วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
คุณอัญชลีพร กุสุม ผู้ประกาศข่าวทีวี/จัดรายการวิทยุเป็นนักข่าวอาวุโสโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กสั้นๆ ว่า “อยากเป็นกันนักก็ให้เป็นๆ ไป นายกฯที่คิดร้ายกับสถาบันไม่ได้ตายเมืองไทยสักคน”โพสต์ของคุณอัญชลีพรกลายเป็นไวรัลที่มีคนแชร์เป็นจำนวนมาก และ เมื่อนำข้อความของคุณอัญชลีพรมาไล่เลียงจากประวัติศาสตร์ตำนานที่เคยอ่านและประสบการณ์ทำข่าวมาเกือบครึ่งศตรรษก็ได้พบความจริงว่าผู้ที่มุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีใครได้ตายในเมืองไทยสักคนจริง อย่าว่าแต่ผู้ที่มุ่งร้ายถึงกับทำลายล้มล้างสถาบันฯเลย แค่คนทำตนเสมอท่านในงานพระราชพิธี หรือ ราชประเพณีโบราณนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์คนนั้น ก็อยู่ประเทศไทยไม่ได้แล้ว
ดังนั้นขอให้คนไทยผู้จงรักภักดีที่หวั่นไหว กับผลการเลือกตั้งและความพยายามจัดตั้งรัฐบาลกลัวว่า พรรคที่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีนโยบายต่อต้านสถาบันฯจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จและจากนั้นก็ใช้อำนาจฝ่ายบริหารบั่นทอนความมั่นคงสถาบันพระมหากษัตริย์
ขอให้ชาวไทยผู้จงรักภักดีมั่นใจได้ว่าคนกลุ่มนี้ไม่มีความกล้าหาญและไม่มีศักยภาพพอที่จะต่อกรกับชาวไทยผู้จงรักภักดี และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่คู่ประเทศไทยมากว่าเจ็ดร้อยปี
พรรคการเมือง นักการเมือง นักวิชาการ นักกิจกรรมทางการเมืองที่มีพฤติกรรมต่อต้าน หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ล้วนแต่เป็นนักแสดงละคร เป็นอีแอบขี้ขลาดที่หลอกใช้เยาวชน และคนโง่เขลาให้เป็นบันไดไต่เต้าทางการเมือง หลอกใช้เยาวชนคนโง่เขลาให้ติดคุกติดตะรางเพื่อเป็นข้ออ้างสร้างเงื่อนไขมาใช้เป็นนโยบายหาเสียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการแสดงละครของพวกมันกลับได้ผลเพราะคนโง่ในประเทศไทยมีมากพอเป็นบันไดให้นักการเมืองได้ไต่เต้าขึ้นสู่อำนาจ
ดังที่ นายปรเมษฐ์ ภู่โต ผู้ดำเนินรายการและผู้ประกาศข่าวสถานีวิทยุ/ทีวีแห่งประเทศไทย หรือ NBT โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า
...“คนที่เลือกก้าวไกล เพราะไม่เอาสถาบันฯ ชัดเจน อันนี้เข้าใจได้ เพราะมันคือเป้าหมายของพวกเขา แต่คนที่ไปเลือก แล้วบอกว่า ยังจงรักภักดีกับสถาบันฯอยู่เหมือนเดิม ก้าวไกลแค่มา “แก้ไข ไม่ได้ยกเลิก 112” หรือ “มาปฏิรูป ไม่ได้มาล้มล้างสถาบัน”
ไม่ต่างอะไรกับการที่คุณยอมไปกินข้าวกับเพื่อนที่แอบใส่ไซยาไนด์ ลงไปโดยที่คุณไม่รู้ตัวนั่นแหละ คุณก็แค่ไปกินข้าว ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน..”
คุณปรเมษฐ์เปรียบเทียบได้ตรงเป้าที่สุด เพราะในความเป็นจริงพรรคอนาคตใหม่ที่แปลงร่างเป็นก้าวไกลได้ใส่ยาพิษทางความคิดให้คนรุ่นใหม่มานานแล้ว ยาพิษที่ว่านั้นมันร้ายแรงกว่าไซยาไนด์เพราะศาสดาของพรรคก้าวไกลที่แปลงร่างจากพรรคอนาคตใหม่ นำเอาทฤษฎีปฏิวัติฝรั่งเศสกับปฏิวัติวัฒนธรรมจีนโดยแก๊งออฟโฟร์มาผสมปนเปกันจนสับสนวุ่นวาย
เคยมีคนเปรียบเทียบนักกิจกรรมการเมืองไทย และ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ว่า เหมือนแก๊งออฟโฟร์ ในสมัยปฏิวัติวัฒนธรรมจีนที่มี มาดามเจียงชิง เป็นแกนนำ ซึ่งแก๊งออฟโฟร์ใช้เยาวชนเรดการ์ด ฆ่าทำลายฝ่ายที่เห็นต่างเป็นเหตุให้มีคนตายจำนวนมากประมาณการกันว่าตั้งแต่ห้าแสนถึงแปดล้านคน
เรดการ์ดฆ่าผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนายทุน ขุนศึก ศักดินาไม่เลือกหน้า เผาทำลายหนังสือหรือสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของจีนอย่างบ้าคลั่ง
แต่แก๊งออฟโฟร์ไทยขี้ขลาดไม่กล้าออกหน้า อย่างมากก็แสดงสัญลักษณ์ในการต่อต้านสถาบันฯ ขุนศึก ศักดินา ส่วนนายทุนนั้น แก๊งออฟโฟร์แห่งประเทศไทย เว้นไว้ไม่พูดถึงเพราะสองในสี่แก๊งออฟโฟร์เป็นนายทุนตัวจริง ทางด้านเรดการ์ดไทยก็ขี้ขลาดเคลื่อนไหว กลัวๆกล้าๆ ทำได้แค่พ่นสีทำลายทรัพย์สินราชการ เล่นระเบิดปิงปอง เผายางรถยนต์ แต่กลับกล้าออกหน้าจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์
อย่างไรก็ตามถึงแม้แก๊งออฟโฟร์แห่งประเทศไทยขี้ขลาดและสับสนในตัวเอง ยังไม่วายยังมีคนออกมาเตือนพรรคก้าวไกลว่าอย่าทำให้ประเทศไทยเหมือน “ปฏิวัติวัฒนธรรมจีน และ เหมือนเขมรแดง”
นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊กชื่อ Phongpan Yamarat หลังจากพรรคก้าวไกลเชิญพรรคชาติพัฒนากล้าเข้าร่วมรัฐบาลแล้วผลักไสออกมาหลังจากถูกมวลชนของพรรคต่อต้านว่า...
“นอกจากการ“ตามใจ”ฐานเสียงแล้วก็ต้องอย่าลืม “หลักการ” อย่าเริ่มตั้งต้นรัฐบาลด้วย “2 มาตรฐาน” ที่พัดโดยการเฮไปมา ของฝูงชน
#มันไม่ต่างอะไรจากยุคปฏิวัติวัฒนธรรมจีนและเขมรแดงเลย จะทำร้ายใคร จะบูลลี่ใคร ไร้หลักการทั้งสิ้นมีแต่การเฮโลตามกระแส ตามการชี้นิ้วให้ไปทำร้ายคนโน้นคนนี้ แค่เพราะตัวเอง “ไม่ชอบหน้า”...
...สุดท้ายขอให้คุณทิมตั้งรัฐบาลได้และได้เป็นนายกฯครบ 4 ปี สิ่งที่ผมหวังและผมรณรงค์มาตลอด 6 ปี คือ การ“ปฏิรูปประเทศ” ตรงนี้ผมให้กำลังใจเต็มที่
...แต่ท้ายสุดประสบการณ์ และมันสมองผมบอกว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีแต่พยายามพัฒนาประเทศอย่างจับต้องได้ และอย่าไปยุ่ง อย่าไปทำร้ายพวกเขา ซึ่งผมก็จะฝากอีกครั้งว่า #หากไปแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ผม และคนอีกมากมาย เราพร้อมจะลงถนนไปสู้กับพวกคุณเช่นกัน...”
ดูเหมือนว่านายพงศ์พรหม วิตกและให้ค่าแก๊งออฟโฟร์มากเกินไป เพราะในความเป็นจริงแล้ว แก๊งออฟโฟร์ในเมืองไทยที่ครอบงำพรรคก้าวไกลขี้ขลาดเกินไปที่จะท้าทายสังคมไทยผู้จงรักภักดีหากบังเอิญตั้งรัฐบาลได้แก๊งออฟโฟร์ไทย และพรรคก้าวไกล ก็จะได้สำเหนียกว่า ผู้ที่มุ่งร้ายสถาบันสูงสุดไม่มีใครได้ตายบนแผ่นดินไทยสักคน
สุทิน วรรณบวร

‘ดร.เอ้’ยกหลักวิศวกรรม ชงข้อเสนอเร่งด่วน‘เจาะเปิดคันถนน’ช่วยระบายน้ำท่วมหาดใหญ่
'สส.โกแพ'เผยทีมเจ็ตสกีช่วยอพยพ ถูกตะโกนด่า–ปาของใส่เกือบโดนหัว
‘สุชาติ’ระดม 15 ทีมกู้ภัยทางน้ำ-เรือ 25 ลำ ลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ตลอด 24 ชั่วโมง
‘รพ.หาดใหญ่’ชี้แจงจำนวนผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ และช่วงน้ำท่วม เก็บรักษา 41 ศพ วอนงดแชร์ข่าวเท็จ
คลิปบีบหัวใจ! วินาทีญาติแจ้ง'น้ำขึ้นสูง คุณยายเกาะไม่ไหว...' กู้ภัยเสียงสั่น พ้อ'เจ็บใจที่มาช้า'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี