วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การเลือกตั้ง 2566 ยังไม่ทันจะได้ประกาศวันสมัครรับเลือกตั้ง ก็มีข่าวคราวการโกงเลือกตั้งกันสนั่นหวั่นไหวในหลากหลายรูปแบบและหลากหลายมิติ จนประชาชนทั่วประเทศเอือมระอาตามๆ กัน
รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติให้จัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และรวดเร็ว ซึ่งต้องถือว่าเป็นสามหลักการสำคัญที่สุดของการเลือกตั้ง แต่หลักการทั้งสามนี้กลับถูกท้าทายอย่างโจ่งแจ้งและเย้ยฟ้าท้าดินประหนึ่งว่าบ้านเมืองนี้ไม่มีขื่อแป
ดังนั้นประชาชนไทยทั่วประเทศและผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายจึงต้องพร้อมเพรียงกันระมัดระวังป้องกันแก้ไขเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้ง เพราะไว้วางใจใครไม่ได้ และในที่สุดประชาชนนั่นแหละที่จะกำกับควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และรวดเร็ว
ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้คือการโกงเลือกตั้ง ซึ่งมีมากมายหลากหลายวิธีและกระทำกันอย่างโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่ม ในวันนี้จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงการใช้อำนาจรัฐทุจริตในการเลือกตั้ง ซึ่งกระทำกันในสองลักษณะ คือ ใช้เงินภาษีของราษฎรทั่วประเทศเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง และใช้อำนาจตลอดจนสมบัติของชาติไปเป็นเครื่องมือในการหาเสียงทางอ้อม ซึ่งขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์และประณามกันทั่วทั้งบ้านทั้งเมือง
ในเรื่องการใช้เงินภาษีของราษฎรทั่วประเทศเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง ได้แก่ การเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบางประเภท บางหน่วยงาน ที่แลเห็นได้ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพราะสามารถเข้าถึงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ การซื้อใจ ซื้อเสียงคนเหล่านี้ก็ย่อมหวังผลประโยชน์ในการเลือกตั้ง
ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อชาติ ต่อประชาชน ต่อพรรคการเมืองอื่น แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่ร่วม 3 ล้านคนไม่ได้รับการเพิ่มค่าตอบแทนใดๆ
ดังนั้นประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะผู้รักความเป็นธรรมทั้งหลายและข้าราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของรัฐทั่วประเทศที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเลือกที่รักมักที่ชัง จึงต้องพร้อมใจกันลงประชาทัณฑ์ให้แก่พรรคการเมืองและนักการเมืองที่โกงการเลือกตั้งด้วยวิธีการดังกล่าวไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างสืบไป
จะต้องรำลึกไว้ด้วยว่าการเอาเงินภาษีของประชาชนไปเพิ่มค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐบางหน่วยงานในช่วงหน้าการเลือกตั้งนั้นจะเป็นภาระผูกพันงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งย่อมกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของประเทศ และอาจส่งผลให้ต้องเพิ่มภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ จากประชาชนให้ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก
ในเรื่องการใช้อำนาจรัฐเอาทรัพย์สินและเจ้าหน้าที่ของรัฐไปอำนวยประโยชน์ในการเลือกตั้งในลักษณะแฝงไปกับข้ออ้างว่าไปตรวจราชการ ซึ่งกำลังกระทำกันอย่างเอิกเกริกในขณะนี้
ในเรื่องนี้สังเกตและจับตาได้ง่ายๆ ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีการไปตรวจราชการพื้นที่เหล่านั้นและในเรื่องเหล่านั้นบ้างหรือไม่ มากน้อยเพียงใด และไปตรวจราชการกันอย่างไร ซึ่งจะแตกต่างจากการโกงการเลือกตั้งที่แฝงไปกับข้ออ้างว่าไปตรวจราชการ
ลักษณะแฝงที่เด่นชัดก็คือการนัดหมายประชาชนวงการต่างๆ ในพื้นที่เพื่อให้นักการเมืองได้พบปะหาเสียงในการเลือกตั้ง ซึ่งกระทำกันเป็นหลักและมีลักษณะเป็นล่ำเป็นสัน มีการจัดปราศรัย มีการนำนโยบายของพรรคการเมืองไปโฆษณาหาเสียงในการสร้างความสนิทชิดเชื้อกับประชาชน รวมทั้งการแสดงท่าทีสนับสนุนในการเลือกตั้ง
ในขณะที่เนื้อหาการไปตรวจราชการนั้นแทบไม่มีอะไรเลย ในบางที่ทำทีไปตรวจราชการเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่ไปพบปะปราศรัยหาเสียงกับประชาชนเป็นครึ่งวันค่อนวัน มีการกะเกณฑ์ขนประชาชนไปต้อนรับ ไปตั้งกองเชียร์ ไปยกป้ายสนับสนุน ไปร้องตะโกนเชียร์
เหล่านี้คือการหาเสียงในการเลือกตั้งแต่แฝงไปกับข้ออ้างว่าไปตรวจราชการ ซึ่งการอ้างอย่างนี้ทำให้เกิดภาระรายจ่ายแก่รัฐ เพราะบรรดารายจ่ายทั้งหมดในการจัดสถานที่ ในการต้อนรับ และอื่นๆ รวมทั้งยานพาหนะทั้งหลาย และการระดมเจ้าหน้าที่มาต้อนรับล้วนต้องมีรายจ่ายของรัฐในรูปเบี้ยเลี้ยงและค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ที่สำคัญคือทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่นั้นไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชนตามปกติได้ ต้องถูกระดมหรือถูกเกณฑ์กันมาต้อนรับนักการเมืองที่ไปหาเสียงแฝงแบบนี้
นี่ก็คือการโกงการเลือกตั้งที่เห็นได้ชัดและรู้กันทั่วประเทศ แต่ยังคงทำกันอย่างโจ๋งครึ่ม เหมือนหนึ่งว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อแป ไม่มีใครดูแลรับผิดชอบ
การกระทำดังกล่าวทั้งสองลักษณะไม่มีทางที่จะเห็นได้ว่าเป็นการสุจริต กระทั่งมากกรณีมีพฤติกรรมส่อชัดเจนไปในทางทุจริต คือแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเองและพรรคการเมือง
ไม่มีทางเห็นได้เลยว่าเป็นการเที่ยงธรรมหรือเป็นความยุติธรรมแก่พรรคการเมืองอื่นหรือนักการเมืองอื่น เพราะมีลักษณะเอาเปรียบ โดยใช้ทรัพยากรของรัฐเป็นเครื่องมือในการเอาเปรียบ ซึ่งไม่เป็นธรรมแก่พรรคการเมืองและนักการเมืองอื่น อันเป็นการผิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายการเลือกตั้งอย่างโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่ม
การโกงการเลือกตั้งในสองลักษณะนี้ย่อมเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองและนักการเมืองที่มีอำนาจ ในขณะที่พรรคการเมืองและนักการเมืองที่ไม่มีอำนาจไม่สามารถกระทำได้และเป็นฝ่ายต้องเสียเปรียบ
เป็นการทุจริตและไม่เที่ยงธรรมที่ผิดรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมายเลือกตั้ง และผิดจรรยาบรรณ ตลอดจนขัดต่อจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย โดยสรุปก็คือมีความผิดมากมายหลายสถาน และมีแบบอย่างว่า ป.ป.ช. และศาลเคยชี้มูลความผิดและพิพากษาจำคุกมานับไม่ถ้วนแล้ว
ข้าราชการหลายคนที่เอารถหลวงไปใช้ รับพ่อตาไปส่งโรงพยาบาลบ้าง ไปธุระส่วนตัวบ้าง ไปทอดผ้าป่าบ้าง ก็เคยถูกชี้มูลความผิดและเคยถูกจำคุกกันมาแล้ว อย่างเบาะๆ ก็ต้องถูกออกจากราชการ ทั้งๆ ที่มูลค่าความเสียหายไม่มากนัก
แต่ภายใต้ข้ออ้างไปตรวจราชการแต่ละครั้งต้องใช้จ่ายเงินหลายล้านบาท ต้องใช้ทรัพย์สมบัติของชาติไปอำนวยความสะดวกเป็นจำนวนมาก ต้องระดมเจ้าหน้าที่ของรัฐมาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก ยิ่งกว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐตัวเล็กๆ ที่เอารถหลวงไปใช้ รับญาติไปส่งโรงพยาบาล หรือไปทอดผ้าป่าชนิดเทียบกันไม่ได้
แต่ไฉนเล่าการกระทำความผิดมากมายหลายสถานเหล่านี้จึงยังเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดชนิดเย้ยฟ้าท้าดิน โดยไม่ยำเกรงกฎหมาย ไม่เกรงกลัวกระบวนการยุติธรรมไม่กลัวการถูกไต่สวน ไม่กลัวคุกตะราง ไม่กลัวการถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่กลัวการถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง
กระทั่งประชาชนก่นด่ากันทั้งประเทศ หรือพรรคการเมืองอื่นตำหนิติเตียนประณามกันจ้าละหวั่น ทุกอย่างก็ยังเป็นไปเหมือนเดิม
นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา และทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต ไม่เป็นไปโดยเที่ยงธรรม
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีแต่การสร้างความไม่พอใจสร้างความโกรธแค้นชิงชังให้แก่ผู้มีอำนาจ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกว่าทำไมผลโพลล์อิสระกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คะแนนนิยมจึงไปเทให้กับผู้นำฝ่ายค้านจนกระทั่งมีคะแนนนิยมถึงครึ่งหนึ่ง ในขณะที่พรรคการเมืองหรือผู้นำทางการเมืองอีกฝ่ายหนึ่งที่มีอำนาจและที่เป็นบริษัทบริวารรวมกันแล้วก็ยังมีคะแนนนิยมห่างกันมากนัก
ประชาชนได้แสดงท่าทีและแสดงอำนาจของประชาชนโดยผ่านโพลล์อิสระต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่แทนที่สถานการณ์จะดีขึ้นกลับทำให้เกิดอาการอกสั่นขวัญผวาแก่ผู้มีอำนาจ ยิ่งกระทำกรรมหนักขึ้นกว่าเก่าในลักษณะที่ท้าทายอำนาจของประชาชนโดยไม่แยแสใดๆ กันอีกแล้ว
การแสดงท่าทีของ สว. บางคนว่าแม้พรรคฝ่ายค้านบางพรรคจะชนะเลือกตั้งท่วมท้นเป็นเสียงข้างมากก็จะไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล หรือถ้าจัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะเกิดการปฏิวัติรัฐประหารได้
ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศกำลังถูกท้าทายอย่างโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่มที่สุด แล้วคงจะได้เห็นดีกัน!

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี