• เข้าใจถึงเรื่องราวชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและน่าเรียน เพื่อแบ่งปันกัน
ชีวิตที่เริ่มต้นจากการได้รับการบ่มเพาะที่ดีจากคนรอบข้าง
การใช้ชีวิตที่ใช่ ไล่มาตั้งแต่เด็ก หนุ่ม ผู้ใหญ่ มาถึงปลายทางของชีวิตมาถึงชราชน
@ ฉันโชคดี ด้วยป๋าแม่ ครู พระ ญาติมิตร ที่ให้ความคิดแบบอย่างในการใช้ชีวิต
เติบโตผ่านประสบการณ์ต่างๆ และเดินทางมาถึงบั้นปลายด้วยความสุขสงบนั้น
เป็นสิ่งที่คนปรารถนา
ขออนุญาตขยายความในแต่ละประเด็นที่กล่าวถึง
เพื่อให้เป็นบทเรียนและแนวทางในการดำเนินชีวิตที่สุขกายสบายใจสำหรับผู้อื่น
พร้อมทั้งสรุปหลักการสำคัญครับ
การใช้ชีวิตที่ใช่ : จากวัยเยาว์สู่ชราภาพ
“ฉันโชคดี ด้วยป๋าแม่ ครู พระ ญาติมิตร ที่ให้ความคิดแบบอย่างในการใช้ชีวิต” นั้น
เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างยิ่ง การได้รับแบบอย่างที่ดีและแนวคิดที่ถูกต้องจากบุคคลใกล้ชิด
ตั้งแต่เด็กหล่อหลอมให้เรามีรากฐานที่มั่นคงในการดำเนินชีวิต
สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนเข็มทิศที่นำทางให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
การเรียนรู้และซึมซับคุณธรรม จริยธรรม และทัศนคติที่ดีจากผู้มีประสบการณ์
เป็นทรัพย์สินอันล้ำค่าที่ติดตัวเราไปตลอดชีวิต
ตารางชีวิตประจำวันและการบันทึกไดอารี
การมีตารางชีวิตประจำวัน แสดงถึงการจัดระเบียบและการให้ความสำคัญกับเวลา
การตื่นแต่เช้าตรู่จนถึงเข้านอนอย่างเป็นกิจวัตร ช่วยสร้างความสมดุลในชีวิต
และทำให้เราสามารถบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การบันทึกไดอารี่ เครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการทบทวนตนเอง มองเห็นการเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้จากประสบการณ์ในแต่ละวัน
การได้กลับมาอ่านบันทึกเก่าๆ จะช่วยให้เราเข้าใจเส้นทางการเติบโตของตนเอง
และเห็นคุณค่าของช่วงเวลาต่างๆ ที่ผ่านมา
ธรรมะ: หนทางสู่ความสงบภายใน
การฟังพระสวด การบรรยายธรรม และการปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง
เป็นการบ่มเพาะจิตใจให้สงบและมีสติปัญญา
ธรรมะช่วยให้เราเข้าใจสัจธรรมของชีวิต มองโลกตามความเป็นจริง
ลดความยึดมั่นถือมั่น และอยู่กับปัจจุบันได้อย่างมีความสุข
การศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนเป็นเหมือนการเติมพลังใจและสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้เข้มแข็ง
ออกกำลังกาย: การดูแลรักษาสุขภาพกาย
การเดินแกว่งแขนตามที่คุณพ่อทำ เป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลสุขภาพ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส และลดความเสี่ยงของโรคภัยต่างๆ
การเดินเป็นการออกกำลังกายที่เรียบง่ายแต่มีประโยชน์มหาศาล ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ
การได้เดินไปพร้อมกับคนที่เรารักยิ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย
เดินและใช้รถเมล์: ความพอเพียงและการเข้าถึงวิถีชีวิต
การเลือกเดินและการใช้รถเมล์แทนการใช้ยานพาหนะส่วนตัว
เป็นการแสดงออกถึงความประหยัดและความพอเพียง
นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายไปในตัว
และเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับชีวิตของผู้คนรอบข้าง
ได้เห็นวิถีชีวิตที่หลากหลาย
ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและสอนใจ
มีสลึง พึ่งบรรจบให้ครบบาท : คุณค่าของการทำงานสุจริต
การที่คุณสามารถเก็บเงินจากการทำงานสุจริตจนสร้างบ้านได้สำเร็จ
เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่น ความอดทน และความซื่อสัตย์
การทำงานด้วยความสุจริตเที่ยงธรรมนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและความสุขที่แท้จริง
เงินทองที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ย่อมนำมาซึ่งความเจริญและความมั่นคงในชีวิต
อาหารจานเดียวตั้งแต่เด็ก : ความรัก ความอร่อย ความพอดี
การเติบโตมากับการรับประทานอาหารจานเดียว
แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายและความพอเพียงในเรื่องอาหาร
อาหารอร่อยไม่จำเป็นต้องหรูหราราคาแพง
การรู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมีและให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการ
เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจ
การต่อสู้อย่างเป็นกระบวนการ : มองภาพรวมของชีวิต
การที่คุณมองเห็นการต่อสู้ในชีวิตเป็นกระบวนการ ตั้งแต่เริ่มต้น ท่ามกลางจนถึงบั้นปลาย
แสดงถึงความเข้าใจในธรรมชาติของชีวิตที่ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ
การมองเห็นภาพรวมช่วยให้เราสามารถวางแผน รับมือ และปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆ
ได้อย่างมีสติและไม่ย่อท้อ
อย่าอยู่นิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเขาเล่น : การสร้างคุณค่าและการไม่หยุดนิ่ง
คำสอนที่ว่า “อย่าอยู่นิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเขาเล่น”
เป็นการกระตุ้นให้เราไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่น
แม้จะเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม
การมีจิตใจที่พร้อมจะช่วยเหลือและสร้างสรรค์สิ่งดีๆ อยู่เสมอ
เป็นคุณสมบัติของผู้ที่มีความสุขและมีคุณค่าในสังคม
ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี