ความหวังที่จะมีรัฐบาลดี ไม่ต่างไปจากการซื้อหวย แล้วฝันว่าจะถูกรางวัลใหญ่ ฝันว่าซื้อหวยใบหนึ่งแล้วจะถูกรางวัลที่หนึ่ง
ถามว่าผิดไหมกับการฝันแบบเพ้อๆ เช่นนั้นตอบว่าไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูก ไม่ผิดเพราะมีสิทธิ์ฝัน แต่ที่ไม่ถูกเพราะว่ามันเป็นความฝันที่มีโอกาสเป็นจริงน้อยมาก (ลองกลับไปศึกษาหลักความน่าจะเป็นของการซื้อหวยหนึ่งใบแล้วถูกรางวัลที่ 1 ก็แล้วกัน)
คนดวงดีมีในสังคมนี้หรือไม่ ตอบว่ามี แต่ต้องถามต่อไปอีกว่า แล้วคนดวงดีที่ว่านั้นจะเป็นเราจริงๆ หรือ ในรอบ 30 ปีมานี้ เราเป็นคนดวงดีในเรื่องใดบ้าง เรามีลาภลอยในเรื่องอะไรบ้าง แล้วที่เรามีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้ มันเป็นผลมาจากเราดวงดี หรือเป็นเพราะว่าเราตั้งใจทำมาหากิน
ฉันใดก็ฉันนั้น ไม่ผิดที่คนไทยจะหวังและฝันว่าเราจะมีรัฐบาลดี มีรัฐบาลเก่ง มีคนฉลาดสุดๆ เข้าไปเป็นผู้บริหารประเทศ แต่ก็ต้องถามคนที่ฝันเช่นนั้นว่า คิดบ้างไหมว่าคนดี คนเก่ง คนฉลาดเขาจะเข้าไปบริหารประเทศด้วยเหตุผลใด เขาเข้าไปเพราะเขาเห็นแก่ชาติบ้านเมืองจริงๆ หรือเห็นช่องทางกอบโกยผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อของตนเอง
เพราะการเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์และอำนาจมากมายมหาศาล ดังนั้นจึงมีผู้คนจำนวนไม่น้อยพยายามตะเกียกตะกาย และทุรนทุรายเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์และอำนาจจากเวทีการเมืองในระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นระดับภูมิภาค ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ เพราะเขาเหล่านั้นคิดว่าต้องมีอำนาจรัฐให้จงได้ แล้วใช้อำนาจรัฐไปแสวงหาผลประโยชน์ เมื่อมีผลประโยชน์แล้ว ก็นำไปต่อยอดด้วยการเพิ่มอำนาจรัฐ ดังนั้น จึงไม่ประหลาดใจที่ผู้มีอำนาจทุนก็จะใช้ทุนไปต่อยอดด้วยอำนาจรัฐ และก็ใช้อำนาจรัฐไปต่อยอดด้วยทุน วนไปเวียนมาแบบนี้ไม่รู้จบ
การเข้าสู่อำนาจรัฐมีหลายกลวิธี แต่กลวิธีหนึ่งที่ดูแล้วเป็นเรื่องง่ายดายมากสำหรับคนที่มองว่าการเลือกตั้งคือหนทางเข้าสู่อำนาจรัฐได้สะดวกดายที่สุด ดังนั้น คนจำพวกนี้จึงใช้การโฆษณาชวนเชื่อว่า การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย เพราะคนที่ผ่านการเลือกตั้งคือคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นตัวแทนประชาชน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงคนเหล่านั้นรู้ดีว่าการเลือกตั้งที่เขาอ้างถึงนั้นเป็นการเลือกตั้งที่สุดแสนโสโครก แต่เขาก็ยังคงหลอกตัวเองและหลอกสังคมให้เชื่อว่า การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย เหตุที่เขาต้องโกหกเช่นนั้น เพราะว่าเขาได้ประโยชน์สูงสุดจากการโกหก
จากแนวคิดที่ว่าคนซื้อหวยเพราะหวังจะถูกรางวัลใหญ่ ก็จึงเพ้อคลั่งซื้อหวยไปเรื่อยๆ ทุ่มเงินซื้อไปทุกๆ งวด เรื่องพรรค์นี้ก็ไม่ต่างไปจากคนที่เลือก สส. ด้วยความไร้เดียงสาทางการเมือง ด้วยความหวังว่า สส. จะเข้าไปดลบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างให้คนเลือกได้สมความปรารถนาโดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ
คนพรรค์อย่างว่านั้นดูๆ ไปแล้วก็ไม่ต่างไปจากคนที่เมื่อมองเห็นอะไรอย่างหนึ่งซึ่งส่งประกายวิบๆ วับๆ แล้วเข้าใจด้วยความหลงผิดคิดว่ามันคือทองคำสุกสกาวเหลืองอร่าม เมื่อเข้าใจว่าของวิบๆ วับๆ นั้นคือทองคำแท้ ก็ทุ่มเงินซื้อของสิ่งนั้นด้วยความไร้สติ แต่สุดท้ายก็พบความจริงว่า มันคือวัตถุชิ้นหนึ่งที่หาค่ามิได้แม้แต่น้อย แต่จะทำอย่างไรได้เล่า เพราะคนผู้ซึ่งโง่เขลาทุ่มเงินก้อนสุดท้ายจ่ายให้กับทองปลอมไปแล้ว
ในยามนี้คนไทยจำนวนไม่น้อย แต่ไม่ใช่คนไทยจำนวนมาก และไม่ใช่คนไทยทุกคนกำลังตื่นเต้นกับแสงวิบๆ วับๆ ของสีส้ม เพราะหลงเข้าใจว่าสีส้มคือแสงทองผ่องอำไพ หลงเข้าใจว่าทางที่สีส้มทำไว้จะพาไปสู่สวรรค์ (stairway to heaven)แต่ช้าก่อน โปรดทบทวนอีกครั้ง ดูให้ดีแล้วจะรู้ว่าเส้นทางนั้นพาไปสู่นรกอเวจี (stairway to the lowest hell)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี