สี่สิบกว่าปีก่อนเคยแปลหนังสือเรื่อง A Man ผลงานของ ออเรียน่า ฟาลลาชี่ (Oriana Fallaci)โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า “กรงเล็บปีศาจ” ออเรียน่าเป็นนักข่าวประเภทวิเคราะห์เจาะลึก ชาวอิตาเลียนเธอเขียนเรื่อง A Man เพื่อรำลึกถึงชายคนหนึ่งที่รัก และ ศรัทธาในความเป็นนักสู้เพื่อเสรีประชาธิปไตย จนเกิดโศกนาฏกรรมชีวิต
ออเรียน่า เปิดฉากหนังสือด้วยภาพที่มีผู้คนนับแสนคนร่วมกันแห่แหนหีบศพของ“อาเลียคอส” ท่ามกลางเสียงสรรเสริญร่างในหีบศพเพื่อส่งวิญญาณนักต่อสู้เพื่อเสรีประชาธิปไตยไปสู่อ้อมแขนของพระเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับคำอาลัยว่า “ตอนที่ อาเลียคอส ยังมีลมหายใจหากมีคนแห่แหนเขามากมายอย่างนี้บางทีเราอาจยังเห็นรอยยิ้มของเขาอยู่ก็ได้”
A Man เรื่องราวของ อาเลียคอสนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยผู้หาญกล้านำประชาชนและแรงงานท่าเรือนับหมื่นๆ คน ให้หยุดงานร่วมเดินขบวนประท้วงต่อต้านจอมเผด็จการ “ปาปาโดปูลอส”แห่งกรีซ หนังสือเรื่อง A Man ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ที่มี โรเบิร์ต เรดฟอร์ต แสดงนำน่าเสียดายที่หนังสือแปลดีๆยี่สิบกว่าเล่มที่เก็บไว้ในหิ้งหนังสือทำด้วยไม้แผ่นหลังทับด้วยกระดานอัดอยู่นานหลายปี ลูกชายผู้หวังดีซื้อหิ้งหนังสือที่เป็นโครงเหล็กมาเปลี่ยนให้ แต่พอรื้อหนังสือออกมาแทบจะเป็นลมเมื่อพบว่า หนังแปลของผมที่เก็บไว้เรื่องละหนึ่งเล่มถูกปลวกกินมาจากข้างหลังจนเสียหายอ่านไม่ได้เกือบทุกเล่ม
นำเรื่อง กรงเล็บปีศาจ มาเล่าสู่กันฟังเพราะจำเค้าโครงเรื่องได้คร่าวๆ ว่า “อาเลียคอส” เป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย ที่มุ่งมั่นและมีอุดมการณ์มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงไม่หวั่นไหว เขาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จนถูกจับยัดเข้าคุกถึงสองครั้ง เมื่อได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระเขาก็นำประชาชน และคนงานนับหมื่นๆ คนประท้วงเผด็จการ “ปาปาโดปูลอส”ต่อไปไม่ย่อท้อ แต่คนที่ร่วมประท้วงกับเขาค่อยๆลดน้อยลงไป เนื่องจากว่าบางส่วนเริ่มท้อถอย บางส่วนก็เปลี่ยนใจ เพราะปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง
อาเลียคอส ถูกจับครั้งที่สอง และ ได้รับการปล่อยตัวออกมา เมื่อรัฐบาล ปาปาโดปูลอส จัดให้มีการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยครึ่งใบ ที่ฝ่ายสนับสนุนเผด็จการชนะเลือกตั้ง เมื่อมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งการประท้วงนำโดย อาเลียคอสก็ไม่ปังดังแต่ก่อน มีคนมาร่วมชุมนุมน้อยมาก เปลี่ยนจากการหลอมรวมของประชาชนกับแรงงาน กลายมาเป็นการประท้วงหรอมแหรม สุดท้ายเหลือเพื่อนร่วมอุดมการณ์เพียงไม่กี่คน
เมื่อถึงจุดนี้การจับกุมอาเลียคอส ก็ทำได้อย่างง่ายดาย ไม่มีมวลชนคอยปกป้องขัดขวาง การจับตัวอาเลียคอสครั้งสุดท้าย เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตั้งข้อหาต่อต้านรัฐบาล หรือฝ่าฝืน พ.ร.บ. ความมั่นคง แต่เขากลับถูกส่งเข้าโรงพยาบาลบ้า อาเลียคอสถูกขังเดี่ยวในโรงพยาบาลบ้าจนทำให้สติฟั่นเฟือน เมื่อเห็นว่าเขาไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อรัฐบาลอีกต่อไป ก็ได้รับการปล่อยตัวกลับไปพักอาศัยในห้องเช่า ได้รับอิสรภาพจากโรงพยาบาลบ้า อาเลียคอสถูกทอดทิ้งให้เดียวดายมีแต่ออเรียน่า คนเดียวเท่านั้นที่คอยปลอบใจเมื่อเธอว่างจากงาน
สองอาทิตย์ต่อมาออเรียน่า ไปพบศพของเขาในห้องเช่าที่เสียชีวิตอย่างปริศนา แต่เมื่อทางการสรุปว่า อาเลียคอสฆ่าตัวตาย ออเรียน่าก็หมดปัญญาที่จะหาความยุติธรรมให้คนตาย ได้แต่ออกข่าวว่า อาเลียคอส ได้ไปจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว
เขียนเรื่องนี้มาให้ได้อ่านเพื่อเป็นบทเรียนแค่นักเคลื่อนไหวที่เสพติดการประท้วงทั้งหลาย และ เพื่อเป็นบทเรียนสอนใจว่า นักประท้วงผู้มีอุดมการณ์มั่นคงที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ยามที่เขาจากไปมีคนเป็นแสนเป็นล้าน มาแสดงความอาลัยต่อการจากไปของเขา
นี่ถ้าอาเลียคอส เสพติดการประท้วง เหมือนนักกิจกรรมทั่วไป ที่ประท้วงได้ทุกเรื่องอาจมีผู้มาร่วมไว้อาลัยเพียงไม่กี่คน เพราะว่าคนเสพติดการประท้วงทั่วไปไม่มีอุดมการณ์มั่นคง ประท้วงเรื่องอะไรก็ได้ที่นักประท้วงอาชีพสามารถสร้างเงื่อนไขให้คนมาประท้วงได้
กล่าวคือ ประท้วงตั้งแต่ความไม่เป็นธรรมในสังคม ความไม่เท่าเทียมในสังคม ไม่เท่าเทียมทางเพศ ประท้วงเรื่องแรงงาน เรื่องที่ดินทำกินชาวบ้าน เรื่องโครงการสร้างเขื่อน สร้างท่อแก๊ส ประท้วงเรื่องพลังงาน การปกครองไม่เป็นประชาธิปไตย ประท้วงเพื่อให้นิรโทษกรรมคนกินบ้านโกงเมือง ประท้วงให้ปฏิรูปสถาบัน ประท้วง เรื่องมาตรา 112 ประท้วงเรื่องรัฐธรรมนูญครึ่งใบประท้วงเรื่องรัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญไม่ถูกใจ ประท้วงให้รัฐบาลยุบสภา กดดันด้วยการเผาบ้านเผาเมือง ตลอดถึงประท้วงกดดันชี้นำศาล ประท้วงให้ศาลตัดสินคดีความตามความพอใจของผู้ประท้วง ประท้วงให้ปล่อยจำเลยทำผิดกฎหมาย ฯลฯ
ในประเทศไทย เห็นมีอยู่หลายรายที่เสพติดการประท้วง ในเบื้องต้นดูเหมือนว่า การเคลื่อนไหวเป็นตามอุดมการณ์มีหลักการ และเมื่อได้รับความนิยมชมชอบ ได้รับการชื่นชม การมีตัวตนขึ้นมากลายเป็นเสพติดการประท้วง ไม่ได้เป็นข่าว ไม่ได้ออกทีวีวันไหนกินไม่ได้นอนไม่หลับ
อาการกินไม่ได้ หรือไม่ได้กิน อาจมีส่วนสัมพันธ์กับท่อน้ำเลี้ยง และปัจจัย หากไม่ได้ประท้วง ท่อน้ำเลี้ยงไม่ไหล ปัจจัยไม่มา พาลทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ นักประท้วงอาชีพบางรายเกิดมาชาติหนึ่ง ไม่ได้ทำงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยยึดอาชีพประท้วง เป็นงานหลัก เพราะรับรู้จากสหายมาว่า“สู้แล้วรวย”
ผู้เขียนก็เคยร่วมประท้วงทุกครั้ง ที่มีเงื่อนไขให้ประท้วงได้ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 พฤษภาคม 2535 ร่วมประท้วงการทำรัฐประหารกับม็อบมือถือ ร่วมประท้วงกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในปี 2549-2550 ร่วมประท้วงกับ กปปส. ตั้งแต่ พ.ย.2556 ถึง พ.ค.2557 และการร่วมประท้วงทุกครั้งมีเงื่อนไขที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าประท้วงได้ แต่เมื่อหมดภารกิจนั้นๆ แล้วก็ถอนตัวออกมา ไม่ได้ปรึกษาหารือ ไม่ได้ร่วมประชุมหรือคบหาสมาคมกับแกนนำการประท้วงใดๆ
แปลกใจและประหลาดใจ ที่ยังเห็นผู้ร่วมประท้วงจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมายังโลดแล่นอยู่ในเวทีปราศรัยในการชุมนุมจนวันนี้ เรายึดมั่นตลอดมาว่าประท้วงใดๆ ต้องมีเงื่อนไข ให้พอประท้วงได้ที่สำคัญต้องมีอุดมการณ์มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตย เพื่อปกป้องสถาบัน หรือ แม้แต่การประท้วงเพื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นมีข้อยกเว้นอยู่สองเรื่อง คือ“สถาบันพระมหากษัตริย์กับศาล ที่ไม่มีวันละเมิดได้ในชาตินี้”
ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ศาลเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่สำคัญศาลพิจารณาคดีตัดสินความภายใต้พระปรมาภิไธย
เมื่อประท้วง ต่อต้าน กดดันสองสถาบันอันศักดิ์สิทธิ์นี้แล้ว ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าความเป็นคน (ไทย) ของพวกคุณอยู่ที่ไหน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี