พูดได้เต็มปากว่า ลุงคือนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาคนที่สองรองจากป๋า ที่สามารถจัดการกับนักการเมือง
ขาใหญ่ไปพร้อมๆ กับจัดการกับนักธุรกิจสีเทาที่อยู่ใต้ร่มเงาข้าราชการ และนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในเวลาเดียวกัน
วันที่ 24 พฤศจิกายน ศาลอาญาไม่ให้ประกันตัว นายหาวเจ๋อ ตู้ หรือชื่อไทย นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ที่ถูกจับในความผิดฐานสมคบ โดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้ต้องหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และ ผิดพ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509
นายหาวเจ๋อ ตู้ หรือ ที่รู้จักกันอย่างกว้างในชื่อ“ตู้ห่าว” ผู้โลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจสีเทามานานหลายสิบปี โดยที่มีกระบวนยุติธรรมต้นน้ำของไทยคือ
เจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการ ไม่สามารถดำเนินคดีกับตู้ห่าวได้ เพราะมีเส้นสายนักการเมือง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คอยปกป้องเขาไว้ ทำให้ตู้ห่าว แผ่อิทธิพลทั่วประเทศไทยตั้งแต่ในเมืองหลวง ภาคใต้ ถึงภาคเหนือ ภาคอีสาน
หลังจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)มีคำประกาศิตกลางเดือนพฤศจิกายนว่าจะปราบปรามการค้ายาเสพติดและธุรกิจสีเทาให้หมดไปภายในสามเดือน ตู้ห่าว ก็ถูกจับดำเนินคดี การปราบปรามครั้งนี้ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากข้อสงสัยว่า นายตู้ห่าวได้ใช้เงินสีเทามาปรนเปรอพรรคการเมือง
หลังจากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเปิดเผยว่า ตู้ห่าว ใช้ชื่อไทย บริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ สามล้านบาท และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังสอบสวนว่าเป็นเงินที่ได้มาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
เป็นที่น่าประหลาดใจ และสงสัยกันทั่วไปว่าทำไมพรรคเพื่อไทยที่โจมตี ด่าว่าประณามรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทุกเรื่องเปิดช่องทางให้ ทำไมจึงไม่โจมตีรัฐบาลในประเด็นนี้ในเมื่อ กกต กำลังสอบสวนว่า เงินที่บริจาคเข้าพรรคแกนนำรัฐบาลเป็นเงินสีเทาหรือไม่ พรรคเพื่อไทยซึ่งโจมตีรัฐบาลได้ทุกเรื่อง แต่การรับเงินบริจาคจากตู้ห่าว หากผิดกฎหมาย มีโทษร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคได้แต่ทำไมพรรคเพื่อไทยถึงได้ปิดปากเงียบ
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเงินสีเทาของนายตู้ห่าวได้ใช้ปรนเปรอพรรคการเมือง และนักการเมืองพรรคอื่นๆด้วย แต่การบริจาคให้พรรคการเมืองอื่นทำกันใต้ดินให้กันในที่ลับ แต่สำหรับกับพรรคพลังประชารัฐบริจาคกันเปิดเผยตามกฎหมายที่มีช่องทางให้ทำได้
หากเปรียบเทียบระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคคู่แข่ง จะพบว่าเงาสีดำที่คลุมตัวตู้ห่าวอยู่นั้นแนบแน่นเกี่ยวดองกับพรรคเพื่อไทย กว่าพรรค พปชร.มานานแล้ว จากการให้สัมภาษณ์พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า ภรรยาของ ตู้ห่าว เป็นตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเป็นหลานสาว พล.ต.อ.ประชา
พรหมนอก อดีตอธิบดีกรมตำรวจ พูดกันง่ายๆ คือตู้ห่าว เป็นหลานเขย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
คอลัมน์ไม่ได้ชี้ว่าพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มีส่วนเกี่ยวพันกับธุรกิจสีเทาของนายตู้ห่าว เพียงแต่ชี้ให้เห็นว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก แนบแน่นกับพรรคเพื่อไทยมานานหลายปี ข้อมูลจากวิกิพีเดียบันทึกประวัติส่วนหนึ่งกล่าวว่า “พลตำรวจเอกประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
วิกิพีเดียบันทึกด้วยว่า ในวันที่ 15 ธันวาคม 2551 สภาผู้แทนราษฎรมีนัดลงมติเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งนายกฯผลปรากฏว่ามี สส.“งูเห่า”จากกลุ่มเพื่อนเนวิน ย้ายขั้วไปสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ แทนการสนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก จากพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ สามารถรวบรวมเสียงได้ 235 เสียง ในขณะที่ พรรคเพื่อไทยและพรรคที่สนับสนุน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รวบรวมเสียงได้ 198 เสียง อภิสิทธิ์จึงได้เป็นนายกฯ และพรรคประชาธิปัตย์สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย และสื่อหลายสำนักยืนยันว่าพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก มีความสัมพันธ์แนบแน่นในพรรคเพื่อไทยมานานปี และอาจเป็นความบังเอิญหรือเป็นความมหัศจรรย์ทางกฎหมายทำให้นายตู้ห่าว ได้สัญชาติไทยในขณะที่พล.ต.อ.ประชาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าตู้ห่าวมีเมียและลูกเกิดในเมืองไทยจึงอยู่ในข่ายได้สัญชาติไทย ซึ่งนับเป็นความมหัศจรรย์ทางกฎหมายในสมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล
เป็นเรื่องมหัศจรรย์ หรือ ความพิสดารทางกฎหมาย ในเดือนเมษายน 2555 ยุครัฐบาลเพื่อไทย
นายตู้ห่าว กับ เมียถูกแจ้งข้อหาลอบเผาสวนงู หรือ บริษัท ภูเก็ต เฮลธี นูทรีเมนท์ จำกัด ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อกลางดึกวันที่ 23 เมษายน 2555 และทำร้ายนายอนุชิต ไชยทองงาม รปภ.ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนพิการ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้จับกุมนายสุวรรณ ทองเพิ่มพลอย อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาเอาไว้ได้เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2559
นอกจากนี้ นายยุทธนา การมาสม หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ ยังได้เข้ามาให้การกับตำรวจกองปราบปรามว่า
ได้มีอดีตสารวัตรหญิงสังกัดตำรวจท่องเที่ยว และ นายตู้ห่าว สามี เป็นคนบงการในการก่อเหตุ หลังจาก
สอบปากคำพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ส่งเรื่องไปที่ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต แต่เรื่องกลับเงียบหายไป เมื่อผู้เสียหายร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมตำรวจจึงจับผู้ต้องหา และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางกฎหมายที่อัยการไม่สั่งฟ้องผู้ต้องหา
ถึงตอนนี้จึงเกิดความสงสัยว่านายตู้ห่าว กับ พล.ต.อ.ประชาและพรรคเพื่อไทยมีความสัมพันธ์กัน
หรือไม่ และเป็นเพราะอะไรเมื่อตำรวจบุกจับสถานบันเทิงผิดกฎหมาย และได้หลักฐานว่าสถานที่แห่งนั้นขายยาเสพติดให้ลูกค้าชาวต่างชาติด้วย หนึ่งในห้าผู้ต้องหาคนสำคัญคือนายตู้ห่าว จึงมีรายงานว่าตำรวจจับตู้ห่าวได้แต่ถูกปล่อยไปเมื่อขาใหญ่เข้าไปแทรกแซง และ ตู้ห่าวก็ถูกจับได้หลังจากลุงตู่มีประกาศิตจัดการกับพ่อค้ายาเสพติดและธุรกิจผิดกฎหมายภายในสามเดือน
ถึงวันนี้ที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายตู้ห่าวแต่ยังไม่ได้ยินข่าวจากพรรคเพื่อไทยว่า จะดำเนินการอย่างไรกับพรรค พปชร.ที่รับเงินบริจาคอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมือง
“ถ้าเป็นฟุตบอลก็ต้องมีคำถามมากมายว่า ลูกบอลเข้าเท้าแล้ว ทำไมทีมเพื่อไทยไม่เขี่ยเข้าประตูหรือว่าที่อยู่ข้างหน้ามันเป็นประตูของทีมเพื่อไทย จึงไม่ยอมปล่อยให้บอลผ่านเส้นประตูเข้าไปได้”
และเป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่าทำไมนักการเมืองขาใหญ่ที่เคยอยู่กับพรรคเพื่อไทย ในยุคที่นายตู้ห่าวได้สัญชาติไทย แล้วย้ายมาเป็นเส้นเลือดใหญ่ให้ พปชร.มาเป็นมือขวาของนักสะสมนาฬิกาในพรรคแกนนำรัฐบาล และมีรายงานข่าวจาก TopNews ว่า ขาใหญ่ที่เคยอยู่เพื่อไทย ได้ใช้เครื่องบินส่วนตัวของ ตู้ห่าว ในการเดินทางไปหาเสียงทางภาคอีสาน และนักการเมืองขาใหญ่ มือขวานักสะสมนาฬิกายังมีความสัมพันธ์กับคนแดนไกล ที่เคยสมคบกันจะจัดการคว่ำลุงตู่ และเป็นนักการเมืองขาใหญ่คนนี้ใช่หรือไม่ ที่บอกให้นายตู้ห่าว บริจาคเงินเข้าพรรค พปชร.เพื่อหาที่คุ้มกะลาหัวแหล่งใหม่
เป็นที่น่าคลางแคลงใจว่านักการเมืองขาใหญ่มือขวานักสะสมนาฬิกาได้หายหน้าไปจากสังคมไทยตั้งแต่ตำรวจบุกจับบาร์ผิดกฎหมายของนายตู้ห่าวจนถึงวันนี้นักการเมืองขาใหญ่ยังไม่ปรากฏตัวให้เห็นและคาดการณ์กันว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าจะไม่มีนักการเมืองขาใหญ่กล้ากวนใจนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาคนที่สอง
พรรคพลังประชารัฐที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้ลุงตู่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องจากรัฐบาล คสช.แต่ดันไปเอาลูกเสือลูกจระเข้มาเลี้ยง แล้วปล่อยให้มันออกไปล่าเหยื่อเอาเศษเนื้อมาแบ่งปันกัน แต่ลูกเสือลูกจระเข้มันดันเอาเนื้อที่ล่าได้มากินในถ้ำ เศษเนื้อและกองกระดูกมันถึงได้ส่งกลิ่นเหม็นออกมา เป็นเหตุให้พรรคพวกที่เหลือทนกลิ่นเหม็นไม่ได้พากันย้ายถ้ำหนีไปปล่อยให้นักสะสมนาฬิกาว้าเหว่อยู่คนเดียว
ทั้งหมดที่สาธยายมา คือ มหากาพย์ตู้ห่าว กับความเน่าเฟะของข้าราชการและนักการเมืองในสมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เป็นเหตุให้ ลุงตู่เป็นนักฆ่าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยาคนใหม่ พิฆาตนักการเมืองขาใหญ่กับพรรคการเมืองเฉพาะกิจได้ในเวลาเดียวกัน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี