ไปเช็งเม้ง ที่ลำปาง ไปทำไม? ควรทำอะไรบ้าง! จึงได้คุณค่าความหมายสมบูรณ์
ทฤษฎีความสุขของฉัน (ปู่จิ๊บ)
1.ฉันได้คิดดีทำดี ได้ทำสิ่งที่ดีงาม
2.ฉันได้เห็นพี่น้อง ญาติ เพื่อนมิตร ทำดี มีสุข
3.ฉันได้เห็นคนไทยและประเทศไทยมีความสุข
4.ฉันได้เห็นชาวโลกมีสุข พ้นทุกข์
5.การทำงานที่ดี ต่อตน ผู้อื่นและส่วนรวม คือ การปฏิบัติธรรม : ทำแล้วมีสุข
วันนี้ มาเล่าเรื่อง “ประเพณีวัฒนธรรม” ที่ดีงามสำหรับสังคมไทย อย่าง ๑ ซึ่ง การได้คิด และได้กลับไปลำปางไปร่วมงาน “เช็งเม้ง” ต่อบรรพบุรุษ เป็นความสุขยิ่ง
เรื่องควรรู้เกี่ยวกับเทศกาล เช็งเม้ง
คำสอนจีนกล่าวไว้ว่า : คุณธรรมทั้งปวงล้วนมีความกตัญญูเป็นปฐม แห่งความดีและความสุข
ความสำคัญ รำลึกถึงบรรพบุรุษ
การถือปฏิบัติ กวาดทำความสะอาดหลุมฝังศพเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ถวายอาหารแก่บรรพบุรุษเผากระดาษเงินกระดาษทอง
วันที่ 15 วัน หลังจากวันวสันตวิษุวัต 4, 5 หรือ 6 เมษายน ปัจจุบัน ปรับให้เข้าสภาพของสังคมไทย โดยอยู่ในช่วง 15 มีนาคม-8 เมษายน
เทศกาลเช็งเม้ง
“เช็ง” หรือ “เฉ่ง” หมายถึง สะอาด บริสุทธิ์ และ “เม้ง” หรือ “เบ๋ง” หมายถึง สว่าง รวมแล้วหมายความถึง : ช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์
ความหมายตามตัวอักษร : “เทศกาลความสว่างบริสุทธิ์”
เช็งเม้งในประเทศจีน
เริ่มต้นประมาณ 4-5 เมษายน ไปจนถึง 19-20 เมษายน เป็นฤดูใบไม้ผลิ อากาศจะคลายความหนาวเย็น เริ่มเข้าสู่ความอบอุ่น มีฝนตกปรอยๆ มีบรรยากาศสดชื่น ท้องฟ้าใสสว่าง (เป็นที่มาของชื่อ เช็งเม้ง)
ในประเทศไทย : (ดูข้างบน)
ประเพณีที่สำคัญมากที่สุดของของชาวจีน คือไหว้บรรพบุรุษที่สุสาน ฮวงซุ้ย (แต้จิ๋ว)แต่คนฮกเกี้ยนเรียกว่า“บ่องป้าย” เป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ โดยมีอิทธิพลมาจากลัทธิขงจื๊อ ที่เน้นเรื่องความกตัญญูเป็นสำคัญ
เรื่องวันไหว้ การจุดธูปไหว้ เรื่องสถานที่ (สุสานฯ) เรื่องอาหารไหว้ ฯลฯ ปัจจุบัน มีการปรับให้เหมาะสม กับสภาพความเป็นจริง เช่น
วันไหว้ : สมัยก่อน ต้องกำหนดวันตายตัว > สมัยนี้ ก็ปรับให้มีหลายวัน เป็นช่วงเวลา
การจุดธูป : สมัยก่อน ต้อง ทำ ๓ รอบ > สมัยนี้ จะใช้ธูป แต่ไม่จุดไฟ (เรื่องสิ่งแวดล้อม)
อาหารไหว้ : สมัยก่อน ต้องให้ครบถ้วน มีปริมาณมาก >สมัยนี้ ปรับลดลง (เศรษฐกิจ)
สถานที่ : สมัยก่อน ต้องไปที่สุสาน > สมัยนี้บางส่วน ไม่สะดวก ทำที่บ้าน (สภาพความจริง)
เราต้องจับหลักที่สำคัญของงานฯ
1.สิ่งที่เป็นหัวใจ เป็นหลัก คือ “การแสดงความกตัญญู ต่อบรรพบุรุษ”
2.รองลงมา : เป็นโอกาส ที่พี่น้อง ครอบครัว เครือญาติจะได้มาพบปะกันให้ลูกหลาน ที่บางครั้งยังไม่รู้จักกัน ได้มารู้จักกันฯ
3.ส่วนเรื่องอื่นๆ : ล้วนรองลงไป
ขอเล่าเรื่องรูปธรรม ในชีวิตของผม ที่ได้ไปร่วมงานเช็งเม้ง ปี ๒๕๖๖
1.รับทราบกำหนดวัน ที่พี่น้อง ร้านชัยประสานจัดงาน : วันเสาร์ที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๖
2.จองรถทัวร์ล่วงหน้า ไปกลับ “กรุงเทพฯ-ลำปาง-กรุงเทพฯ” ได้ที่นั่งเดียว ทั้งไปและกลับ เพื่อรักษาป้องกัน“สุขภาพ” นอนไปในรถ ออก ๒๐.๑๕ น. (๒๔ มีนาคม)ถึงลำปาง ตี ๕ (๒๕ มีนาคม) เนื่องจาก ผมฝึกพัฒนาการนอนมายาวนาน จึงนอนหลับสบาย (ประหยัดค่าโรงแรม)
3.ตื่นเช้า สามารถทำงานได้เลยพี่น้องจัดอาหารไหว้ไว้แล้ว ไปถึงกินอาหารเช้าและเตรียมของไปไหว้
4.ลูกหลาน ได้ทำตามประเพณี และคุณธรรม : ความเคารพ ความกตัญญู ต่อ พ่อแม่ และบรรพบุรุษ โดยได้จัดการไหว้ ๓ สถานที่
1.เริ่ม ๐๖.๐๐ น. ที่สุสาน พระบาท ลำปาง(บรรพบุรุษทางป๋า) ทำพิธีเสร็จ ได้กลับมาเอาของที่ไหว้แล้วลง จัดของใหม่ ขึ้นมา
2.ประมาณ ๐๙.๐๐ น. ที่สุสานบริเวณ วัดม่อนกระทิง ลำปาง (บรรพบุรุษทางแม่)
3.เพิ่มขึ้นมา อีก ๑ หลังจากป๋า และคุณแม่ จากไปสู่สุคติได้ทำพิธี ฌาปนกิจที่วัด แล้วเก็บอัฐิ มาบูชา รำลึก ที่บ้านร้านชัยประสานลำปาง (ป๋า และแม่)
ได้คุยแลกเปลี่ยนในหมู่ พี่น้อง จึงได้ข้อมูลที่น่าสนใจ
1.ฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษ ที่สุสานพระบาท ลำปาง ก่อสร้างขึ้น ปี ๒๔๘๓
เพื่อฝังร่างของ ทวดขุนวิชัยวานิช (นายกิมสูน สุรวิชัย)(ถึงแก่กรรม) และนำอัฐิของ ย่าปุย ที่เสียชีวิตไปก่อน มาฝังรวมกันและมีสถูปของญาติของป๋าอยู่ข้างๆ ด้วย รวมทั้งที่ “เจ้าที่” อยู่ข้างๆ
2.ฮวงซุ้ยฯ บริเวณ วัดม่อนกระทิง ลำปาง ปี ๒๔๙๙
ก๋ง : นายเฮว เฮวอินปี ๒๔๙๙
ย่า : นางคำใส ไชยวงศา เฮวอินปี ๒๕๑๐
3.ที่บ้านร้านชัยประสาน : ป๋า นายบุญช่วย สุรวิชัย แม่ นางบุญจันทร์ สุรวิชัย ปี ๒๕๓๔ และ ปี ๒๕๓๗(เป็นช่วงที่ไม่มีการฝังแล้ว)
4.ข้อความป้าย ภาษาจีน ที่อยู่หน้าฮวงซุ้ย มีความน่าสนใจมาก เพราะบอกถึง ชื่อ วัน ปีเสียชีวิต ที่อยู่ในเมืองจีนมาจากที่ไหน และเครือญาติบรรพบุรุษ ฯลฯ
การได้คุยกัน ในหมู่พี่น้อง เขย สะใภ้ และลูกหลาน ในหมู่พี่น้อง
เป็นโอกาส ที่หาได้ยากขึ้น ในชีวิตความเป็นจริงในสภาพปัจจุบันอยู่กันคนละที่ คนละจังหวัด และบางคนอยู่ต่างประเทศการได้มาอยู่อย่างพร้อมหน้าตากันได้อะไรมากเลย คุยกันถึง “ป๋าแม่ พี่น้อง” ชีวิตในยามเด็กและเกร็ดเล็กน้อยต่างๆ
ความรัก การให้ การเสียสละ ที่ “ป๋าและแม่”ให้แก่ลูกๆ
ป๋า : เป็นคนมีความจำเป็นเลิศ อะไหล่เต็มร้าน(๓ ห้อง) เป็นพันๆ รายการ จำได้หมดเป็นคนชอบจดบันทึก เขียนด้วยปากกาเชฟเฟอร์ หมึกสีเขียว ยี่ห้อ GEHA
คุณแม่ : เป็นเจ้าของการบันทึก เรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากมาย โดยเฉพาะ เรื่องราวของลูกๆ ทุกคน การเขียนจดหมายถึงลูก การให้ความรัก และการเสียสละ
ทุกอย่างของแม่แก่ลูกๆ
และเรื่องราวของพี่น้อง ในยามเด็ก มีอะไรกันไม่น้อยทำให้เกิด ความรัก ความประทับใจ และความซาบซึ้ง ที่ก่อให้เกิดความสุขที่เต็มหัวใจ
อนึ่ง ในการกลับไปเช็งเม้ง ที่ลำปางครั้งนี้ ได้มีโอกาสพิเศษสุดอีกครั้งหนึ่ง อย่างน้อย ๒ เรื่อง
1.ได้ไปเยี่ยม น้าบุญเกิด ตันสุวรรณ เฮวอินปี เป็นคนเดี่ยวของญาติผู้ใหญ่ ที่ยังคงอยู่ และเป็นแม่ของ โกแดง :สุรพล ตันสุวรรณ (๗๑ ปี) ทั้งๆ วัย ๙๘ ปี (๒๔๖๘)แต่ยังมีสุขภาพแข็งแรงดี สำหรับผู้มีอายุวัยนี้ ยังมองเห็นอ่านหนังสือได้ และยังจำลูกหลานได้ พูดคุย อ่านหนังสือตอบคำถาม ว่า ใครเป็นใครได้
2.พี่มงคล ไวยวุฒิ (๘๙ ปี) ลูกชายคนโตของป้าอิน(พี่สาวคนโตของพี่น้อง) ยังแข็งแรงมาก ขี่รถจักรยานวันละ ร่วมร้อยกิโลเมตรฯ
เป็นความรัก และความสุข ยิ่งในโอกาส “เทศกาลเช็งเม้ง ปี ๒๕๖๖” อันเกิดจาก “การมีความคิดที่ถูกดีงาม และมีการลงมือปฏิบัติด้วย”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี