ยิ่งใกล้ครบกำหนดเวลา 8 ปี ของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเข้ามาเท่าใด ขบวนการปั่นกระแสสร้างความสับสนเพื่อดิ้นรนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในอำนาจต่อไปก็ยิ่งคึกคักจนวุ่นวายไปทั้งบ้านทั้งเมือง
เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เป็นเรื่องเอาบ้านเมืองมาเป็นของเล่น เนื่องจากแต่ไหนแต่ไรมาไม่ว่าจะยุคประชาธิปไตยหรือเผด็จการก็ไม่เคยมีใครหาญกล้าเอารัฐธรรมนูญมาเหยียบย่ำทำเป็นของเล่นเช่นวันนี้เลย
แต่แรกเริ่มเดิมทีที่ยึดอำนาจนั้นก็คงหวังว่าจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในช่วงระยะเวลาไม่นานนักเช่นสมัยนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ก็ปีเศษ แม้ในสมัยพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ปีเศษเช่นเดียวกัน เพราะการเข้ามานั้นมีความตั้งใจว่าจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมืองเพื่อให้บ้านเมืองตั้งตัวเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้หวังยึดครองอำนาจเป็นของตัว
เพราะถ้าแสดงท่าทีว่าจะยึดบ้านยึดเมืองเป็นของตน ประชาชนทั่วประเทศก็จะไม่มีทางยอมรับ ถึงจะขัดแย้งขัดใจกันในแต่ละกลุ่มบ้าง ก็จะพร้อมใจกันวางความขัดแย้งนั้นลงมาขับไสไล่ส่งไล่กระทืบพวกยึดบ้านยึดเมืองเป็นของตัวเป็นแน่แท้ ดังนั้น จึงมีการพร่ำย้ำให้สัญญาว่าอีกไม่นานก็จะมีการคืนอำนาจให้แก่ประชาชน ซึ่งคนทั้งปวงก็หลงเชื่อ
แต่ครั้นนานวันก็ผันแปรเปลี่ยนไป คือเมื่อเป็นผู้บริหารตามรัฐธรรมนูญ 2557 ก็เริ่มคิดอ่านวางค่ายกลทางกฎหมายที่ฉ้อฉลปล้นสะดมอำนาจเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไปชนิดไม่อายฟ้าไม่เกรงดิน และได้ใช้อำนาจเด็ดขาดภายใต้ข้ออ้างว่าอีกไม่นาน อีกไม่นาน เพื่อมาสู่การร่างรัฐธรรมนูญ
แม้ในชั้นร่างรัฐธรรมนูญก็คงคิดว่าเวลาการเป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปี นั้นนานแสนนาน เพราะขนาดพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นขุนนางตงฉิน เป็นคนดีศรีแผ่นดิน แต่เมื่อครองอำนาจยาวนาน แม้ไม่เคยแย่งยึดอำนาจจากใคร ก็ถูกผู้คนชิงชังรังเกียจและพากันขับไล่ไสส่งจนก่อเกิดเป็นวิกฤตในบ้านเมืองหลายครั้ง จึงกำหนดในรัฐธรรมนูญให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีไม่ได้
ก็มุ่งหมายว่าถ้าอยู่ในอำนาจนานเกินไปคือเกิน 8 ปีก็จะเป็นเหตุแห่งวิกฤต ซึ่งได้มีการบันทึกเจตนารมณ์ในเรื่องนี้ไว้เป็นหลักฐานที่ไม่อาจผันแปรได้ ดังนั้น หลักการสำคัญในเรื่องนี้คือนายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งเกิน8 ปีไม่ได้ ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
เพราะความคิดในขณะนั้นคงเห็นว่า 8 ปีนั้นมากพอและก่อให้เกิดวิกฤตในบ้านเมือง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น ดังนั้น เพื่อป้องกันการบิดเบือนตีความไขว้เขวด้วยเล่ห์กระเท่เกี่ยวกับเวลาการดำรงตำแหน่ง 8 ปี จึงบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 254 ว่าให้การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนหน้าที่รัฐธรรมนูญ2560 ใช้บังคับ เป็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย
ซึ่งหมายความว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในสมัยแรกตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2557 ก็เป็นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย นั่นคือให้นับเวลาตั้งแต่การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเดือนสิงหาคม 2557 เป็นต้นไป ครบ 8 ปีเมื่อใดก็หมดวาระ สิ้นสุดอำนาจลงเมื่อนั้น
รัฐธรรมนูญมาตรา 158 มาตรา 264 และบันทึกเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้ชัดเจนทั้งอรรถะและพยัญชนะ ทั้งลายลักษณ์อักษรและโดยเจตนารมณ์ที่ได้บันทึกไว้เป็นเอกสารหลักฐานมั่นคง จึงไม่มีทางเอาสีข้างเข้าถูให้ถลอกปอกเปิกเหมือนที่พยายามทำกัน
นอกจากนั้น ก็เคยมีคดีเกี่ยวข้องว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคยถูกศาลพิพากษาลงโทษจะดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ได้ ซึ่งในคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญคดีนั้นปรากฏว่าอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรท่านนั้นเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกในขณะที่ยังไม่มีการใช้รัฐธรรมนูญ 2560 แต่ก็เห็นว่าเมื่อมีกรณีรัฐธรรมนูญบัญญัติว่าเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้ถูกจำคุกมาก่อนที่รัฐธรรมนูญ 2560 ใช้บังคับ ก็ต้องด้วยกรณีต้องห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวแล้ว
ดังนั้นจึงตัดสินให้พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันประจักษ์ชัดว่าบรรทัดฐานแห่งการตีความในเรื่องนี้มีชัดเจน ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้
มีขบวนการไสยศาสตร์ทางกฎหมายที่เดิมทีจะตั้งเล่ห์ตีความว่าอายุเวลา 8 ปี จะเริ่มต้นเฉพาะตามรัฐธรรมนูญ 2560 คือหลังเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่สองแต่ความคิดนี้ทั้งเชยทั้งเฉิ่มและเลอะเทอะสิ้นดี ไม่มีใครยอมรับได้ จึงตกไป
จากนั้นก็มีพวกหัวหมอเจ้าเล่ห์ที่ดิ้นรนหาทางให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป จะใช้วิธีดื้อตาใส คือจะอยู่เป็นนายกรัฐมนตรีไปอย่างนี้ใครจะทำไม หากใครเห็นว่าพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ให้ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญกันเอาเอง
เป็นเรื่องวิปริตเต็มที เพราะถ้าประชาชนอ้างแบบนี้และกระทำการทั้งหลายตามอำเภอใจ ไม่คำนึงว่าผิดกฎหมายหรือไม่ โดยใช้เหตุผลว่าใครเห็นว่าผิดกฎหมายก็ให้ไปฟ้องศาลกันเอาเอง บ้านเมืองจะไม่เป็นจลาจลกลียุคหรือ นี่ต้องถือว่าเป็นความคิดที่บัดซบที่สุดในแผ่นดิน
ต่อมาก็มีพวกเสกเป่าอาคมเล่ห์กฎหมายออกความคิดอีกว่า การบังคับใช้กฎหมายนั้นต้องเริ่มแต่วันที่ประกาศใช้ เมื่อรัฐธรรมนูญมาตรา 158 เพิ่งประกาศใช้ในปี 2560 จึงไม่นับเวลาก่อนปี 2560 ในเวลา 8 ปีซึ่งเชยและเฉิ่มเหมือนกัน เพราะลืมไปว่ามีมาตรา 264บัญญัติกำกับไว้ว่าให้เป็นการดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ2560 ด้วย เรื่องนี้ก็ตกไปอีก
ล่าสุดมีการอ้างอิงฐานะอดีตผู้พิพากษาว่าวาระ 8 ปีนั้นจะใช้บังคับสำหรับนายกรัฐมนตรีที่ต้องมีการเสนอชื่อในขณะมีการประกาศรับสมัครรับเลือกตั้ง และต้องเลือกโดยรัฐสภาที่มี สว.ชุดนี้เป็นผู้เลือกด้วย ดังนั้นการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนหน้านี้มิได้มีการเสนอรายชื่อและมิได้มีการเลือกโดย สว. ในรัฐสภา จึงไม่นับเป็นวาระ 8 ปี
ความเห็นนี้ต้องถือว่าเชยที่สุด เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 158 บัญญัติไว้ชัดเจนและยังกำกับไว้ด้วยมาตรา 264 ให้ถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ 2560 เช่นเดียวกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี