วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / นายซื่อตรงรักเมืองไทย
นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย

นายซื่อตรงรักเมืองไทย
วันพฤหัสบดี ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
หวยออกก่อนเวลา

ดูทั้งหมด

  •  

เมื่อแม่เหล็กอย่างพลเอกประยุทธ์ขยับ ก็ส่งผลแรงต่อทั้งขั้วตนเองและขั้วตรงข้ามให้ต้องสะท้าน ที่ล่าสุดแรงเหวี่ยงมาถึงกลุ่มใหญ่ในรั้วพลังประชารัฐแล้ว หลังเริ่มมีข่าวมุ้งใหญ่พลังประชารัฐเริ่มลังเลเตรียมเก็บกระเป๋า

ส่งท้ายปีเก่าด้วยกระแสข่าวร้อนแรง จากที่เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนที่ในที่สุดพลเอกประยุทธ์ก็เลือกที่จะประกาศเส้นทางการเมืองของตนเอง ซึ่งแม้ดูจะไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายมากนัก ที่เพราะก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวหลุดออกมาบ้าง แต่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นคำที่ไม่ได้ออกมาจากปากพลเอกประยุทธ์ทั้งสิ้น แต่นั่นก็น่าจะพอทำให้สามารถคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าได้ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาเรื่องราวทั้งหมดก็เหมือนจะปูทางให้เป็นไปเช่นที่ปรากฏ


อาจเพราะสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคที่เสนอชื่อของตนเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งที่ผ่านมามีแผนงานในอนาคตที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น และแผนงานดังกล่าวก็ดูจะเริ่มเป็นการชัดเจนแล้วว่า พลเอกประยุทธ์อาจไม่ได้ไปต่อกับพรรคพลังประชารัฐในซีซั่นหน้าหรือไม่ ?

ทั้งการปรากฏตัวของนายมิ่งขวัญ รวมถึงกระแสข่าวในช่วงหลังของพรรคพลังประชารัฐ มีชื่อของร้อยเอกธรรมนัส ถูกจับไปเชื่อมโยงว่า มีโอกาสหวนกลับคืนสู่บ้าน จึงอาจทำให้หลายคนเริ่มมองแล้วว่าเส้นทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐและเส้นทางของพลเอกประยุทธ์อาจมาถึงทางแยกแล้วหรือไม่ ?

ที่น่าสนใจคือ การที่พลเอกประยุทธ์ก็เลือกที่จะอุบเส้นทางอนาคตของตนเองไว้ แต่เพราะเหตุใดพลเอกประยุทธ์จึงเลือกช่วงเวลานี้ในการประกาศเส้นทาง ซึ่งถือว่าน่าจะเร็วกว่าที่สื่อและหลายฝ่ายคิด อะไรคือสาเหตุที่ต้องเกิดขึ้นในตอนนี้?

แต่จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าการที่พลเอกประยุทธ์เลือกที่จะประกาศเส้นทางการเมืองในยามนี้ ก็น่าจะเป็นหลักประกันให้กับบรรดา สส. ได้อยู่บ้าง เพราะหากพลเอกประยุทธ์จะรอให้การจัดกระบวนทัพของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจน แล้วจึงค่อยประกาศเส้นทาง ก็อาจเป็นการตัดสินใจที่ล่าช้าเกินไปหรือไม่ ? เพราะอย่าลืมว่าพลเอกประยุทธ์เอง เป็นแม่เหล็กสำคัญที่สามารถดึงดูดบรรดา สส. เข้าร่วมสังกัดพรรคได้

ทันทีที่พลเอกประยุทธ์มีทิศทางที่เริ่มชัดเจน ก็น่าจะส่งผลดีต่อกระบวนการจัดทัพของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะก็มี สส. จำนวนไม่น้อยที่ยังคงเชื่อมั่นในพลเอกประยุทธ์อยู่ และพร้อมร่วมรบออกศึกไปกับพลเอกประยุทธ์ในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้ากับพลเอกประยุทธ์ อย่างในกรณีการแถลงเปิดตัวสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติในช่วงแรกๆ ไม่ว่าจะเป็นนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายชัชวาลล์ คงอุดม อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท รวมถึงอดีตขุนพลประชาธิปัตย์อย่างนายชุมพลกาญจนะ อดีตสส.สุราษฎร์ธานี จากสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็อาจยังไม่มีแม่เหล็กชัดเจนพอ

ดังนั้นการที่พลเอกประยุทธ์ประกาศเส้นทางการเมืองเป็นการทิ้งท้าย ก็น่าจะส่งผลต่อความมั่นใจ และเป็นหลักประกันให้กับบรรดา สส. ว่าอย่างไรเสียพรรครวมไทยสร้างชาติก็จะเป็นสถานีต่อไปของพลเอกประยุทธ์อย่างแน่นอน ซึ่งการทิ้งท้ายของพลเอกประยุทธ์นั้นน่าจะส่งผลทางด้านจิตวิทยาไม่ต่างจากพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศรายชื่อสส.เข้าบ้านในรอบที่ 1 ทั้งน่าจะส่งผลต่อขวัญและกำลังใจให้กับ สส. ที่ได้เก็บกระเป๋าย้ายเข้าบ้านรวมไทยสร้างชาติเป็นที่เรียบร้อย และอาจส่งผลให้ สส. ที่เริ่มมีความคิดลังเลว่าจะย้ายเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นั้น เริ่มที่จะมีความมั่นใจมากขึ้น

ไม่แน่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนโดยการประกาศ ว่าที่ผู้สมัครในนามสังกัดพรรคตั้งแต่ต้นปีก็เป็นได้หรือไม่ ?

แน่นอนว่าการประกาศของพลเอกประยุทธ์ในครั้งนี้ ก็ไม่ต่างจากการเร่งกระบวนการตัดสินใจ เพราะแม้จะเป็นที่ทราบโดยทั่วกันอยู่แล้วว่า ไม่ว่าอย่างไรพลเอกประยุทธ์ก็น่าจะย้ายสังกัดไปพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้นความชัดเจนกับการคาดเดาก็ย่อมส่งผลที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้จะมีข้อถกเถียงกันว่าการประกาศความชัดเจนนั้นเร็วเกินไปหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือหลังจากการประกาศเส้นทางของพลเอกประยุทธ์เกิดขึ้นแล้ว ก็คงไม่ได้ส่งผลถึงแค่ภายในมุ้งพรรครวมไทยสร้างชาติเพียงมุ้งเดียวเท่านั้น

หากจะพูดถึงหนึ่งในพรรคการเมืองที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการประกาศของพลเอกประยุทธ์แน่นอนว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นหนึ่งในพรรคที่ได้รับผลกระทบต่อเรื่องนี้มากที่สุด อาจเพราะด้วยความที่พรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นหนึ่งในพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเหนียวแน่น และเคยเป็นหนึ่งในพรรคที่รับบทบาทเป็นกองกำลังที่คอยหนุนพลเอกประยุทธ์

จึงไม่แปลกที่เมื่อพลเอกประยุทธ์แสดงท่าทีที่ชัดเจน ว่าจะยุติเส้นทางการเมืองที่ร่วมเดินกันมากับพรรคพลังประชารัฐ จะมี สส. จากสังกัดพรรคพลังประชารัฐบางส่วนที่ยังยึดมั่นและเชื่อใจพลเอกประยุทธ์ เริ่มที่มีกระแสข่าวว่า มี สส. จำนวนไม่น้อยเตรียมที่จะเก็บเสื้อผ้าย้ายของออกจากบ้านพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไปร่วมเส้นทางกับพลเอกประยุทธ์ในนามว่าที่ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ ? ที่แม้ก๊วนใหญ่บางกลุ่มต้องออกมาพูดเมื่อสองวันก่อนว่ายังไม่ตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อพลังประชารัฐหรือไม่

แม้จะถูกมองว่าเป็นพรรคพี่พรรคน้อง แต่หากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่าพรรคพลังประชารัฐอาจสูญเสียขุนพลจำนวนหนึ่ง หรือจำนวนมาก ให้แก่พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งในมุมของพลเอกประวิตรก็น่าจะต้องเริ่มมองหา กำลังเสริมมาเติมเต็มในช่องว่างที่ขาดหายไปก็เป็นได้หรือไม่? ซึ่งกระแสของพรรคพลังประชารัฐในช่วงนี้นอกจากจะมีชื่อของร้อยเอกธรรมนัสถูกจับไปเชื่อมโยงแล้ว ยังมีรายชื่อของหญิงแกร่งแห่งวงการลูกหนังอย่างมาดามแป้งถูกจับไปเชื่อมโยงด้วย ซึ่งในรายชื่อของมาดามแป้ง แน่นอนว่าไม่ใช่ครั้งแรก

ก่อนหน้านี้ชื่อของมาดามแป้งก็เคยถูกจับไปเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐอยู่บ้าง อย่างในเวทีเก้าอี้ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ในครั้งที่ผ่านมา ก่อนที่กระแสข่าวจะดับลงไป ส่วนกระแสในครั้งนี้จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไป แต่หากพรรคพลังประชารัฐได้มาดามแป้งมาเป็นกำลังเสริม เชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อกระแสของพรรคพลังประชารัฐไม่น้อย

อีกหนึ่งกระแส ความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในมุ้งพลังประชารัฐนั่นคือการที่ พลเอกประวิตร เริ่มมีการจัดกระบวนทัพ โดยมอบหมายงานสำคัญนี้ให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ เป็นผู้ดูแลภารกิจดังกล่าว ซึ่งนายวิรัชเองก็มีการเปรยว่า พรรคพลังประชารัฐมีความประสงค์ที่จะส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขต และความชัดเจนของพรรคพลังประชารัฐก็น่าจะมีมากขึ้นหลังการประชุมใหญ่ของพรรค ในวันที่ 14 มกราคม 2566 ซึ่งจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่แน่ว่ารายชื่อของผู้ที่ถูกจับไปเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชารัฐ ก็อาจมีความชัดเจนมากขึ้นก่อนการสรรหาขุนพลหลักของพรรคก็เป็นได้หรือไม่ ? และรวมถึงคนสำคัญก๊วนใหญ่หากไม่อยู่ในรายชื่อกรรมการบริหารชุดใหม่ก็จะเริ่มชัดเจนขึ้นไปอีก

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ แม้พลเอกประวิตรจะมีการประกาศว่าพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นพรรคการเมืองที่มีมิตรไมตรีต่อกัน แต่การแยกเส้นทางกันเดินดังกล่าวก็น่าสนใจว่า ในท้ายที่สุดแล้วพรรคพลังประชารัฐจะยังสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่? และหากไม่แล้ว พรรคพลังประชารัฐจะดันใครให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30ของประเทศไทยกันแน่ ?

ความชัดเจนเรื่องแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐก็ยังดูคลุมเครืออยู่ไม่น้อย เพราะเอาเข้าจริงก่อนหน้านี้นายมิ่งขวัญก็ดูจะเป็นตัวเต็งเพียงหนึ่งเดียวจากค่ายพรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่จะมีเสียงระงมจากภายในที่ก็ยังมองว่านายมิ่งขวัญอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด และกลับกลายเป็นว่ารายชื่อพลเอกประวิตร จะเป็นหนึ่งในรายชื่อที่พุ่งขึ้นมาเป็นเต็งแทนที่

ซึ่งสอดคล้องกับคำแถลงของนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ว่าจะเสนอรายชื่อของพลเอกประวิตรเป็นแคนดิเดตเพียงหนึ่งเดียวของพรรคพลังประชารัฐเพียงเท่านั้น ซึ่งนายนิโรธ สุนทรเลขา สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ออกมากล่าวถึงกรณีของนายมิ่งขวัญว่า ในทำนองที่ว่า นายมิ่งขวัญต้องการที่จะดีเบตในนามของพรรคพลังประชารัฐเพียงเท่านั้น ส่วนเรื่องแคนดิเดตพรรคเป็นการตัดสินใจของพรรค

เอาเข้าจริงแม้ว่านายมิ่งขวัญจะเป็นหนึ่งในมือดีด้านเศรษฐกิจ ที่เมื่อย้ายสังกัดเข้ามายังพรรคพลังประชารัฐแล้วก็น่าจะส่งผลดีไม่น้อย แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมื่อกล่าวถึงพรรคพลังประชารัฐ ชื่อของนายมิ่งขวัญก็คงไม่ใช่ชื่อลำดับต้นๆ ที่โผล่ขึ้นมาในหัว ซึ่งก็อาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ของนายมิ่งขวัญไม่ได้ยึดโยงกับพรรคพลังประชารัฐมาแต่ต้น ซึ่งตรงกันข้ามกับพลเอกประวิตร ที่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอยู่ และเมื่อวัดกันที่บารมีแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อของพลเอกประวิตร ก็ดูจะสร้างความมั่นใจและสามารถดึงดูดนักการเมืองจากทั่วฟ้าเมืองไทยให้เข้าร่วมสังกัด ได้ไม่น้อยกว่าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ?

อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องมาลุ้นกันว่าเมื่อไม่มีรายชื่อของพลเอกประยุทธ์เป็นแม่เหล็กดูดคะแนนเสียงแล้ว ชื่อของพลเอกประวิตรจะสามารถนำพาพรรคพลังประชารัฐก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้าได้หรือไม่ ?

อย่างไรก็ตาม กระแสการประกาศตัวเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติของพลเอกประยุทธ์ ก็ได้พาให้หลายฝ่ายต่างตั้งข้อสงสัยว่า ปรากฏการณ์ ยุบสภาฯ อาจเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ก็เป็นได้หรือไม่ ? แต่หากลองมองในอีกมุมหนึ่ง แม้พลเอกประยุทธ์จะแสดงท่าทีที่ชัดเจน จนอาจส่งผลให้บรรดา สส. เริ่มที่จะตัดสินใจย้ายเข้าพรรค แต่ถึงกระนั้นกระบวนการดังกล่าวก็ไม่ได้ส่งผลต่อความพร้อมต่อการเลือกตั้งของพรรครวมไทยสร้างชาติมากนัก เพราะหากจุดประสงค์ของพรรครวมไทยสร้างชาติคือการดันพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปย่อมต้องมีความพร้อมและรูปแบบยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ ?

และว่ากันตามตรงกว่ากระบวนการเตรียมความพร้อมในขั้นตอนต่างๆ จะเรียบร้อยและพร้อมสำหรับการสู้ศึกเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามก็อาจต้องกินเวลาไปอีกระยะหนึ่ง จึงเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะเร่งกระบวนการยุบสภาฯ ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว แม้จะมีการคาดการณ์จากหลายฝ่ายว่าพลเอกประยุทธ์น่าจะอยู่ไม่ครบวาระก็ตาม

เมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ก็เป็นหนึ่งในโอกาสของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่จะสร้างความประทับใจให้กับประชาชน โดยออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ มาตรการปรับลดรายจ่าย หรือมาตรการเพื่อการช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าประชาชนเองก็น่าจะมีความรู้สึกที่ดีต่อมาตรการต่างๆ ที่ออกมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน แต่จะมากพอที่จะส่งผลต่อคะแนนเสียงในอนาคตหรือไม่นั้น ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไป

เมื่อทุกฝ่ายยังไม่อาจทราบได้ว่าในท้ายที่สุดแล้วกำหนดการณ์ที่ชัดเจนในส่วนของการเลือกตั้งนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใดกันแน่ ? ในเวลานี้ทุกฝ่ายจึงทำได้แค่เตรียมความพร้อมให้มากที่สุด ทั้งความพร้อมด้านกำลังพล รวมถึงการจัดเตรียมยุทธศาสตร์ทางการเมือง เพราะแม้ว่าทางคณะกรรมการการเลือกตั้งจะมีการคาดการณ์กันเอาไว้ว่า หากรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์อยู่จนครบกำหนดในวันที่ 23 มีนาคม 2566 ก็อาจส่งผลให้การเลือกตั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่หากรัฐบาลเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกำหนดการณ์ทุกอย่างก็อาจเปลี่ยนไป? แต่คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว เว้นแต่การปรากฏชื่อแคนดิเดตนายกฯของอีกฟากฝั่ง

“เมื่อศึกใหญ่ใกล้เข้ามาทุกก้าวย่าง ทุกฝ่ายต่างเดินหน้าไม่ถอยหลัง

เดินทัพ ปรับกลศึก อย่างระวัง มิเช่นนั้น อาจพลาดพลั้งไม่รู้ตัว

เมื่อเส้นทาง ปีหน้า นั้นเดายาก ใครจะจาก ใครจะไป ย่อมส่งผล

อาจวุ่นวาย ย้ายพรรค สลับวน แม้หนึ่งคนอาจพลิกเกม หรือปราชัย”

สวัสดีปีใหม่

“ในช่วงชีวิตหนึ่ง อย่างไรก็มีเรื่องเบิกบานแจ่มใสได้อยู่หลากหลาย ผู้ใดแม้จะพบพานเรื่องโชคร้าย เผชิญกับความทุกข์ยากลำเค็ญอยู่บ้าง ก็มีคุณค่าให้อดกลั้นทนทานอยู่ ขอเพียงสามารถอดกลั้นทนทาน ก็ต้องได้รับคุณค่าตอบสนองแน่นอน”

โกวเล้ง จาก ผู้ยิ่งใหญ่

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
20:52 น. ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องกลับ'แพทยสภา'
20:42 น. มิตรภาพแน่นแฟ้น! 'ปูติน-สี จิ้นผิง'ร่วมชมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ
20:34 น. อดทนต่อคำปรามาส! 'นิพิฏฐ์'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้'คดีชั้น 14'
20:17 น. มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 9-15 พ.ค.68
20:16 น. (คลิป) แนวหน้าTAlk : 'กูพูดไม่ได้' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องกลับ'แพทยสภา'

มิตรภาพแน่นแฟ้น! 'ปูติน-สี จิ้นผิง'ร่วมชมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ

อดทนต่อคำปรามาส! 'นิพิฏฐ์'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้'คดีชั้น 14'

สุดกลั้น! 'นุ่น ดารัณ'เปิดบทเรียนเข้มงวดจนลูกหนีออกจากบ้าน

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

(คลิป) แนวหน้าTAlk : 'กูพูดไม่ได้' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง

  • Breaking News
  • ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! \'รพ.ราชทัณฑ์\'เล็งฟ้องกลับ\'แพทยสภา\' ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องกลับ'แพทยสภา'
  • มิตรภาพแน่นแฟ้น! \'ปูติน-สี จิ้นผิง\'ร่วมชมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ มิตรภาพแน่นแฟ้น! 'ปูติน-สี จิ้นผิง'ร่วมชมขบวนพาเหรดวันแห่งชัยชนะ
  • อดทนต่อคำปรามาส! \'นิพิฏฐ์\'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้\'คดีชั้น 14\' อดทนต่อคำปรามาส! 'นิพิฏฐ์'ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนหยัดต่อสู้'คดีชั้น 14'
  • มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 9-15 พ.ค.68 มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 9-15 พ.ค.68
  • (คลิป) แนวหน้าTAlk : \'กูพูดไม่ได้\' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง (คลิป) แนวหน้าTAlk : 'กูพูดไม่ได้' ย้อนอดีตเพื่อนรัก สุรนันทน์ ถึง บุญทรง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

ทิ้งไพ่ ทิ้งทวน

11 พ.ค. 2566

นิ่งๆอาจกินเรียบ

นิ่งๆอาจกินเรียบ

4 พ.ค. 2566

ทางเลือกหรือทางรอด?

ทางเลือกหรือทางรอด?

27 เม.ย. 2566

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

ยังคาดเดาอะไรไม่ได้

20 เม.ย. 2566

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

เปลี่ยนเพื่อไปต่อ

13 เม.ย. 2566

ฉากเดิมๆ

ฉากเดิมๆ

6 เม.ย. 2566

ระฆังเริ่มยก

ระฆังเริ่มยก

30 มี.ค. 2566

ล้างไพ่สลายขั้ว

ล้างไพ่สลายขั้ว

23 มี.ค. 2566

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved