วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
“โลกธุรกิจ” หนังสือพิมพ์แนวหน้ารายงานข่าววันก่อนอย่างน่าสนใจ ในประเด็นธุรกิจเลื่อนแผนการลงทุน เพราะต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลชุดใหม่ โดยอ้างอิงข้อมูล ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) เฉพาะกิจ (ระหว่างวันที่ 1-25 พฤษภาคม 2566) ถึงผลกระทบของการเลือกตั้งและการเมืองต่อการลงทุนของภาคธุรกิจในปี 2566 พบว่าการเลือกตั้งและการเมืองส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนของธุรกิจน้อย ธุรกิจส่วนใหญ่ทั้งในภาคการผลิต และภาคที่มิใช่การผลิตยังคงลงทุนตามแผนเดิม ซึ่งผู้ประกอบการจะพิจารณาปัจจัยพื้นฐานก่อน อาทิ กำลังซื้อ การแข่งขัน และแหล่งเงินทุน
อย่างไรก็ตาม มีธุรกิจส่วนหนึ่งเลื่อนแผนการลงทุน อาทิ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจการค้า และธุรกิจผลิตเคมีภัณฑ์ เพื่อรอความชัดเจนของรัฐบาล โดยเฉพาะนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุน และค่าแรงขั้นต่ำซึ่งหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแบบก้าวกระโดด ธุรกิจบางส่วนจะหันไปลงทุนใน Automation มากขึ้นหรืออาจชะลอการลงทุนในไทย แต่ไปเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศที่ค่าแรงต่ำกว่าแทน
ด้านการประเมินภาวะส่งออกของธุรกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประเมินว่า การส่งออกในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 โดยรวมมีแนวโน้มทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยมีหลายธุรกิจประเมินว่าการส่งออกจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน อาทิ ธุรกิจผลิตเคมี ปิโตรเลียมและยางและพลาสติก ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ และผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ส่วนใหญ่จะขยายตัวเพียงเล็กน้อยไม่เกิน 10% ตามคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น และปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ทยอยคลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม หลายธุรกิจคาดว่าการส่งออกในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน เช่น ภาคการค้าและธุรกิจผลิตยานยนต์ระยะเวลาการให้เครดิตของธุรกิจในปัจจุบันไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19
ส่วนระยะเวลาการให้เครดิต (Credit term) ของธุรกิจโดยธุรกิจส่วนใหญ่ให้ระยะเวลาการชำระเงินค่าสินค้าและบริการแก่คู่ค้าเฉลี่ยที่16-45 วัน ขณะที่กว่าครึ่งของธุรกิจผลิตอาหารให้Credit term มากกว่า 45 วัน ซึ่งนานกว่าธุรกิจการผลิตอื่นๆ นอกจากนี้ ธุรกิจบางส่วนในกลุ่มบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะไม่มีการให้ Credit term แก่คู่ค้า
สำหรับรัฐบาลชุดใหม่ จะเกิดขึ้นได้หรือไม่บันไดขั้นแรกอยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)หลังผ่านการเลือกตั้งเมื่อ 14 พฤษภาคมแล้ว ต้องใช้เวลา 60 วัน เพื่อรับรองความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ได้ 95 เปอร์เซ็นต์เพื่อเปิดประชุมสภา และเลือกนายกรัฐมนตรี
แต่ที่น่าวิตกของหลายฝ่ายไปมากกว่านั้นคือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลผู้ได้จำนวนสส.มากที่สุดจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา และกำลังจัดตั้งรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการถือครองหุ้นสื่อขาดคุณสมบัติการเป็น สส.ขาดคุณสมบัติเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้ อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ระบุกำลังพิจารณาอยู่ โดยไม่มีการเมืองกดดันทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง
ทั้งนี้หลายฝ่าย เห็นว่าตัวนายพิธา เป็นเงื่อนไขสำคัญ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ กำลังรออยู่ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ เพราะพรรคก้าวไกลมีนโยบายสุดโต่งมากเกินไป ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่กกต.จะต้องพิจารณาโดยไม่ชักช้า ถ้าเห็นว่าบริสุทธิ์ก็ต้องปล่อยให้นายพิธา เข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้อง ก็ต้องจัดการในตอนนี้ โดยไม่ต้องลังเล ตามตำราผีไปถึงป่าช้าถ้าไม่ฝังก็ต้องเผา เพื่อเปิดทางให้ผู้อื่นจัดตั้งรัฐบาล คลายความกังวลของสังคมต่อไป

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี