหารประเทศของรัฐบาลลุงตู่”
๓.ละเลย หรือ ลด รวมทั้งการ “ไม่กล่าวถึงความผิดของการบริหารที่โกง ฉ้อฉล ใช้อำนาจมิชอบของพวกเขา ที่ทำให้ประชาชนและประเทศชาติเสียหายมหาศาล และเสียประโยชน์มากมายบางครั้ง กลับแก้ตัว ว่า “พวกเขาเป็นคนดี มีคุณธรรม ไม่ได้ทำผิด” แต่ถูก “กลั่นแกล้ง “โยนความผิดมาให้” ฉะนั้น ทั้งรัฐบาล ข้าราชการ นักการเมืองฝ่ายรัฐบาล รัฐสภา และกระบวนการยุติธรรมรวมทั้งศาลและศาลรัฐธรรมนูญ ที่พิพากษาว่า “ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และพรรคพวก” มีความผิดเป็นการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม และบางครั้งก็มีการโยนความผิดไปให้เบื้องสูงฯ
๔.สร้างเรื่อง และตัดตอน ในเรื่องที่สำคัญ เพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชนและเยาวชน เช่น
(๑) รัฐประหาร คือ ความเลว ความไม่ดี โดยไม่กล่าวถึงเนื้อหา และที่มาของการรัฐประหารของประเทศไทย
-ที่มีทั้งชอบธรรม เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เช่น กรณี ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ และ
-การรัฐประหารที่มิชอบธรรม เพื่อรักษาอำนาจมิชอบของตนเอง เช่นเดียวกับ “รัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้งทั่วไป” ซึ่งมีทั้งดี และเลว เช่น รัฐบาลของทักษิณและนอมินี รวมทั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่มิชอบธรรม โดยการตัดสินจากศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาแผนกคดีนักการเมือง ฯลฯ
(๒) รัฐบาลลุงตู่ ๒๕๖๒ มาจากอำนาจเผด็จการ รัฐประหาร ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ทั้งที่ ความจริง ผ่านการเลือกตั้งทั่วไปที่มาจาก “รัฐธรรมนูญ ฉบับลงประชามติ ๒๕๖๐”
(๓) นำเอา “การที่คนบางคน บางส่วน” ที่เข้าร่วมขบวนการประชาชน ทั้ง พันธมิตร และ กปปส. ที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะไปเข้าร่วมกับขบวนการเสื้อแดง หรือ พรรคอนาคตใหม่ หรือ พรรคก้าวไกลไม่พอใจ ที่ ขบวนการประชาชนดังกล่าวนั้น ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการปฏิรูปสังคมไทย
l ความเป็นจริงในเรื่อง “การปฏิรูปใหญ่ของประเทศให้เป็นประชาธิปไตย” คืออะไร? อย่างไร?
1.การปฏิรูปใหญ่ของประเทศให้เป็นประชาธิปไตยนั้น
ต้องมีการเปลี่ยนใหญ่ที่โครงสร้างและระบบของสังคมที่เหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมซึ่งจักทำได้ โดย
๑.การปฏิวัติ หรือปฏิรูปใหญ่ของประชามหาชน เฉกเช่น ประเทศจีน ฯลฯ ได้ทำมา
๒. การปฏิรูปใหญ่ ที่มีการนำของรัฐบุรุษ และมีกำลังของทุกฝ่ายในสังคมไทยทหาร ตำรวจ ข้าราชการ พลเรือน นายทุนนักวิชาการ ภาคประชาชน ที่ก้าวหน้า มีคุณภาพ เข้าร่วม
๓.ระบอบการเมืองไทยในปัจจุบัน หรือ ระบอบการเลือกตั้งทั่วไป (ที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม) เสื่อมทรุด ไม่ได้รับการยอมรับ และถูกปฏิเสธจากประชามหาชน
๔.เกิดวิกฤตใหญ่ของประเทศ ที่ไม่สามารถเดินต่อไปได้แล้ว จำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่
2.การปฏิรูปใหญ่ของประเทศนั้น ยังไม่มีรัฐบาลไหนทำได้ รวมทั้ง รัฐบาลทักและนอมินี ซึ่งนักวิชาการ และนักการเมืองที่มีคุณธรรม รู้ดี
แต่ระบอบทุนสามานย์ทัก นักการเมืองฝ่ายค้าน(แค้น)และนักวิชาการสายแดง ฯลฯ ไม่ยอมกล่าวความจริง มิหนำซ้ำ กลับมาบิดเบือน สร้างภาพที่ผิด โดยมีวัตถุประสงค์มิดีมิร้ายต่อรัฐบาลุงตู่ โดยอาศัยการสร้างกระแสที่ปล่อยความเท็จ ใส่ร้ายให้ร้ายคนอื่น และเอาดีใส่ตัว ด้วยอำนาจทุน (ที่โกงชาติบ้านเมือง) สื่อ นักวิชาการ และเครือข่ายบริวารของทักฯ น่าเศร้า นะครับ
l สุดท้าย อยากบอกถึง “พวกเรากันเอง” เกี่ยวกับทัศนะการมองปัญหา
๑.ปัญหาของประชาชนและบ้านเมือง มันใหญ่เกิดสะสมกันมายาวนาน จากระบบและโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำ ไม่เสมอภาคเป็นธรรม
๒.การแก้ไขให้ได้ผลจริง คือ ต้องปฏิรูปใหญ่ ด้วยพลังอำนาจของทุกฝ่ายที่รักและปรารถนาดีต่อบ้านเมืองซึ่งเรายังไปไม่ถึง ทั้งด้วย ศักยภาพ ความคิด เงื่อนไข และพลังการเปลี่ยนแปลงแต่สังคมไทย โดยภาพรวม ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ ที่ประชาชนยังอยู่ได้มีสุข ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่สะสมในระบบ จากผู้นำที่ใช้ได้
๓.ความคิด ที่จะเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว ให้เกิดผลทันที มิใช่ของจริงและทำให้เราไปติดยึด และเมื่อมีอะไรไม่สบอารมณ์ ก็ไปกล่าวหา “รัฐบาลที่ดี” รวมทั้ง ความคิดที่ผิด คิดว่า “รัฐบาลลุงตู่”มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ทำไม ไม่ทำในบางเรื่องเช่น การช่วยเหลือ “แกนนำพธม. กปปส. ที่ต่อสู้กับระบอบทักมาด้วยกัน” เพราะรัฐบาลฝ่ายบริหาร เป็นเพียงหนึ่งใน ๓ อำนาจใหญ่ แต่ยังมี รัฐสภา(ฝ่ายนิติบัญญัติ) และฝ่ายตุลาการ อีกทั้งยังมีระบบอำนาจของข้าราชการ ทุนใหญ่ ทุนสามานย์ นักวิชาการ และสื่อที่แอบแฝงของฝ่ายมีอำนาจอื่น
๔.เราในฐานะพลเมือง ที่มีคุณภาพ ต้องร่วมมือร่วมใจร่วมคิด ด้วยสติปัญญามองปัญหาจากสภาพความเป็นจริง มองภาพรวมเช่น ในส่วนของรัฐบาลลุงตู่ ทำได้ดีพอควร แม้ยังมีอีกหลายเรื่องยังแก้ไม่ได้ แต่โดยเปรียบเทียบแล้ว ยังดีกว่ารัฐบาลอีกหลายรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลนอมินีทัก
@ เราต้อง คิดบวก สร้างสรรค์ ทำสิ่งที่งดงามให้แก่สังคมและบ้านเมืองเริ่มจากตัวเอง ทำด้วยความรักชาติบ้านเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี