สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ทำให้คนจำนวนมากมีความเห็นด้วยกับหลักการกำหนดให้นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งไม่เกิน 8 ปี มากขึ้นทุกวัน ทั้งแบบอย่างที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ รัฐบุรุษและอดีตประธานองคมนตรีได้กระทำให้ปรากฏแล้วก็ได้เห็นประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่บ้านเมือง
ก็เป็นไปตามธรรมชาติของอำนาจที่เมื่อหมกมุ่นนานไปแล้วก็จะลุ่มหลงมัวเมาติดยึด กระทั่งหลงยึดเอาว่าเป็นของตัวเมื่อเป็นเช่นนี้ก็สามารถกระทำกรรมลามกต่างๆโดยไม่ละอายต่อบาปได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤตและสารพัดปัญหาในบ้านเมือง
ดังที่เห็นเค้ากันอยู่แล้วว่าสถานการณ์กำลังก่อเกิดการปฏิวัติสามชนิดขึ้นพร้อมๆ กัน คือการปฏิวัติสี ที่มีต่างชาติหนุนหลังเพื่อตั้งรัฐบาลหุ่นที่เป็นทาสรับใช้ต่างชาติซึ่งถือว่าเป็นการสิ้นชาติอีกแบบหนึ่ง การปฏิวัติประชาชาติ ที่จะเปลี่ยนโครงสร้างทั้งปวงของรัฐ และการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งทำให้เกิดความประหวั่นพรั่นพรึงขึ้นโดยทั่วไป
ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์ทั้งหลายในบ้านเมืองของเราทุกวันนี้เกิดจากความมัวเมาลุ่มหลงติดยึดในอำนาจ และยิ่งเผยให้เห็นถึงความปรารถนาที่จะสืบทอดอำนาจต่อไป ก็ยิ่งก่อให้เกิดแรงต้านอย่างกว้างขวางรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
ไม่เห็นหรือว่าโหรานุโหรและนักวิเคราะห์การเมืองต่างๆ ได้พากันพยากรณ์และวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่าจะเกิดวิกฤตถึงขั้นที่สุด อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ ล้มตาย และไร้แผ่นดินอยู่กันก็ได้
ข่าวคราวการยุบสามพรรคการเมืองคือพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคพลังประชารัฐ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาระยะหนึ่งแล้ว กระทั่งเกิดขบวนการร้องขอให้ตรวจสอบไต่สวนกันแล้ว และเรื่องก็อยู่ระหว่างกระบวนการ จนกระทั่งได้มีการกำหนดระเบียบการไต่สวนใหม่ที่เรียกว่าการไต่สวนแบบ fast track คือต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน หรือถ้าจำเป็นก็เลื่อนได้อีกเล็กน้อย
และบัดนี้กระบวนการไต่สวนก็เริ่มขึ้นแล้วอย่างเงียบๆ แม้ไม่มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีการพูดกันแล้วว่าอาจมีการยุบพรรคการเมืองในช่วงก่อนรู้ผลเลือกตั้ง
ซึ่งเป็นแบบทำนองเดียวกันกับการยุบพรรคที่เคยเกิดขึ้นแล้วในช่วงก่อนเลือกตั้งปี 2562 ทำให้พรรคพันธมิตรของพรรคเพื่อไทยพรรคหนึ่งต้องสิ้นสลาย และบรรดาผู้สมัครทั้งหลายตายคาเวทีทั้งหมด จนทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเสียศูนย์ไปจนกระทั่งถึงวันนี้
การยุบพรรคอนาคตใหม่ก็เป็นแบบเดียวกัน ดังนั้น กระบวนการยุบพรรคที่เคยยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคต่างๆ ในระยะที่ผ่านมา ซึ่งมีนัยเป้าหมายทางการเมืองที่ต้องการขัดขวางไม่ให้นักการเมืองและพรรคการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามกับอำนาจต้องหมดบทบาททางการเมืองจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้ว เรียกว่าเป็นลูกไม้ที่รู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว
และบัดนี้ก็จะมีการใช้ลูกไม้เก่ากันอีกแล้วข่าวยิ่งหนาหูมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งเกิดความกระเพื่อมไหวขึ้นในบ้านเมืองของเรามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งต้องไม่ลืมว่าสภาพที่เป็นรัฐล้มเหลวและประชาชนทั่วประเทศลำบากทุกข์เข็ญโดยไม่มีใครนำพานั้นกำลังก่อให้เกิดกระแสปฏิวัติที่เรียกหาความเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ดังนั้นยิ่งมีกระแสการยุบพรรคมากเท่าใด แรงกระเพื่อมไหวที่จะต่อสู้ต่อต้านก็ขยายตัวลุกลามและยกระดับความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ระวังให้จงดีเถิด กองเพลิงอันน้อยถ้ามาตรแม้นประมาทแล้วก็จะเป็นไฟเผาบ้านเผาเมืองได้ฉันใด ไฟปฏิวัติที่กำลังก่อตัวขึ้นนี้หากประมาทพลาดพลั้งก็จะเผาผลาญบ้านเมืองจนก่อเกิดสภาพใหม่ขึ้นโดยไม่คาดฝันก็ได้
แต่ในอีกด้านหนึ่ง พรรคเพื่อไทยพรรคก้าวไกล และพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งบัดนี้อาจจะมีอีกพรรคหนึ่งเพิ่มขึ้นคือพรรคภูมิใจไทยก็คงจะไม่นั่งรอชะตากรรมโดยไม่ทำอะไรเป็นแน่แต่จะทำอะไรก็ยากที่จะเดาใจกันได้
แต่ที่เห็นชัดๆ ก็คือปรากฏการณ์เคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐนั้นมีปรากฏการณ์ที่ล้ำลึกปรากฏอยู่ นั่นคือการปรากฏขึ้นของการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า “ครอบครัวเพื่อไทย” ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นขบวนใหญ่ที่เกือบจะเป็นน้ำเนื้อเดียวกันกับเนื้อตัวของพรรคเพื่อไทย
อุปมาเหมือนกับงูตัวหนึ่งที่กำลังเตรียมลอกคราบ และเมื่อถึงเวลาอันควรก็จะเกิดการลอกคราบขึ้น งูตัวนั้นก็จะกลายเป็นงูตัวใหม่และตัวใหญ่มากขึ้น แต่ก็เป็นงูตัวเดิมอยู่นั่นเอง ที่ทิ้งไปก็คือคราบ
ส่วนอีก 2-3 พรรค ก็คงเตรียมตัวเตรียมการไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง เพราะไม่มีใครนั่งงอมืองอเท้าให้ถูกประหารเอาแต่ฝ่ายเดียวเป็นแน่ คงเหลือแต่มวลชนที่สนับสนุนถ้าถึงจุดหนึ่งคุมกันไม่ได้ก็จะกลายเป็นเพลิงแห่งวิกฤตที่อาจกลายเป็นกลียุคได้
บทเรียนการยุบพรรคในปี 2562 จะเป็นการยุบพรรคหลังจากปิดสมัครรับเลือกตั้งแล้ว และจะก่อนการประกาศผลการรับรองการเลือกตั้ง เพราะจะทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนพ้นสภาพหรือเรียกว่า ตายทั้งเป็น และจะหาพรรคใหม่สังกัดก็ไม่ได้
จากบทเรียนนั้นจึงต้องจับตาดูกันว่าเมื่อถึงวันเวลาสมัครรับเลือกตั้ง คณะครอบครัวเพื่อไทยจะลงสมัครในพรรคการเมืองใหม่ที่อาจเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว หรือว่าจะยอมจมไปกับเรือ?
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี