วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นกิจการที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล เป็นหลักหมื่นหลักแสนล้านบาท ดังนั้น เมื่อต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล ก็หมายความผู้ดำเนินธุรกิจจะต้องเร่งผลตอบแทนจำนวนมหาศาลที่จะกลับเข้าสู่กระเป๋าของผู้ลงทุน
ดังนั้นจึงไม่แปลกประหลาดที่จะพบว่านายทุนยักษ์ใหญ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงพยายามเข้าไปเก็บเกี่ยว
ผลประโยชน์จากธุรกิจการให้บริการระบบโทรคมนาคม ดังที่สาธารณชนในไทยได้ประจักษ์มาแล้วว่า ผลกำไรมหาศาลจากธุรกิจโทรคมนาคมได้ทำให้อดีตตำรวจยศพันตำรวจโทคนหนึ่งของไทยได้ผันตัวกลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของไทยในระยะเวลาที่ไม่นานนัก แล้วนอกจากนั้นยังได้ผันตัวเองไปเป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกด้วย
เมื่อพูดถึงการให้บริการระบบโทรคมนาคมของไทยก็จำเป็นต้องพูดถึงหน่วยงานแห่งหนึ่ง คือสำนักงานคณะกรรมการกิจการกำกับกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งอันที่จริงหน่วยงานนี้ดูแลและกำกับกิจการอื่นๆ ด้วย เช่น วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์
เรื่องราวความเป็นไปต่างๆ นานา ภายใน กสทช. นับเป็นประเด็นที่สาธารณชนต่างให้ความสนใจและจับตามองอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เนื่องจากมีประเด็นที่ทำให้สาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์เสมอๆ คือเรื่องความโปร่งใสภายใน กสทช. รวมถึงประเด็นผู้บริหารระดับสูงของ กสทช. ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าความพัวพันกับผู้มีอำนาจรัฐ ดังจะพบว่าในบางยุคนั้นผูู้บริหาร กสทช. ถูกคัดค้านอย่างหนักจากสังคม เนื่องจากมีปัญหาคุณสมบัติไม่ครบถ้วน บางรายมีปัญหาด้านพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ และบางรายก็มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย และบางรายก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีความเป็นตัวแทนหรือหุ่นเชิดหุ่นชักของนายทุนผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมอย่างชัดเจน
หลายต่อหลายครั้ง เมื่อวิญญูชนได้เห็นรายชื่อของบุคคลที่ถูกยัดหรือถูกผลักดันเข้าไปเป็นคณะกรรมการ กสทช. แล้วก็ได้แต่สมเพชประเทศไทย และสมเพชตัวเอง เหตุที่ต้องสมเพชก็เพราะชื่อของบุคคลบางคนที่ถูกดันเข้าไปเป็นกรรมการ กสทช. ไม่มีความน่าเชื่อถือ น่าศรัทธาแม้แต่น้อย เพราะบางรายไม่มีความน่าเลื่อมใส แถมยังมีภาพความเป็นข้าทาสบริวารของนายทุนและข้าทาสบริวารของผู้มีอำนาจรัฐอย่างเด่นชัด
หลายต่อหลายครั้ง เมื่อวิญญูชนได้เห็นชื่อของคณะกรรมการสรรหา กสทช. และเห็นชื่อผู้ถูกเสนอเป็น กสทช. แล้วก็ได้แต่กุมขมับ เพราะหดหู่ สิ้นหวัง และไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยว่า กสทช. บางคนจะสามารถรักษาผลประโยชน์สาธารณะได้ เนื่องจากพบว่า กสทช. บางรายมีความเป็นมา และมีพฤติกรรมที่สามารถกล่าวได้โดยตรงว่า แสดงออกซึ่งความเป็นข้าทาสของบริษัทเอกชนอย่างชัดเจน
อันที่จริง กสทช. มีพันธกิจสำคัญ คือการทำงานเพื่อรักษาและปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ แต่เมื่อดูการทำงานของ กสทช. ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกลับพบว่า กสทช. บางคนไม่เคยทำหน้าที่ปกป้องและรักษาผลประโยชน์สาธารณะแม้แต่น้อย จนทำให้เกิดคำถามตรงๆ ไปยังหน่วยงานหนึ่งใน กสทช. คือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ผู้บริโภคว่าเคยทำหน้าที่เพื่อผู้บริโภคบ้างหรือไม่ ขอย้ำว่าผู้บริโภคที่ กสทช. ต้องดูแลคือผู้ใช้บริการโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ) โทรศัพท์สาธารณะ และผู้ใช้บริการระบบอินเตอร์เนต และหน่วยงานใน กสทช. ที่มีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม คือสำนักรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม โดยมีหน้าที่คือกำหนดมาตรการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน (หรือผู้บริโภค) ไม่ให้ถูกผู้ประกอบการเอาเปรียบ และมีหน้าที่ส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคของประชาชนในการเข้าถึงการใช้ประโยชน์คลื่นความถี่และบริการกิจการโทรคมนาคม และรับรวมถึงพิจารณาเรื่องร้องเรียน และหาทางยุติข้อขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค
เราจะเห็นว่า กสทช. มีพันธกิจที่แสนสำคัญ แต่ก็มี คำถามเสมอๆ ว่าแล้ว กสทช. เคยทำหน้าที่ตามพันธกิจหรือไม่
คำถามที่สาธารณชนถามเป็นประจำคือ กสทช. ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคจริงหรือ หรือว่า กสทช. ได้ตั้งหน่วยงานใหม่แต่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนคือ หน่วยงานคุ้มครองนายทุนผู้ประกอบการ

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี