“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้รู้ทันเล่ห์นักเลือกตั้ง, สัมภเวสี อย่างเท่าเทียม”...
nn เริ่มต้นด้วยความประทับใจและความภาคภูมิใจในฐานะที่ท่านทั้งหลายคือตัวแทนประชาชนชาวไทย ตัวแทนประเทศไทยที่ได้แสดงศักยภาพอันทรงคุณค่าทางการกีฬา แม้ว่าร่างกายและองค์ประกอบอื่นๆ จะไม่สมบูรณ์ 100% เฉกเช่นผู้คนทั่วไปในสังคมไทย แต่การประกาศศักดาในมหกรรม “กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ 2020” จากนักกีฬาที่ไปร่วมการแข่งขันในฐานะตัวแทนประเทศไทยจำนวน 310 คนนั้นสามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ 116 เหรียญทอง 111 เหรียญเงิน 90 เหรียญทองแดง เป็น
อันดับสองรองจากเจ้าภาพอินโดนีเซีย ... จำได้ว่าก่อนจะเดินทาง “การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)” สำรวจความพร้อมและคาดหวังความเป็นเลิศในมหกรรมกีฬาครั้งนี้ว่าจะได้ 70 เหรียญทองเท่านั้น แต่ที่น่าเสียใจและต้องส่งเสียงให้รัฐบาล “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้นำประเทศสมควรก้มลงมามองนักกีฬาเหล่านี้อย่าให้ต่างไปจากนักกีฬาซีเกมส์หรือนักกีฬาคนปกติอื่นๆที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ... “ไม้หน้าสาม”เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าเงินรางวัลค่าตอบแทนเหรียญรางวัลที่กกท. กำหนดเป็นระเบียบนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตของเขาเหล่านี้มีความสุขสบายมากขึ้น ทว่าการดูแลเอาใจใส่ด้านต่างๆ ทั้งสุขภาพความเป็นอยู่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของประเทศได้ไม่ยากเย็นนัก...
nn ต่อกันที่บรรยากาศการเมืองว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่คาดว่าจะมีขึ้นในปี 2566 ในขณะที่กฎกติกามารยาท (ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.) ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะการขาดวุฒิภาวะไร้สามัญสำนึกของนักการเมืองหัวหงอกหัวดำในรัฐสภาที่ไม่รู้หน้าที่ของตนจนองค์ประชุมไม่ครบ สภาฯล่มซ้ำซาก ล่าสุดนัดถกกฎหมายฉบับนี้ในวันที่10 สิงหาคม 2565 ดูกันว่า เมื่อทำงานโดยไร้ซึ่งผลประโยชน์ภารกิจนี้จะเสร็จสมบูรณ์กันหรือไม่...
nn วันก่อน “บิ๊กป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแบกสังขารพา “ลูกพรรคพลังประชารัฐ” บุกหนองคายขอคะแนนเสียงชาวบ้านทวงบุญคุณการบริหารจัดการน้ำ “ไม่แล้ง ไม่จน สร้างคน สร้างงาน” แถมประกาศชัดต่อจากนี้ไป “อีสานไม่มีแล้ง” มันจะเป็นจริงได้หรือ...
nn ทายาทสัมภเวสี“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยพาขุนพลพรรคเพื่อไทยลุยพื้นที่เชียงราย ประกาศเจตนารมณ์นำ “สัมภเวสีโทนี่ วู้ดซัม”กลับบ้านบนภาพลักษณ์อภิสิทธิ์ชนที่ไม่ต้องรับโทษทุจริตคอร์รัปชั่นตามกฎหมาย ขายฝัน “พรรคเพื่อไทยพร้อมจะเป็นรัฐบาล 6 เดือนแรก จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคมและระบบราชการ 6 เดือนต่อมาให้ประดารัฐมนตรีลงพื้นที่ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด (ฤๅจังหวัดไหนเลือกเพื่อไทยดูแลจังหวัดนั้นก่อน) ... ใช่ไหม!?!?! ภายใน 1 ปี หลังพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ปัญหาหลักทั้งหมดจะถูกแก้ไข คนไทยต้องหายจน” จะเป็นจริงงั้นรึ ทว่ามีทวิตข้อความในสื่อโซเชียลชื่อดังอย่าง “ทวิตเตอร์“ อยู่ข้อความหนึ่งว่า “นายกรัฐมนตรีต้องดูแลประเทศไทย ถ้าเลือก “หัวหน้าครอบครัว” เขาก็จะดูแลครอบครัวอย่างดี และคนแรกที่เขาจะดูแลอย่างดีคือพ่อของเขา เราสมควรเลือกอย่างนั้น” หรือ??? นี่แหละเรื่องจริง...
nn “ค่ายภูมิใจไทย” ก็เข้าท่า “หมอหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคนำทีมผู้สมัครและคีย์แมนพรรคบุกเมืองละโว้เปิดตัวทั้ง “มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช” อดีตสส. จากหลากหลายพรรคต้นสังกัด, นรินทร์ คลังผา บุตรชาย“อำนวย คลังผา”, “เกียรติ เหลืองขจรวิทย์” ในเขต 2-3-4 ตามลำดับส่วนเขต 1 ยังอยู่ระหว่างการคัดสรรผู้สมัคร ... อนุทินประกาศชัดเลือกภูมิใจไทยยกจังหวัดเอาเก้าอี้รัฐมนตรีไป 1 ที่นั่ง แถมไม่เกรงใจ “ลุงตู่” ประกาศนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเองหากได้โอกาส...
nn ยามนี้ที่น่าตระหนกตกใจสุดๆ น่าจะเป็นค่ายเก่าแก่ “พระแม่ธรณีบีบมวยผม-พรรคประชาธิปัตย์” พรรคอนุรักษ์นิยมสถาบันการเมืองเก่าแก่ที่มีแต่ข่าวเลือดไหลออกไม่หยุด แถมไปยังพรรคการเมืองใหม่ที่มีอดีตสส.ปชป.เป็นโต้โผอีกต่างหาก จนกลายเป็นคู่แข่งทางการเมืองที่น่ากลัว งานนี้เสียทั้งบุคลากร เสียทั้งฐานเสียง โอกาสจะดุนๆ ดันๆ “อู้ดด้า-จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” ขึ้นชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 5 ของพรรค ดูจะห่างไกลออกไปทุกทีอย่างนี้จะโทษใครได้นอกจากบุญ-กรรม สมควรตั้งสติไตร่ตรองแล้ว “ส่องกระจก” สักครั้งผิดพลาดตรงจุดไหนแก้ไขได้ก็น่าจะยังทันลุ้นเป็นนายกรัฐมนตรีกับเขาได้บ้าง...
nn ทิ้งท้าย “บุคคลแนวหน้า”ด้วย “สุนทรพจน์บุคคลระดับแนวหน้าของโลก-ท่านผู้นำสูงสุดสาธารณรัฐประชาชนจีน นายสี จิ้นผิง” ที่กล่าวไว้ในที่ประชุม “พรรคคอมมิวนิสต์จีน” ตอนหนึ่งว่า “น่านฟ้าและน่านนํ้าไต้หวันไม่มีอยู่จริง แต่ที่มีอยู่จริงคือน่านฟ้าและน่านนํ้าของจีนเท่านั้น และไต้หวันก็คือมณฑลหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ เฉกเช่นเดียวกับมณฑลไหหนาน ที่ตั้งอยู่นอกแผ่นดินใหญ่” ... สังคมโลกสมควรรับรู้และจดจำใส่สมองให้จงดี...
nn มีราษฎรชังชาติบางคนเอาความเป็นนักวิชาการครูบาอาจารย์มาปกปิดตนเอง วิจารณ์ภาพยนตร์ไทย “บุพเพสันนิวาส 2” ที่กำลังโกยรายได้เข้าสู่หลัก สี่ร้อยล้านบาทว่าส่วนสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นยากล่อมประสาท “ราชาชาตินิยม” เสียอย่างนั้น แต่ที่น่าตกใจบุคคลที่ว่านั้น เป็นนักวิชาการเป็นครูบาอาจารย์สอนในสถาบันอุดมศึกษา น่าห่วงใยสถาบันหลักของชาติที่ถูกบุคลากรแวดวงการศึกษาชังชาติเหล่านี้ย่ำยีจาบจ้วงจ้องทำลาย จึงไม่แปลกใจที่สมาชิกสามกีบเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างต่อเนื่อง “ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์” บอกว่า ... “ในสมัยของรัชกาลที่ 3 เป็นยุคทองของการค้าเรือสำเภากับจีน ความเฟื่องฟูของสังคมทำให้สังคมแบบไพร่เดิมค่อยๆ ผ่อนคลายกฎเกณฑ์ เพื่อจะขยับขยายให้ไพร่เข้ามาอยู่ในตลาดการค้ามากขึ้น หน้าตาสยามมีความเป็นจีนทั้งด้วยพระราชนิยม และชุมชนจีนที่ขยายตัวขึ้นมาก โดยเฉพาะความมั่งคั่งของชนชั้นนำในระดับกษัตริย์และขุนนางก็อู้ฟู่จากการค้าขายผูกขาด”...nn
"ไม้หน้าสาม"
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี