การประชุมสุดยอดเอเปกเสร็จสิ้นลงไปแล้ว ในภาครัฐเองยังไม่มีการแถลงสรุปผลการประชุมอย่างเป็นทางการว่ามีการงานสิ่งใดอันเป็นที่ตกลงปลงใจกัน และมีการงานสิ่งใดที่จะอำนวยประโยชน์สุขแก่ประเทศไทยและประชาชนชาวไทยทั้งประเทศบ้าง
มีแต่ควันหลงที่ไม่เข้าท่า เช่น การทะเลาะเบาะแว้งกันเกี่ยวกับเรื่องปลากุเลาเค็มตากใบว่าได้ใช้ปลากุเลาเค็มจากตากใบจริงหรือไม่และจากผู้ขายรายใด นอกนั้นก็เป็นเรื่องไม่เป็นโล้เป็นพาย
แม้แต่ขบวนการ IO เองก็ไม่ได้นำเสนอสรุปดอกผลใดๆ ที่จะบังเกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชน ที่พูดกันก็มีอยู่เรื่องเดียวว่าค่าใช้จ่ายในการจัดเอเปกครั้งนี้ใช้เงินน้อยกว่าสมัยรัฐบาลทักษิณถึง 1,500 ล้านบาท แล้วกล่าวหาว่าในการจัดเอเปกเมื่อปี 2546 มีการทุจริตคอร์รัปชั่นกัน ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีข่าวคราวหรือพูดถึงเรื่องนี้กันมาก่อนเลย
การเอาเรื่องเมื่อ 19 ปีก่อนมาเปรียบเทียบในลักษณะดังกล่าว คงคิดว่าคนไทยจะหลอกลวงอย่างไรก็ได้กระมัง ซึ่งก็มีผู้ทักท้วงให้เห็นเป็นอเนกประการอยู่แล้ว
เช่น การจัดเอเปกปี 2546 เป็นการจัดที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระราชทานเลี้ยงแก่ประมุขที่มาประชุม และมีพระบรมราชานุญาตให้จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคจำลองเพื่อแสดงแก่ประมุขรัฐทั้งหลายให้เห็นถึงวัฒนธรรมและอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของชนชาติไทย
ไม่มีการประท้วงให้เห็นเลยแม้แต่คนเดียวมีผู้เข้ามาในประเทศไทยในช่วงการประชุมกว่า 20,000 คน มีการนำผู้เข้าร่วมประชุมทั้งระดับประมุข ภริยา คณะผู้เข้ามาร่วมประชุม คณะผู้ติดตามและสื่อมวลชนไปดูงานสารพัดกว่า 200 หน่วยงาน แต่ละหน่วยงานมีการเตรียมการต้อนรับและแนะนำเผยแพร่สิ่งดีงามทั้งหลายของประเทศไทยให้แก่ผู้เข้าประชุมได้รับทราบ ซึ่งก่อเกิดประโยชน์อเนกอนันต์
ประเทศผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกแย่งกันนำรถเข้ามาใช้สอยเพื่อผลในการโฆษณาเกือบ 3,000 คัน
โดยเฉพาะผลการประชุมนั้นได้รับการประกาศถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่อำนวยประโยชน์ให้แก่ภาคีสมาชิกและประเทศไทยอย่างชัดเจน
สิ่งทั้งหมดนี้ไม่มีในการจัดเอเปกครั้งนี้ ซึ่งลดระดับมาเป็นรัฐบาลเป็นเจ้าภาพ พระประมุขแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยกเว้นการเข้าเฝ้าฯ ในช่วงเวลาสั้นๆ มีผู้มาประชุมรวมทั้งสิ้นไม่ถึง 5,000 คน ไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่จะส่งเสริมความยิ่งใหญ่ด้านต่างๆ ของประเทศไทยเลย
ก็ขนาดประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังต้องไปเดินที่เยาวราชโดยลำพังพร้อมผู้ติดตาม 6-7 คนเท่านั้น แค่นี้ก็สูญเสียโอกาสและแสดงถึงความบ้องตื้นขนาดไหน
ในการจัดประชุมเอเปกครั้งนี้ผู้สนใจทั่วประเทศตั้งความหวังในข้อสำคัญเรื่องหนึ่งคือการฟื้นฟูหลักการของเอเปกให้ปรากฏเป็นจริง นั่นคือการค้าเสรี ที่ถ้าหากได้ยืนยันการปฏิบัติให้เป็นจริงแล้วก็จะบังเกิดประโยชน์สุขอย่างใหญ่หลวงแก่ประเทศไทย
เพราะปัญหาความเดือดร้อนทุกข์เข็ญในปัจจุบันนี้เกิดจากการค้าไม่เสรีที่สมาชิกเอเปกบางประเทศออกมาตรการคว่ำบาตรประเทศต่างๆ ตามอำเภอใจ และใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มเหงบังคับประเทศอื่นให้ปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของตัวเองด้วย
หลักการค้าเสรีของเอเปกนั้นเป็นหลักที่ต้องเชิดชูธำรงไว้ให้ได้ และเมื่อถูกทำลายลงก็เป็นหน้าที่ที่จะต้องฟื้นฟูให้เกิดการค้าเสรีขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคีสมาชิกรวมทั้งประเทศไทยด้วย
เพราะประเทศไทยและคนไทยเดือดร้อนทุกข์เข็ญอยู่ในทุกวันนี้ก็เพราะถูกบังคับหรือยอมอยู่ใต้อาณัติ ไม่สามารถทำการค้าโดยเสรีได้ไม่สามารถส่งสินค้าไปขายแก่ประเทศต่างๆ ได้โดยเสรี ไม่สามารถสั่งซื้อน้ำมันและแก๊สราคาถูกๆ เข้ามาใช้โดยเสรี ไม่สามารถจับจ่ายใช้สอยเงินได้โดยเสรี ซึ่งเป็นเรื่องขัดกับหลักการของเอเปกอย่างร้ายแรงที่สุด
ประเทศทั้งหลายและประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทั่วภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกต่างเฝ้ารอด้วยความหวังตั้งใจว่าในฐานะประธานเอเปก ประเทศไทยจะได้นำเสนอเป็นวาระสำคัญเพื่อยืนยันหลักการของเอเปกให้มีการค้าโดยเสรี ที่ประเทศทั้งหลายสามารถค้าขายกันได้โดยเสรี
ซึ่งประเทศไทยจะได้ประโยชน์สูงสุดด้วย คือสามารถส่งสินค้าไปขายได้โดยเสรี ซึ่งสินค้าไทยมีเท่าใดก็คงขายไม่พอ ราคาก็คงจะดีขึ้น ไม่ต้องขาดทุนจากการประกันราคาพืชผลถึง 500,000-600,000 ล้านบาท ดังที่เป็นอยู่ และไม่ต้องซื้อน้ำมันหรือแก๊สราคาแพง ไม่ต้องทนใช้พลังงานและไฟฟ้าในราคาแพงลิบลิ่วดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
แต่ปรากฏว่าประเทศไทยไม่ได้นำเสนอเรื่องนี้ไม่กล้าปริปากพูดเรื่องนี้ และไม่กล้าคิดในเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้น การสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ประชาชาติทั้งหลายจึงผ่านพ้นไปอย่างน่าเสียดาย และทำให้การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพบ่มิไก๊ไร้น้ำยาหาผลงานใดๆ มิได้
เรื่องสำคัญอย่างนี้ยังไม่กล้าทำและไม่กล้าพูด รวมทั้งไม่กล้าบอกความจริงแก่ประชาชน กลับเฉโกไปพูดเรื่องเล็กๆ น้อย จิ๊บๆ จ๊อยๆ ซึ่งแม้ไม่ได้เป็นประธานจัดเอเปกก็สามารถทำได้ จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าใจของคนไทยทั้งประเทศ
ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับการประชุมอาเซียน หรือการประชุม G20 ที่กัมพูชาและอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้ขายหน้าไปมากกว่านี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี